น้องใหม่ ไทยลีก : ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ แบ็กซ้ายรายใหม่กิเลนผยอง

 น้องใหม่ ไทยลีก : ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ แบ็กซ้ายรายใหม่กิเลนผยอง
ฤดูกาล 2024-25 ของฟุตบอลไทย กำลังจะได้บทสรุปในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทว่าตลาดซื้อ-ขายนักเตะนั้นเริ่มคึกคักกันแล้ว เพราะหลายสโมสรต้องตระเตรียมเพื่อสู้ศึกซีซั่นหน้า อย่างเช่น "กิเลนผยอง" ที่ดึง ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ เข้าเสริมทัพเป็นรายแรก

ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์

แบ็กซ้ายรายใหม่กิเลนผยอง

สัญชาติ: สวิตเซอร์แลนด์ (เล่นให้ทีมชาติฟิลิปปินส์)

อายุ: 30

ตำแหน่ง: แบ็กซ้าย

สโมสร: เมืองทอง ยูไนเต็ด

น้องใหม่ ไทยลีก: 2025-26

ข้อมูลจาก: www.bluewin.ch, www.transfermarkt.com

ฤดูกาล 2024-25 ของฟุตบอลไทย กำลังจะได้บทสรุปในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทว่าตลาดซื้อ-ขายนักเตะนั้นเริ่มคึกคักกันแล้ว เพราะหลายสโมสรต้องตระเตรียมเพื่อสู้ศึกซีซั่นหน้า

เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เพิ่งปราชัยต่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ ก็ขยับตัวแบบไวว่องด้วยการเปิดตัว ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ แบ็กซ้ายดีกรีกัปตันทีมชาติฟิลิปปินส์ มาร่วมทัพอย่างเป็นทางการ

นี่คือนักเตะที่บอร์ดบริหารกิเลนผยองเล็งไว้ 2-3 ปี ก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่ลงเอยกันสักที กระทั่งมาเซ็นสัญญาหลังจบฤดูกาล 2024-25 นี่เอง

กองหลังวัย 30 มีคุณพ่อเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนคุณแม่นั้นเป็นชาวฟิลิปปินส์ โดยเขาเติบและโต ณ นคร ซูริค ซึ่งเป็นมาตุภูมิของฝั่งบิดา

เคมพ์เทอร์ ได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมี่ของ เอฟซี ซูริค หนึ่งในสโมสรชั้นนำของประเทศ ซึ่งอยู่ในละแวกบ้านตนเอง โดยเริ่มต้นจากการเป็นปีกซ้าย และเก่งกาจถึงขนาดถูกเรียกติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ รุ่นอายุไม่เกิน 19 กับ 20 ปี

เขาได้สัญญาอาชีพฉบับแรกในฤดูกาล 2015-16 ก่อนจะประเดิมสนามให้ต้นสังกัดในศึก สวิสส์ ซูเปอร์ ลีก ซีซั่นนั้นทันที แม้จะเพียง 2 เกม แต่นั่นถือเป็นหมุดหมายอันดีสำหรับเด็กหนุ่มที่กำลังเติบใหญ่ในเส้นทางฟุตบอล

ณ ห้วงเวลาเดียวกันนั้น (ปี 2015) เคมพ์เทอร์ ได้รับการติดต่อจากสมาคมฟุตบอลฟิลิปปินส์ เรื่องการไปเล่นให้ทีมชาติ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ ทว่าเจ้าตัวตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าในระดับสโมสรก่อน โครงการของทัพ ดิ อัซกัลส์ จึงถูกชะลอไปก่อน

ซีซั่น 2016-17 พัฒนาการของเขาเป็นไปในทิศวก เมื่อได้ลงสนามให้ เอฟซี ซูริค บ่อยขึ้น พร้อมกับมีส่วนร่วมกับต้นสังกัดไป 17 เกม โดยทำได้ 2 แอสซิสต์ และหนึ่งประตู ทั้งยังมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองของเกม ยูโรปาลีก อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายฤดูกาล เขาได้รับบาดเจ็บในช่วงกลางปี 2017 ทำให้เขาไม่ได้รับการขยายสัญญา กระทั่งย้ายไปต่อที่ เนอชาแตล ซาแม็กซ์ ซึ่งอยู่ในลีกรองสวิตเซอร์แลนด์

