'กระต่ายคืนพลัง' บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับฤดูกาล 2025-26 ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

'กระต่ายคืนพลัง' บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับฤดูกาล 2025-26 ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
โทษฐานที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีการเสริมทัพแบบดุดันและฉับไว ทั้งยังได้ เอกนิษฐ์ ปัญญา กับ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ คัมแบ็กสู่ทีมอีกครั้ง มันจึงยิ่งน่าจับตามองมากขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น 'SIAMSPORT' จึงขอวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในฤดูกาล 2025-26 ที่ 'กระต่ายพันธุ์ใหม่' กำลังจะกระโจนเข้าสู่ศึกอย่างดุดันและน่าติดตามกว่าที่เคย!!

1. แข้งใหม่ = เติมเต็มระดับคุณภาพ

แม้ภาพรวมจะดูเหมือนว่า บีจี ปทุม ซื้อนักเตะเข้ามาเยอะจนเสี่ยงต่อความกลมกลืน แต่หากแยกเป็นรายบุคคล จะพบว่าทุกคนมีบทบาทที่ 'เติมในจุดขาด' ของฤดูกาลก่อนทั้งสิ้น

โทโมยูกิ โดอิ ตัวรุกที่มีสถิติยิงประตู-แอสซิสต์ในลีกสิงคโปร์ สุดโหด (50 ประตู 11 แอสซิสต์ จาก 35 เกม ในฤดูกาล 2024-25) เหมาะจะเป็นหัวหมู่ทะลุทะลวงแนวรับ

มิลอส ดรินชิช ปราการหลังดีกรีแชมป์ลีกมอนเตเนโกร จะเข้ามาเสริมแนวรับให้แข็งแรงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ด้วยลูกหนักหน่วงและส่วนสูงระดับยักษ์ใหญ่

มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ พิสูจน์ตนเองกับ สุโขทัย เอฟซี โดยมี 15 ประตูจาก 31 เกม ในเมืองไทย ซึ่งการันตีเลยว่าหมอนี่จะยิงไม่ต่ำกว่าเดิมแน่นอน

สลาวิซ่า บ็อกดาโนวิช ผู้รักษาประตูชาวบอสเนีย ที่มาพร้อมประสบการณ์อันโชกโชน ทั้งยังเพิ่งผ่านเกิน 30 เกม ในลีกซาอุดีอาระเบีย อีกต่างหาก เมื่อซีซั่น 2024-25

จอร์แดน เอมาวิเว่ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ขยับไปยืนเป็นศูนย์หน้าได้ แถมในฤดูกาลที่แล้ว พี่แกยังซัลโวไป 6 ประตู จาก 17 นัด ในนาม เชียงราย ยูไนเต็ด อีกต่างหาก

พุดทะวง สังวิไล แบ็กซ้ายอนาคตไกลของ สปป.ลาว ที่ผลงานเด่น เสริมมิติด้านการครอสบอลจากริมเส้นที่แม่นยำ

นอกจากนี้ พวกเขายังได้ ศิวกรณ์ เตียตระกูล รวมไปถึง ฉัตรมงคล ทองคีรี กลับมา (ถ้าไม่ปล่อยตัวออกไปไหนต่อ) ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพในแผงมิดฟิลด์ได้อีกหลายเท่าตัว

ที่สำคัญต้องไม่ลืม เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา สองแนวรุกทีมชาติไทย กลับมาโลดแล่นในรั้ว บีจี สเตเดี้ยม อีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่จะนำเอาประสบการณ์ระดับ เจลีก มาต่อยอดเพื่อทีมได้อีกมหาศาล


2. ทีมที่ ‘ใหญ่’ ขึ้นในทุกมิติ (โดยเฉพาะความสูง)

หนึ่งในจุดที่ไม่อาจมองข้ามคือ บีจี ปทุม ฤดูกาล 2025-26 จะเป็นทีมที่มีผู้เล่น 'ตัวสูง' มากที่สุดในลีก เมื่อพิจารณาจากรายชื่อผู้เล่นอย่าง ชนพัฒน์ บัวพันธ์ (1.96 เมตร), มิลอส ดรินชิช (1.95), มาเธอุส ฟอร์นาซารี่ (2.03 เมตร), จอร์แดน เอมาวิเว่ (1.95), สลาวิซ่า บ็อกดาโนวิช (1.93 เมตร), เซย์ดีน เอ็นดาย (2.05 เมตร) และ นิก้า ซานโดคัดเซ่ (1.97 เมตร) ที่ล้วนแต่มีส่วนสูงเกือบๆ 2 เมตรทั้งสิ้น

การมีผู้เล่นรูปร่างสูงมากมายขนาดนี้ย่อมจะส่งผลชัดเจนต่อสองสิ่งหลักๆ คือ...

หนึ่ง - เกมรับลูกเซ็ตพีซและลูกครอสด้านข้างที่จะเหนียวแน่นและป้องกันได้ดีขึ้น เพราะยากยิ่งนักที่

สอง - การโจมตีจากลูกตั้งเตะที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ด โดยเฉพาะเมื่อมีคนเปิดบอลแม่นอย่าง สารัช อยู่เย็น, เอกนิษฐ์ ปัญญา, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ คอยวางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ

ใครจะไปคิดว่ากระต่ายแก้วที่เคยเน้นครองบอลจู่โขม วันนี้จะกลายเป็นนักล่าที่โหดขึ้นในลูกอากาศ


3. ขุมกำลังริมเส้นกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง

ฤดูกาลก่อน บีจี ปทุม ประสบปัญหาในตำแหน่งริมเส้นอย่างหนัก เกมบุกต้องแบกภาระโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ มากเกินไป โดยไม่มีตัวสนับสนุนที่พอเพียง

แต่ปีนี้ ทุกอย่างเปลี่ยน...การได้ เอกนิษฐ์ ปัญญา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ กลับมาจากการยืมตัวใน เจลีก เปรียบเหมือน 'คืนชีวิตให้ปีกทั้งสองฝั่ง' ของทีมอีกครั้ง

ไม่ใช่แค่สปีดหรือเทคนิคที่ทั้งสองมีอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือเซ้นส์ฟุตบอลญี่ปุ่น ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากการแข่งขันระดับสูง ทำให้ทั้งคู่รู้จังหวะการเล่นกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ แบบแทบมองตาก็รู้ใจ

ระบบรุกของ บีจี ปทุม จึงน่าจะมีสามเหลี่ยมสุดอันตราย

เจริญศักดิ์ ยืนทางกราบขวา ส่วนฟากซ้าย เอกนิษฐ์ ลากเลื้อย โดยมี ชนาธิป เป็นเพลย์เมเกอร์คอยสร้างสรรค์โอกาส

นอกจากนี้ยังมี โทโมยูกิ โดอิ ที่ขยับมายืนริมเส้นได้แบบไม่เคอะเขิน 

แค่นึกก็หนักใจแทนแนวรับ ไทยลีก ซะแล้ว


4. ชนาธิป สรงกระสินธ์ จะได้เล่นในบทบาทที่เหมาะสมที่สุด

ปีแรกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในรัง บีจี สเตเดี้ยม ไม่ใช่ปีที่แย่ แต่ก็ยังไม่ถึงขีดสุดของความสามารถ เนื่องจากแบกภาระมากเกินไป

ทว่าบทบาทของเพลย์เมเกอร์ชาวนครปฐม มักจะถูกจับไปยืนทางฝั่งซ้ายอยู่บ่อยๆ  ทั้งๆ ที่จริงแล้ว ตำแหน่งที่เขาจะแสดงศักยภาพออกมาสูงที่สุดคือ 'กองกลางตัวรุก' ต่างหาก

ฤดูกาล 2025-26 นี้ เขาน่าจะได้เฉิดฉายแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะคนข้างเคียงคือเพื่อนที่ 'รู้ใจ' กับการได้ เอกนิษฐ์ ปัญญา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่กลับมาจากการยืมตัวใน เจลีก 

การมีตัวเลือกมากขึ้น จะทำให้เขาไม่ต้องพะวงแค่เรื่องทำเกมคนเดียว และมีเวลามากขึ้นในการแสดงความเป็นตัวสร้างสรรค์ระดับเอเชีย

หากว่า ชนาธิป ได้เล่นตามที่ตนเองถนัดและเป็นธรรมชาติ รับประกันเลยว่าไม่มีทีมใดในเมืองไทย หยุดยั้งเกมรุกของกระต่ายแก้วได้โดยง่ายแน่ๆ


5. ฤดูกาลแห่งความหวังและเดิมพันของความพร้อม

บีจี ปทุม ในฤดูกาล 2025-26 เปรียบเสมือนเครื่องบินรบที่ประกอบอาวุธครบทุกชนิด เพราะมีทั้งจรวด, ปืนใหญ่และระบบเรดาร์

แต่คำถามก็คือ พวกเขาจะบินสูงได้เพียงใด?

หาก เดอะ แรบบิต หาโค้ชที่ใช่ได้ไวและใช้งานนักเตะอย่างมีบาลานซ์ บีจี ปทุม จะกลายเป็นแชมป์ได้ไม่ยากเลย

จากความผิดหวังในฤดูกาลก่อนๆ ทำให้กระต่ายแก้วค่อยๆ เติบโตเป็นกระต่ายป่าที่พร้อมล่าบนฟลอร์หญ้าแบบเต็มตัว

ปีนี้...จับตาดูให้ดี บีจี ปทุม อาจจะกลับมาในเวอร์ชันที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยก็เป็นได้...



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport