ฤดูกาล 2024-25 ปิดฉากอย่างเป็นทางการ - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ด้วยการผงาดคว้า 4 แชมป์ ดังนั้นซีซั่นหน้าพวกเขาจะถูกท้าทายยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะ การท่าเรือ เอฟซี ที่ประกาศแต่งตั้ง อเล็กซานเดร กามา เป็นกุนซือคนใหม่ พร้อมภารกิจกอบกู้ความยิ่งใหญ่กลับมาอีกครั้ง
และนี่คือสิ่งที่ 'SIAMSPORT' คาดว่าจะเกิดขึ้นกับสิงห์เจ้าท่าในเวลาต่อจากนี้!!
[ 1 ] บททดสอบครั้งใหม่ของกุนซือผู้คุ้นเคยกับฟุตบอลไทย
การแต่งตั้ง กามา เป็นกุนซือคนใหม่ของ การท่าเรือ เอฟซี ไม่ได้เป็นเพียงการเซ็นสัญญาของสโมสรใหญ่ที่กำลังหาทางออกจากผลงานอันย่ำแย่ในฤดูกาล 2024-25 แต่มันคือการวางเดิมพันกับชายผู้เข้าใจฟุตบอลไทย อย่างลึกซึ้งที่สุดคนหนึ่งในรอบทศวรรษ
[ 2 ] วางรากฐานให้ บุรีรัมย์ ต่อด้วย เชียงราย - ประวัติความสำเร็จที่พูดแทนตัวเอง
แม้ กามา จะไม่ใช่โค้ชที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ในวงการฟุตบอลไทย เขาคือกุนซือต่างชาติที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด ที่กวาดแชมป์ทุกรายการที่มีส่วนร่วม
กับปราสาทสายฟ้า เขานำทีมฟาดแชมป์ ไทยลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย ลีก คัพ 1 สมัย และ แม่โขง คัพ อีก 1 สมัย ก่อนจะแยกทางไปต่อยังเมืองเหนือ
ที่ เชียงราย เขานำทีมคว้าถ้วย เอฟเอ คัพ 2017, 2018 และ ลีก คัพ 1 สมัย แต่เหนืออื่นใดคือการวาง 'รากฐาน' ให้กับกว่างโซ้งมหาภัยเพื่อต่อยอดสู่การเป็นแชมเปี้ยน ไทยลีก ในเวลาต่อมา
นี่คือตัวอย่างชัดเจนถึงคุณภาพของ กามา กับการทำทีมที่หวังผลได้แน่แง่ความสำเร็จ แม้ว่าตอนคุม เมืองทอง ยูไนเต็ด จะไร้โทรฟี่ แต่กระนั้นเขาก็ยังถือเป็นเฮดโค้ชที่ถูกยกย่องในเรื่องของแท็กติกที่ไม่เป็นสองรองใครในประเทศ
[ 3 ] จอมแท็กติกที่หวังผลการแข่งขันได้
สิ่งที่ กามา ทำได้ดีเสมอคือการสร้างระบบที่เหมาะกับทรัพยากรในมือ เพราะไม่ว่า บุรีรัมย์, เชียงราย, เมืองทอง หรือล่าสุดอย่าง ลำพูน วอร์ริเออร์ส บุรีรัมย์ เขายังคงเน้นเกมเพรสซิ่ง, ความฟิต, วินัยเกมรับ และเกมรุกที่ใช้ความเร็ว พร้อมด้วยมิติหลากหลายในการเข้าทำ
การเข้ามาคุม การท่าเรือ จึงไม่ใช่เพียงการปรับทีมให้ชนะในระยะเวลาอันสั้น แต่มันคือการวางแท็กติกและวัฒนธรรมให้ทีมมีเอกลักษณ์ระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่สิงห์เจ้าท่า ขาดหายไปในช่วงหลัง
เมื่อบวกกับตัวผู้เล่นที่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นนำของประเทศในทุกตำแหน่ง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่ายักษ์หลับแห่งย่านคลองเตย จะถูกปลุกขึ้นสู่ความสำเร็จอีกครั้ง
[ 4 ] คุ้นเคยกับวัฒนธรรมและนักเตะไทย เป็นอย่างดี
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ กามา เหนือกว่าโค้ชต่างชาติคนอื่นๆ คือความเข้าใจในวัฒนธรรมฟุตบอลไทย ที่แตกต่างจาก
เฮดโค้ชชาวบราซิล เข้ามาทำงานในสยามประเทศตั้งแต่ปี 2014 มันจึงทำให้เขาเข้าใจดีถึงความต่างของสโมสรไทย ทั้งด้านบริหาร, ความคาดหวังของแฟนฟุตบอลและแนวทางการพัฒนาทีม
ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา กามา ทำงานกับนักเตะไทย มากมาย ดังนั้นจึงรู้จักนิสัยใจคอแข้งท้องถิ่นเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบกว่าโค้ชคนอื่นๆ ที่อาจจะระเบียบจ๋า ไม่ยืดหยุ่น จนสุดท้ายไม่สามารถคุมนักเตะได้
สิ่งเหล่านี้ทำให้การเริ่มต้นที่ แพท สเตเดี้ยม จะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา แต่เป็นความท้ายที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่รออยู่
[ 5 ] โอกาสใหม่ของสิงห์เจ้าท่า - ถึงเวลาล้างภาพทีมดาราไร้แชมป์
การท่าเรือ อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้าดีแทบทุกตำแหน่ง แต่ภาพจำของพวกเขายังคงเป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยสตาร์ แต่ขาดระบบที่ลงตัว
การมาของ กามา จึงเป็นการเปลี่ยนสถานะสู่ทีม 'ลุ้นแชมป์' อย่างเต็มตัว
หากเขาสามารถจัดระบบแนวรับที่แข็งแกร่ง, พัฒนาความเข้าใจของผู้เล่นในระบบที่วางไว้และบริหารอีโก้ของนักเตะชื่อดังในทีมได้ โอกาสสูงทีเดียวที่ การท่าเรือ จะพุ่งชนความสำเร็จอย่างที่ต้องการในซีซั่น 2025-26
ภารกิจที่มากกว่าคำว่า 'กอบกู้' สำหรับ กามา นี่ไม่ใช่แค่การกอบกู้ทีมใหญ่ที่หลุดฟอร์ม แต่มันคือภารกิจสร้าง การท่าเรือ ให้เป็นทีมลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง
หากเขาทำได้...ประวัติศาสตร์ของสิงห์เจ้าท่าก็จะถูกเขียนใหม่อีกครั้งในรูปแบบที่ใหญ่ยิ่งกว่าเดิม!!