วิเคราะห์แมตช์ใหญ่ Shopee Cup 2024-25 รอบรองฯ นัดสอง บีจี ปทุม หวังล้างแค้น บุรีรัมย์ หลังพ่ายมาแล้ว 3 นัด จาก 4 เกมในซีซั่นนี้ ลุ้นใช้ "พลังใจ" สู้เพื่อผ่านเข้ารอบชิง
เกม Shopee Cup 2024-25 หรือศึกชิงแชมป์สโมสรอาเซียน รอบรองชนะเลิศนัดที่สองระหว่าง บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะแข่งขันกันในวันพุธที่ 7 พฤษภาคม ถือเป็นอีกหนึ่งแมตช์สุดสำคัญที่จะชี้-วัดว่ากระต่ายแก้วจะมีถ้วยรางวัลติดมือในซีซั่นนี้หรือไม่
นัดแรกที่พบกันในทัวร์นาเมนต์นี้ เดอะ แรบบิต บุกไปปราชัยที่เขากระโดง 1-3 ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาจำเป็นต้องชนะสถานเดียวในเลกที่สอง
สถานการณ์ปัจจุบัน บีจี ปทุม นั้นถือว่าฟอร์มยังลุ่มๆ ดอนๆ พอสมควร เพราะว่า 5 เกมหลังสุดในทุกรายการชนะ 2, เสมอ 2 และแพ้อีก 1 ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องดีนัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพผู้เล่นที่มี ใช่ว่าพวกเขาจะไม่มีทางพลิกกลับมาคว้าชัยเหนือ บุรีรัมย์ ซะทีเดียว
อย่าลืมว่า ณ ตอนนี้ ปราสาทสายฟ้าลงเล่นในฤดูกาล 2024-25 ไปมากถึง 54 เกม กับห้วงระยะเวลาประมาณ 9 เดือน หรือตกเดือนละ 6 แมตช์ เป็นอย่างน้อย
ดังนั้นสภาพร่างกายของขุนพลเซราะกราวเองจึงสะบักสะบอมพอสมควร แม้จะมีหลายๆ รายที่เล่นเฉพาะถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ก็ตาม แต่การที่ต้องกรำศึกแบบต่อเนื่อง มันย่อมส่งผลต่อสมรรถภาพแน่ๆ
เดอะ แรบบิต เองก็อาจจะไม่ต่างกันนัก เพราะเป็นทีมที่ลงสนามน้อยกว่า บุรีรัมย์ สโมสรเดียวใน ไทยลีก ทว่าสภาพโดยรวมยังถือว่าดูสดกว่าคู่แข่งนั่นเอง
สิ่งแรกเลยหากว่า บีจี ปทุม ต้องการพลิกชนะ บุรีรัมย์ ให้สำเร็จ คือเรื่อง 'หัวใจ' เพราะมันคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดในการเผชิญหน้าคู่ต่อกร
ฤดูกาล 2024-25 พวกเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ปราสาทสายฟ้า 3 จาก 4 แมตช์ที่พบกัน
แพ้ในลีกเกมเหย้า
แพ้ในถ้วย รีโว่ ลีก คัพ
แพ้ในถ้วย Shopee Cup นัดแรก
แม้จะบุกไปเฉือน บุรีรัมย์ ที่สนาม เขากระโดง 2-1 แต่วันนั้นรูปเกมก็หาใช่ดีกว่าเจ้าถิ่นไม่
ลักษณะนี้ คล้ายๆ กับงูเหลือมกับเชือกกล้วย ดังนั้นถ้าจะ 'หยุด' สถิติที่ไม่พึงประสงค์ สิ่งๆ แรกคือต้องเอาชนะใจตัวเอง เพื่อก้าวข้ามไปให้ได้
เกมนี้ไม่ใช่แค่เกมฟุตบอล และก็ไม่ใช่แมตช์ที่มีแค่ถ้วยรางวัลเป็นเดิมพัน หากแต่มันคือ 'บททดสอบ' ของ บีจี ปทุม ที่ตกเป็นรองเกือบทุกนัดที่เผชิญหน้า
ดังนั้นพวกเขาจึงต้อง 'ลุกขึ้นสู้' ด้วยใจที่กร้าวแกร่งกว่าครั้งไหนไหน
ในโลกของฟุตบอล เราเคยเห็นทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะคุณภาพ, โค้ชเก่งกาจ, แท็กติกลงตัวและอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่พอเล่นโดยไร้พลังใจ ทีมลักษณะนี้ก็แพ้พ่ายได้เช่นกัน
เช่นเดียวกับการที่เราเคยเห็นทีมที่อ่อนแรง, ไม่มีแข้งซูเปอร์สตาร์ แถมยังแพ้แล้วแพ้อีก แต่กลายเป็นว่าทีมๆ นี้พลิกชนะคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าได้ด้วยสิ่งที่เรียกว่า 'พลังใจ' และ 'ศรัทธา' เป็นที่ตั้ง
7 พฤษภาคมนี้ อาจจะไม่ใช่วันที่ บีจี ปทุม เล่นได้ดีที่สุด แต่ต้องเป็นวันที่พวกเขาจะต้อง 'สู้ที่สุด' เพื่อโอกาสคว้าถ้วยรางวัลในบั้นปลาย
เพราะถ้าล้มแชมป์ ไทยลีก 2024-25 ได้สำเร็จ มันจะส่งผลต่อ ช้าง เอฟเอ คัพ ที่ทั้งสองทีมยังต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้งในวันเสาร์ที่ 10 ที่จะถึงนี้
ชัยชนะอาจไม่ใช่ของทีมที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันเป็นของทีมที่ 'ไม่ยอมแพ้' มากที่สุดต่างหาก
'ใจแห่งนักสู้' คือสิ่งที่ บีจี ปทุม ต้องใส่ลงไปเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาชนะ บุรีรัมย์ ให้ได้อีกครั้ง เหมือนอย่างที่ทำได้มาแล้วเมื่อครั้งบุกไปเชือดปราสาทสายฟ้าได้ถึงเขากระโดง นั่นเอง