ธีรศิลป์ แดงดา ชื่อนี้การันตีคุณภาพกับการเป็นศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของสยามประเทศมานานนับทศวรรษ ทว่าปัจจุบันเขาเพิ่งหมดสัญญากับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และยังไม่มีต้นสังกัดใหม่ ดังนั้น 'SIAMSPORT' จึงขอรวบรวม 7 สถานีต่อไป 'ที่น่าสนใจ' ของอดีตหัวหอก อัลเมเรีย มาให้คุณได้วิเคราะห์ไปพร้อมๆ กัน!!
[ 1 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด
หากเปรียบเส้นทางอาชีพฟุตบอลเป็นวงกลม เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็คือจุดเริ่มต้นและจุดจบที่สมบูรณ์แบบของ ธีรศิลป์ ด้วยการเป็น 'ไอคอน' ของสโมสรในยุคบุกเบิก พร้อมพาทีมกวาดแชมป์, ยิงประตูสำคัญมากมายและกลายเป็นสัญลักษณ์ของคำว่ากิเลนผยอง
ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม คือบ้านเก่าที่คุ้นเคยสำหรับเขา การกลับมายังถิ่นฐานจะเป็นการปิดฉากอาชีพในฐานะตำนานได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาสามารถใช้ประสบการณ์และความเป็นผู้นำมาประคองรุ่นน้องให้เติบใหญ่ อีกทั้งยังรู้ซึ้งถึงจิตวิญญาณของสโมสรเป็นอย่างดี
การกลับมาที่นี่จึงไม่ใช่แค่การเล่นฟุตบอล แต่เป็นการกลับมาสู่รากเหง้าของตัวเอง
______
[ 2 ] แบงค็อก ยูไนเต็ด
แบงค็อก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะว่า ธีรศิลป์ ไม่ต้องปรับตัวมากนัก เนื่องจากมีรุ่นน้องในทีมชาติหลายคน ทำให้เล่นได้เข้าขารู้ใจ นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้บ้านของเขาเองอีกด้วย
บียูมีขุมกำลังที่พร้อมสรรพทุกตำแหน่งและมีโอกาสสูงที่จะเป็นแชมป์ทุกรายการในเมืองไทย
นอกจากนี้เขายังได้หวนร่วมงานกับ ธชตวัน ศรีปาน กุนซือคู่ใจที่เคยพา เมืองทอง คว้าแชมป์ในช่วงปี 2016-2017 อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการแย่งตำแหน่งกับ มูเซน อัล-กัสซานี่ ศูนย์หน้าทีมชาติโอมาน ที่ทำผลงานได้ดีในฤดูกาล 2024-25
__________
[ 3 ] การท่าเรือ เอฟซี
ภารกิจ 'ปลุกยักษ์หลับ' คือความท้าทายที่น่าสนใจสำหรับ ธีรศิลป์ เพราะถ้าย้ายสู่ แพท สเตเดี้ยม เขาจะสร้างตำนานบทใหม่ได้ด้วยสมองและสองเท้าแน่นอน
นอกจากนี้การที่สิงห์เจ้าท่ามีเฮดโค้ชชื่อ อเล็กซานเดร กามา นั่นการันตีถึงแท็กติกที่หวังผลการแข่งขันได้ ดังนั้นถ้วยรางวัลเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่การันตี หากเขาตัดสินใจจรดปากกาเซ็นสัญญา
เท่านั้นไม่พอ บรรดาแนวรุกแต่ละรายก็จัดจ้าน บดินทร์ ผาลา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และรวมไปถึง เควิน ดีรมรัมย์ ก็พร้อมเปิดป้อนให้เขาทำประตู แถมยังได้ถ่ายทอดวิชาไปต่อที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ผู้รอวันเติบใหญ่อีกต่างหาก
แต่ทั้งนี้-ทั้งนั้น หากว่า การท่าเรือ ยังเปลี่ยนแปลงโค้ชบ่อยๆ ภารกิจของ ธีรศิลป์ ก็คงยากที่จะเกิดขึ้นได้จริง
__________
[ 4 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ปราสาทสายฟ้าเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ห้ามมองข้ามเป็นอันขาด เนื่องจากเป็นทีมที่กระหายต่อความสำเร็จอยู่เสมอ อีกทั้งนักเตะในทีมต่างก็อัดแน่นไปด้วยคุณภาพทุกตำแหน่ง
นอกจากนี้ ถ้าย้ายสู่ ช้าง อารีน่า เขาจะได้ร่วมงานกับรุ่นน้องคนสนิทอย่าง ธีราทร บุญมาทัน อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม จุดที่น่ากังวลคือ ธีรศิลป์ อาจจะต้องนั่งสำรองบ่อยครั้ง เนื่องจากทีมเซราะกราวยังมีดาวยิงหลักอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, กีเญร์เม่ บิสโซลี่ และกองหน้าต่างชาติคนใหม่อีก
ทว่าที่สำคัญที่สุด หากย้ายไป บุรีรัมย์ จริงๆ - แฟนๆ เมืองทอง ยูไนเต็ด อาจจะไม่พอใจแบบรุนแรง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของเขาในระยะยาวหลังแขวนสตั๊ดได้
_________
[ 5 ] ราชบุรี เอฟซี
ราชบุรี กำลังพัฒนาไปในทิศบวกโดยแท้จริง พวกเขารักษามาตรฐานเกาะกลุ่มหัวตารางของ ไทยลีก ได้สม่ำเสมอในห้วงหลายซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งนั่นบ่งชี้ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์การบริหารงานแบบมืออาชีพโดยแท้จริง
หากเลือกมาราชันมังกร ธีรศิลป์ จะได้เล่นร่วมกับแนวรุกที่มีเซ้นส์ทันกัน ไม่ว่าจะเป็น ตาน่า, เอ็นจีว่า, จักรพันธ์ แก้วพรม รวมถึง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ที่กำลังเก่งกาจขึ้นเรื่อยๆ
ที่นี่เขาน่าจะได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอแน่นอน อีกทั้งการมี วรวุฒิ ศรีมะฆะ อดีตกองหน้าทีมชาติไทย เป็นเฮดโค้ช ก็น่าจะบริหารจัดการการใช้งานอดีตหัวหอก ชิมิซึ เอส-พัลส์ ได้อย่างเหมาะสมและไม่หักโหมจนเกินไป
__________
[ 6 ] ประจวบ เอฟซี
ประจวบ เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ผู้บริหารทุ่มเทต่อการสร้างทีมแบบจริงจัง พวกเขาพร้อมทุ่มทุนเพื่อล่าความสำเร็จและปรารถนาจะพัฒนาฟุตบอลไทย แบบไร้ข้อแม้
ดังนั้นการย้ายสู่ สามอ่าว สเตเดี้ยม ที่อาจจะดูไม่ใช่ทีมใหญ่ แต่มันคือการสร้าง 'แรงบันดาลใจ' ให้กับเยาวชนรุ่นหลัง
นอกจากนี้ ธีรศิลป์ ยังได้กลับมาร่วมงานกับ สะสม พบประเสริฐ อดีตโค้ชที่เคยร่วมงานกันตั้งแต่สมัยเยาวชน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ
เท่านั้นไม่พอต่อพิฆาตก็พร้อมทุ่มค่าเหนื่อยในระดับใกล้เคียงกับที่เขาเคยได้รับและด้วยความจริงจังของประธานสโมสร ก็จะทำให้หัวหอกวัย 36 ปี สามารถปิดฉากการค้าแข้งได้อย่างสวยงาม ประจวบเอง กำลังมีผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ การมาของเขาจึงอาจเป็นแรงบันดาลใจและสร้างความแตกต่างในสนามได้อย่างมาก
__________
[ 7 ] สโมสร ไทยลีก 2
ปัจจุบัน ธีรศิลป์ ตกเป็นข่าวกับ เกษตรศาสตร์ เอฟซี แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะนาคามรกตยังมีปัญหาเรื่องเงิน
ทว่าการถอยไป ไทยลีก 2 นั้นก็หาใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่จะสร้างสร้างแรงบันดาลใจให้กับสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะทีมต่างจังหวัด เนื่องจากชื่อของเขาจะช่วยเพิ่มผู้ชมบนอัฒจันทร์ในแต่ละแห่งให้เพิ่มขึ้นแบบเท่าตัว
นอกจากนี้ ความที่เป็นลีกรอง ธีรศิลป์ จึงไม่ต้องใช้ร่างหากเท่ากับลีกสูงสุด นั่นจึงทำให้การค้าแข้งของเขาจะยืดระยะออกไปได้อย่างน้อยๆ ก็ 2-3 ซีซั่น
__________
[ 8 ] ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม (มาเลเซีย)
การไปค้าแข้งกับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม เป็นการผจญภัยในลีกใหม่ที่น่าตื่นเต้น แฟนฟุตบอลที่นั่นรู้จักเขาเป็นอย่างดีจากการที่เคยยิงประตูทีมชาติมาเลเซีย ไปแล้วถึง 5 ประตู
เรื่องค่าเหนื่อยอาจได้เรตเดิมเหมือนที่ได้รับในไทย เพราะเจ้าของสโมสรพร้อมทุ่มไม่อั้น แถมเจ้าตัวยังได้เล่นกับนักเตะชั้นนำทั้งของมาเลเซีย และต่างชาติ อีกต่างหาก
ที่สำคัญคือได้ลงเล่นในรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ที่เขาปรารถนาอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นเวทีเบอร์หนึ่งของเอเชีย
อย่างไรก็ตาม หากเลือกเส้นทางนี้ จะหมดโอกาสทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ไทยลีก ที่ตามหลัง เฮแบร์ตี้ อยู่ 13 ประตู ทันที
__________
[ 9 ] ลีกเวียดนาม
หากย้ายไปเล่นใน วีลีก ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่น่าสนใจเช่นกัน ธีรศิลป์ เคยยิงประตูทีมชาติเวียดนามมาแล้ว 2 ประตู และพาไทยชนะทัพดาวทองนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้แฟนๆ ที่นั่นรู้จักเขาเป็นอย่างดี
การไปค้าแข้งที่นั่นจะเป็นการสานต่อความสำเร็จจากรุ่นพี่อย่าง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ ดัสกร ทองเหลา ที่เคยไปเป็นขวัญใจใน วีลีก นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้นักเตะไทย ได้ไปค้าแข้งในเวียดนาม อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม คล้ายๆ กับที่ย้ายไปมาเลเซีย เพราะถ้าเลือกทุ่งตรงสู่เวียดนาม โอกาสที่จะทำลายสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล ไทยลีก ก็จะค่อยๆ มลายหายไปเช่นกัน
__________
[ 10 ] ลีกอินโดนีเซีย
ลีกอินโดนีเซีย ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการไปผจญภัยในลีกใหม่ ไม่แพ้มาเลเซีย หรือเวียดนาม แถมเรื่องค่าเหนื่อย เขาก็อาจจะได้รับในเรตไม่แตกต่างกับตอนค้าแข้งในเมืองไทย
ก่อนหน้านี้ เอเลียส ดอเลาะ เคยไปเปิดตลาดมาแล้ว ซึ่งก็ถือว่าสร้างมาตรฐานไว้สูงทีเดียว ดังนั้นระดับ ธีรศิลป์ ถ้าโยกสู่ที่นั่นจริงๆ เขาจะไปปูทางให้รุ่นน้องเดินตามทางได้ไม่ยากเลย
__________