ราชบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 4 จากซีซั่น 2024-25 ซึ่งถือว่าโผล่มาเซอร์ไพรส์ได้อย่างเหลือเชื่อ เพราะทำแต้มเหนือทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เสียอีก
ฤดูกาล 2025-26 จึงน่าสนใจว่าจะสามารถรักษามาตรฐานได้หรือไม่ เนื่องจากหลายๆ ทีมก็มีการปรับเปลี่ยนไปในทิศบวก ซึ่งเมื่อดูจากขุมกำลังของพวกเขา เชื่อเหลือเกินว่าราชันมังกรเตรียมทำให้แฟนฟุตบอลชาวไทย ได้ประหลาดใจแน่นอน!!
1. ขุมกำลังอัดแน่นคุณภาพทุกตำแหน่ง
ราชบุรี เอฟซี มีนักเตะมากประสบการณ์และฝีเท้าจัดจ้านกระจายอยู่ในทุกตำแหน่ง เริ่มจากผู้รักษาประตู กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่ยังคงไว้ลายความเหนียวแน่น และได้ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง ทำให้ตำแหน่งนายทวารมีความมั่นคงอย่างมาก
แนวรับนำโดย โจนาธาร เข็มดี และ กาเบรียล มูทอมโบ ที่จับคู่กันได้แข็งแกร่งในซีซั่นที่ผ่านมา พร้อมตัวสลับใช้อย่าง อดิศร พรหมรักษ์ และ วรวุฒิ นามเวช อีกทั้งยังได้ เฌเรมี โกรีนุส มาช่วยเพิ่มความแน่นอน
ฟูลแบ็กฝั่งขวายังคงเป็น เจสซี่ คูร์แรน และ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ด้านซ้ายมี เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม กับ ซิดเคลย์ ที่มีประสบการณ์จากลีกต่างประเทศ ซึ่งช่วยสร้างความหลากหลายให้เกมริมเส้น
ในแดนกลาง กฤษณนน ศรีสุวรรณ คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ทำหน้าที่คอยปัดกวาดและเชื่อมเกมได้ดี โดยมีแกนหลักอย่าง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ จักรพันธ์ แก้วพรม ที่กลายเป็นหัวใจของทีม นอกจากนี้ยังมี ศิวกร จักขุประสาท พร้อมทั้งยังได้สองมิดฟิลด์ประสบการณ์สูงอย่าง ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร รวมไปถึง ธีระพล เยาะเย้ย ที่เสริมเข้ามา
แนวรุกก็มีตัวเลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น ตาน่า, ฟาอิก โบลเกียห์, โชติภัทร พุ่มแก้ว และ เอ็นจีวา ราโกโตฮาริมาลาล่า รวมถึง โรแม็ง อาบรัน ที่เติมเข้ามาสร้างความหลากหลาย
ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าอย่าง อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ และ ออตมาน ดาดูน ก็พร้อมแย่งตำแหน่งกันอย่างเข้มข้น
เมื่อมองขุมกำลังโดยรวม ถือว่า ราชบุรี พร้อมต่อกรกับทุกทีมทั้งในและนอกประเทศ
2. 'โค้ชโย่ง' แผลงฤทธิ์ต่อเนื่อง
วรวุธ ศรีมะฆะ คือหนึ่งใน 3 กุนซือที่ถูกเสนอเข้าชิงรางวัล 'เฮดโค้ชยอดเยี่ยม' ประจำฤดูกาล 2024-25 กับการพา ราชบุรี เอฟซี ทะยานสู่อันดับ 4 ด้วยฟอร์มการเล่นสุดไฉไล โดยเฉพาะเกมรุกที่ยิงมากที่สุดเป็นรองเพียง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้น
อดีตหัวหอกทีมชาติไทย กลายเป็นแม่ทัพที่พาราชันมังกรโบยบินแบบไม่มีใครคาดคิด - การจัดทีม, การใช้ผู้เล่น และการหมุนเวียนนักเตะของเขาเต็มไปด้วยไอเดียอันเฉียบแหลม
นอกจากพาทีมยิงประตูเป็นอันดับสองของลีกแล้ว เขายังสามารถปลุกศักยภาพแข้งหลายๆ คนให้กลับมาอยู่ในจุดพีกได้อีกครั้ง โดยเฉพาะ จักรพันธ์ ที่ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมซีซั่น 2024-25 ในวัย 37 ปี
ฤดูกาลใหม่นี้จึงเป็นบทพิสูจน์ว่า 'โค้ชโย่ง' จะสามารถรักษาความยอดเยี่ยมนี้ได้ต่อเนื่องหรือไม่
3. เติมแข้งใหม่ได้ถูกจุด
ราชบุรี อาจจะไม่ได้เสริมทัพแบบหวือหวา แต่เน้นการเติมนักเตะในจุดที่จำเป็นอย่างแท้จริง
- อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ช่วยยกระดับการแข่งขันในตำแหน่งผู้รักษาประตู
- เฌเรมี โกรีนุส กับ ซิดเคลย์ มาเติมแกร่งในแผงหลัง
- ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร กับ ธีระพล เยาะเย้ย สองมิดฟิลด์ที่ประสบการณ์เพียบแปล้บนลีกสูงสุด
- โรแม็ง อาบรัน เพิ่มความหวือหวาทางริมเส้น
- อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ กับ ออตมาน ดาดูน ห้ำหั่นกันในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าการเสริมทัพของ ราชบุรี ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มจำนวน แต่คือการเลือกตัวที่ตอบโจทย์เพื่อยกระดับทีมไปอีกขั้น
4. ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร เพลย์เมกเกอร์ที่เปลี่ยนจังหวะของทีม
หลังจากได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในฤดูกาลที่แล้ว ธนวัฒน์ กลายเป็นศูนย์กลางของแดนกลางราชบุรีอย่างชัดเจน ความสามารถในการควบคุมเกม, จ่ายบอลทะลุช่อง และช่วยไล่บีบในแดนกลาง ทำให้เกมของทีมมีสมดุลมากขึ้น
ด้วยประสบการณ์จากยุโรป ประกอบกับสภาพร่างกายที่สมบูรณ์เต็มที่ เขาเป็นผู้เล่นที่สามารถเปลี่ยนเกมได้ทันทีที่สัมผัสบอล การที่ ราชบุรี มีหมอนี่อยู่ในทีม คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมดูมีชั้นเชิงเหนือคู่แข่ง
ฤดูกาล 2025-26 นี้ หากเขายังสามารถรักษามาตรฐานนี้ไว้ได้ ก็แทบไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะกลายเป็นตัวหลักในทีมชาติไทยทันทีที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกตัว
5. พลังแห่งความกลมเกลียว – เคมีในทีมกำลังพอดีที่สุด
ในโลกของฟุตบอล ความสำเร็จไม่ได้มาจากแค่การมีนักเตะฝีเท้าดีหรือแท็กติกแพรวพราวจากเฮดโค้ชเท่านั้น ทว่า 'เคมีในทีม' คือสิ่งที่สร้างความแตกต่างระหว่างทีมที่ดี กับทีมที่ยิ่งใหญ่ - ราชบุรี กำลังมีสิ่งนั้นอยู่ในมือ
ฤดูกาลที่ผ่านมา ทุกคนได้เห็นความสามัคคีในสนามของนักเตะชุดนี้อย่างชัดเจน พวกเขาทำงานเป็นทีม รู้จังหวะของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นจังหวะขึ้นเกม, การซ้อนเกมรับ หรือแม้แต่การฉลองประตู - ทุกอย่างสื่อถึงพลังภายในที่เหนียวแน่น
แกนหลักของพวกเขามีผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม ผู้ทำหน้าที่เหมือนเสาหลักของห้องแต่งตัว คอยช่วยประคับประคอง แนะนำรุ่นน้องทั้งในและนอกสนาม
ส่วนนักเตะต่างชาติอย่าง มูทอมโบ, คูร์แรน, ตาน่า, โบลเกียห์ ก็ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและระบบการเล่นได้อย่างรวดเร็ว ไม่เคอะเขินหรือโดดเดี่ยว
อีกหนึ่งปัจจัยที่เสริมพลังให้กับทีมอย่างเงียบๆ คือแฟนฟุตบอลชาวราชบุรี ที่เข้ามาเชียร์ชิดติดขอบสนามกันอย่างคึกคักในช่วงท้ายฤดูกาล - พวกเขากลายเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ทีมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แม้ในวันที่ฟอร์มไม่เป๊ะหรือเกมกำลังเป็นรอง
ณ ปัจจุบัน ราชันมังกรอาจจะไม่มีชื่อซูเปอร์สตาร์ให้พูดถึงแบบทีมใหญ่ๆ แต่พวกเขามี 'ซูเปอร์เคมี' และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในระดับสูงสุด ซึ่งสิ่งนี้แหละจะกลายเป็นอาวุธลับที่พาทีมก้าวไปสู่ความสำเร็จแบบไม่คาดคิดในฤดูกาล 2025-26