กับ ซาแม็กซ์ - เคมพ์เทอร์ คือตัวหลัก เขาประจำการทางกราบซ้ายให้ทีม โดยสลับเล่นระหว่างปีกและฟูลแบ็ก ซึ่งฟอร์มโดยรวมถือว่าดีเยี่ยม จนถูก ซังต์ กัลเลน ทีมใน สวิสส์ ซูเปอร์ ลีก มาดึงตัวกลับไปด้วยสัญญา 2 ปี

หลังจากอยู่ได้ 2 ซีซั่น เขาก็ย้ายสู่สโมสรเบอร์หนึ่งของประเทศอย่าง กลาสส์ฮ็อปเปอร์ ซูริค ในฤดูกาล 2023-24 ซึ่งที่นี่พี่แกยืนเป็นแบ็กซ้ายแบบถาวรอย่างเต็มตัว

เคมพ์เทอร์ ถูกวางให้เป็นผู้เล่นตัวหลัก เขาลงสนามเป็นตัวจริงตลอด 4 เกมแรก แต่แล้วอาการบาดเจ็บทำให้ต้องพักยาว ทำให้เขาไม่ได้เล่นให้ กลาสส์ฮ็อปเปอร์ อีกเลย นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ส่วนในทีมชาติฟิลิปปินส์ เขาแสดงเจตจำนงว่าพร้อมจะเป็นขุนพลของทัพ ดิ อัซกัลส์ ตั้งแต่ปี 2018 และก็ถูกเรียกตัวเป็นหนแรกในปีถัดมา แต่ต้องวืดการประเดิม เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก

กระทั่งปี 2021 ที่ เคมพ์เทอร์ ลงสนามให้ทีมตากาล็อกอย่างเป็นทางการ ในเกมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกพบจีน แต่ก็เคราะห์ซ้ำเมื่อเล่นได้เพียง 14 นาที ก็ถูกหามออก จากการปะทะกับ ตัง เหมียว ซึ่งภายหลังนั้นปรากฏว่าเจ้าตัวเจ็บถึงขั้นจมูกหักเลยทีเดียว

นับตั้งแต่ติดทีมชาติฟิลิปปินส์ หนแรก เขาก็ถูกเรียกตัวอยู่สม่ำเสมอ หากไม่ได้รับบาดเจ็บ หมอนี่คือตัวเลือกแรกๆ ของทีม 

โดยเฉพาะในทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ 2024 ที่เขาเป็นกัปตัน พาทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แถมยังเอาชนะไทย เป็นหนแรกในรอบ 52 ปี ในเกมเลกแรกอีกด้วย

เกมนัดที่สองกับทัพช้างศึก (แพ้ 1-3) ทำให้ เคมพ์เทอร์ ต้องพบกับเรื่องอันน่าทึ่ง ซึ่งเขากล่าวกับ บลูวิน (www.bluewin.ch) เว็บไซต์ของสวิตเซอร์แลนด์ ว่า “มันคือประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ แฟนฟุตบอลที่นั่น (ราชมังคลากีฬาสถาน) ไม่ร้องเพลงเชียร์เหมือนยุโรป แค่บอลเข้าใกล้เขตโทษ ทุกคนก็จะกรี๊ด ซึ่งมันทำให้เรามีความฮึกเหิมขึ้นไปด้วย แม้จะเป็นทีมเยือนก็ตาม”

นี่คือเรื่องราวบางส่วนของนักเตะโควตาอาเซียน แต่ฝีเท้าเกรดยุโรป ที่กำลังจะมาเฉิดฉายใน ไทยลีก 2025-26 

ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ แบ็กซ้ายรายใหม่กิเลนผยอง



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport