43 แล้วไง!? 5 เหตุผลที่เยาวชนควรมี ฮิโรมิชิ คาตาโนะ เป็นแบบอย่าง

43 แล้วไง!? 5 เหตุผลที่เยาวชนควรมี ฮิโรมิชิ คาตาโนะ เป็นแบบอย่าง
ระยอง เอฟซี เพิ่งประกาศปล่อยนักเตะออกจากสโมสรไปเกินสิบราย แต่กลับตัดสินใจขยายสัญญาให้กับ ฮิโรมิชิ คาตาโนะ กองกลางประสบการณ์เข้มชาวญี่ปุ่น ออกไปอีกหนึ่งซีซั่น - ด้วยวัย 43 ปี ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดใน ไทยลีก 2025-26 ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้น 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาวิเคราะห์ถึงเหตุผลที่เยาวชนรุ่นต่อๆ ไปควรมีมิดฟิลด์คนนี้เป็นแบบอย่างในการก้าวสู่เส้นทางอาชีพในภายภาคหน้า!!

[ 1 ] รักษาร่างกายดีเยี่ยม

   เมื่อพูดถึงนักฟุตบอลอายุ 43 ปี สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงคือ 'สภาพร่างกาย' และนี่คือคุณสมบัติที่ ฮิโรมิชิ คาตาโนะ ทำให้เราต้องอ้าปากค้าง กับการที่ยังสามารถยืนระยะทั้งยังเป็นกำลังสำคัญให้กับ ระยอง เอฟซี อยู่รอดใน ไทยลีก 

   มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจาก วินัยอันน่าทึ่งในการดูแลตัวเอง

   สิ่งแรกที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการยืนระยะในเส้นทางฟุตบอลอาชีพของ คาตาโนะ คือการรักษาสภาพร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา น้อยคนนักที่จะสามารถลงสนามได้อย่างสม่ำเสมอในวัย 40+ โดยเฉพาะในลีกที่มีความเข้มข้นอย่าง ไทยลีก 

   ฤดูกาล 2024-25 เขาลงเล่นใน ไทยลีก ไปทั้งหมด 24 เกม โดยเป็นตัวจริงถึง 21 นัด และอยู่ครบ 90 นาที เป็นจำนวน 15 แมตช์ ซึ่งตัวเลขนี้บ่งชี้ให้เห็นถึงการยืนระยะของตนเองได้เป็นอย่างดี

   ความแข็งแกร่งของร่างกายที่ยังคงสมบูรณ์อยู่เสมอ คือบทเรียนสำคัญที่เยาวชนต้องจำไว้ว่า 'วินัยในการดูแลตัวเอง' ทั้งเรื่องโภชนาการ, การพักผ่อนและการซ้อมอย่างถูกวิธี สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานที่จะพาเราไปได้ไกลที่สุดในอาชีพ

[ 2 ] มีความเป็นมืออาชีพสูง

   ความเป็นมืออาชีพของ คาตาโนะ คือสิ่งที่ถูกปลูกฝังอยู่ในดีเอ็นเอของชาวญี่ปุ่น ซึ่งพอมาเล่นในเมืองไทย เขาก็ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม, โค้ชและสโมสรมาโดยตลอด ไม่ว่าจะ โอสถสภา, สุโขทัย เอฟซี, ตราด เอฟซี หรือ ศรีสะเกษ เอฟซี

   ไม่มีใครในสนามซ้อมของ ระยอง ที่ไม่ประทับใจในความขยันของแนวรับชาวอาทิตย์อุทัย เขามีวินัยสูงในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่เรื่องเวลา, การแต่งกาย, การฟังคำสั่ง ไปจนถึงความละเอียดในการฝึกซ้อม - ทุกครั้งที่ฝึกซ้อม เขาจะทุ่มเทเต็มร้อยราวกับเป็นแมตช์ชิงถ้วยแชมป์

   ตลอดการฝึกซ้อม ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความจริงจังและทุ่มเทเกินร้อย เขาเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ซ้อมมาจะสะท้อนในเกมการแข่งขันจริงเสมอ จึงไม่มีคำว่า 'เล่นๆ' สำหรับชายหนุ่มคนนี้

   พอการแข่งขันจบลง คาตาโนะ มักจะนำข้อผิดพลาดมาแก้ไขและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ไม่เคยมองข้าม 

   ด้วยความมุ่งมั่น, ทุ่มเทและทัศนคติที่เน้นผลลัพธ์ ทำให้ ระยอง เอฟซี ตัดสินใจต่อสัญญากับเขา เพื่อให้เป็นแบบอย่างสำหรับนักเตะรุ่นต่อๆ ไป ทั้งในเรื่องของความเป็นมืออาชีพและผลงานในสนาม

[ 3 ] รู้จักปรับตัวอย่างยืดหยุ่น

   หนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้ คาตาโนะ ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม คือความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งในเกมรับ ไม่ว่าจะเป็นมิดฟิลด์ที่คอยปัดกวาดหน้ากองหลัง, เซนเตอร์ฮาล์ฟผู้บัญชาการอันกร้าวแกร่ง หรือแม้กระทั่งฟูลแบ็กที่วิ่งขึ้นลงได้ตลอด 90 นาที 

   ความยืดหยุ่นนี้ทำให้เขากลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่โค้ชสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์และแท็กติกที่หลากหลาย 

   ตลอดเส้นทางค้าแข้งอันยาวนานในญี่ปุ่น, ฮ่องกง และการผจญภัยในสยามประเทศ กับหลายสโมสร (โอสถสภา, สุโขทัย, ตราด, ศรีสะเกษ และ ระยอง) คาตาโนะ ได้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเล่นที่แตกต่าง ปรับตามเพื่อนร่วมทีมใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นทักษะที่นักเตะคนอื่นๆ จำเป็นต้องมีในยุคที่ฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

   นอกเหนือไปจากเรื่องแท็กติก - การใช้ชีวิตนอกสนามก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะสิ่งที่ทำให้เขา 'อยู่ได้ทุกที่' คือทัศนคติที่เปิดกว้างและพร้อมเรียนรู้ แม้จะเป็นชาวญี่ปุ่นแต่พี่แกก็ศึกษาภาษาและวัฒนธรรมไทย, ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในแต่ละทีม จนไม่เคยมีปัญหาเรื่องวินัยหรืออีโก้ส่วนตัวแม้สักน้อย

   เขารู้ดีว่า 'การเป็นมืออาชีพ' ไม่ใช่แค่เรื่องของฝีเท้า แต่รวมถึงการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

[ 4 ] ให้เกียรติผู้อื่นเสมอ

   คาตาโนะ ไม่ใช่คนเสียงดัง ไม่ใช่คนที่ชอบชี้นิ้วสั่ง ไม่ใช่คนก้าวร้าวหรือยกตนข่มคนอื่น แต่เขาคือคนที่ให้เกียรติทุกคนในทีม ตั้งแต่โค้ช, เพื่อนร่วมทีม, สตาฟฟ์, เจ้าหน้าที่สโมสร, คู่แข่งและไปจนถึงแฟนฟุตบอล

   ด้วยวัฒนธรรมแบบฉบับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้คนส่วนใหญ่นั้นอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ แต่ถ้าหากมีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็พร้อม 'พูดด้วยเหตุผล' ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ และนั่นคือสิ่งที่เขาทำให้ได้รับความเคารพจากรอบข้าง ไม่ใช่เพราะอายุ แต่เพราะคุณค่าที่สร้างขึ้นจากการกระทำ

   นอกสนาม คาตาโนะ คือนักเตะที่ได้รับความเคารพและเป็นที่รัก ซึ่งนี่คือคุณสมบัติของผู้นำที่แท้จริง 

   ไม่เพียงเท่านั้น การที่อยู่เมืองไทย มานานเกินกว่า 14 ปี ทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและผสมผสานความเป็นญี่ปุ่น เข้าไปได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติและเข้าใจในความหลากหลายทางสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความผูกพันและเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น

[ 5 ] เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา

   แม้จะเล่นฟุตบอลมานานเกินสองทศวรรษ ทว่า คาตาโนะ ยังไม่เคยคิดว่า 'รู้ซึ้งทุกสิ่งอย่าง' เขายังศึกษายุทธวิธีใหม่ๆ, พูดคุยกับโค้ช, สังเกตวิธีการเล่นของรุ่นน้องและ เริ่มซ้อมก่อนใคร เพื่อให้พร้อมที่สุดสำหรับฤดูกาลใหม่

   ณ ปัจจุบันที่หลายสโมสรต่างอยู่ในช่วงพักปิดฤดูกาล แต่แนวรับชาวญี่ปุ่น กลับมาลงซ้อมแล้ว เพราะเขารู้ดีว่าอายุที่มากกว่าผู้อื่น มันจึงต้องปฏิบัติตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะยืนระยะได้ยาวๆ

   เขาเข้าใจดีว่า 'การเป็นผู้เล่นระดับ ซีเนียร์ ของทีม' ไม่ได้แปลว่าเหนือกว่าทุกคน แต่หมายถึงการเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งต้องเริ่มจากการเป็นผู้เรียนรู้ก่อนเสมอ

   คาตาโนะ เชื่อว่าสิ่งที่ซ้อมมาจะสะท้อนในเกมการแข่งขันจริง และหลังการแข่งขันก็จะนำข้อผิดพลาดมาแก้ไข ความกระหายในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งนี้เอง ที่ทำให้เขายังคงสามารถแข่งขันในระดับสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

   นี่คือบทสรุปว่าการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องคือกุญแจสู่ความสำเร็จไม่ว่าจะอยู่ในวงการใดก็ตาม

บทสรุปต้นแบบแห่งความยั่งยืนในโลกฟุตบอล

   การที่ ระยอง เอฟซี เลือกขยายสัญญากับ คาตาโนะ ไม่ใช่เพียงเพราะประสบการณ์ในสนามเท่านั้น แต่เพราะเขาคือบุคคลที่สามารถส่งต่อคุณค่าให้กับทีมรุ่นใหม่ได้ในทุกมิติ

   ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นฟุตบอลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความรับผิดชอบ. ความเคารพและความพยายาม - สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เยาวชนควรเรียนรู้จากเขาคนนี้

   อายุอาจเป็นเพียงตัวเลข แต่คุณภาพของมนุษย์และนักกีฬาต่างหากที่จะกำหนดว่าใคร 'ยืนได้' และ 'ยืนได้นาน'

   คาตาโนะ จึงไม่ใช่นักฟุตบอลที่ยืนระยะได้ยาวๆ เพียงอย่างเดียว หากแต่คือ 'ตำรามีชีวิต' ที่เยาวชนรุ่นต่อๆ ไป ควรศึกษาและนำไปเป็นแบบอย่าง ทั้งในเรื่องของวินัย ความเป็นมืออาชีพ. การปรับตัว, การให้เกียรติผู้อื่นและการเรียนรู้ตลอดเวลา 

   ทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบสำคัญที่จะนำไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport