5 ปัจจัยแห่งความสำเร็จ! ทำไม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผงาดแชมป์ไทยลีก 2024/25 สมัยที่ 10

[ 1 ] ผู้เล่นหมุนเวียนกันได้ทั้งฤดูกาล

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรเบอร์ต้นๆ ที่มีกำลังทรัพย์มหาศาล เพราะในทุกๆ ฤดูกาลจะมีนักเตะใหม่เกรดพรีเมียมย้ายเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งอยู่เสมอ

ซีซั่น 2024-25 ก็เช่นกันที่ได้ นีล เอเธอร์ริดจ์ กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล มาเป็นสมาชิกใหม่ในเลกแรก พอถึงเลกสองก็ยังมี ฉัตรชัย บุตรพรม, โกรัน เคาซิช และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่สามารถช่วยทีมได้แบบชัดเจน 

แน่นอนว่าด้วยขุมกำลังเดิมที่มีอยู่อย่าง ธีราทร บุญมาทัน, ศุภชัย ใจเด็ด และ เคนเนธ ดูกัลล์ ในฐานะนักเตะท้องถิ่น บวกกับ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส, ดิออน คูลส์ (อาเซียน) รวมไปถึง ลูคัส คริสปิน, กีเญร์เม่ บิสโซลี่ ต่างก็เป็นแข้งระดับท็อปของประเทศ

ผู้รักษาประตู เอเธอริดจ์ คือเบอร์หนึ่ง แต่มือรองอย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และ ฉัตรชัย ก็ดีกรีทีมชาติไทย

ฟูลแบ็กขวา-ซ้าย นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, คูลส์, ศศลักษณ์ ไหประโคน และ ทาบินาส

ปราการหลังตัวกลาง เลือกใช้ได้หมดไม่ว่าจะเป็น พรรษา เหมวิบูลย์, มาร์เชโล่ ยาโล่, ดูกัลล์ หรือ คิม มิน-ฮย็ค โดยที่ ทาบินาส ก็สามารถขยับมายืนได้

แดนกลาง ธีราทร ตอนที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บคือผู้บงการเกม โดยมี เคาซิช เป็นคู่ขาในเลกที่สอง แต่เลกแรก พิธิวัตต์ ก็ทำผลงานได้ตามมาตรฐาน รวมไปถึงคนอื่นๆ อย่าง รัตนากร ใหม่คามิ หรือ เสกสรรค์ ราตรี

แนวรุก บิสโซลี่, ศุภชัย และ ลูคัส คริสปิม สอดประสานอย่างไหลลื่น แถมพอได้ ศุภณัฏฐ์ เข้ามาเพิ่ม ยิ่งทวีคูณความน่าเกรงขามขึ้นไปอีก

ด้วยทรัพยากรนักเตะที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 ทีม ได้สบายๆ มันจึงทำให้ บุรีรัมย์ สามารถหมุนเวียนผู้เล่นได้ตลอดทั้งฤดูกาล ซึ่งนี่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ ไทยลีก สมัยที่ 10 ไปครองได้นั่นเอง

[ 2 ] คู่แข่งพากันสะดุดเอง

จริงอยู่ที่ บุรีรัมย์ ครองจ่าฝูงของตารางการแข่งขันนานถึง 30 จาก 34 สัปดาห์ หรือเกือบจะทั้งฤดูกาล 2024-25 แต่เมื่อมองให้ลึกลงไปในรายละเอียด บรรดาคู่แข่งที่อยู่ในข่ายลุ้นแชมป์นั้นพากันสะดุดกันเองอยู่เสมอ

แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ขับเคี่ยวมาตั้งแต่ แมตช์เดย์ ที่ 11 ที่ผงาดรั้งจ่าฝูงอยู่ 4 สัปดาห์ ก็มักจะห้วงเวลาที่พลาดทำแต้มหลุดไปหลายนัด ไม่ว่าจะเป็นการเสมอ นครปฐม ยูไนเต็ด กับ ระยอง เอฟซี ในบ้านตัวเอง

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะมาเบียดแย่งได้แบบสูสี แต่การปราชัยต่อ ระยอง ในรังตนเอง พ่วงด้วยการสลับอยู่ในบ่วงเสมอและแพ้อยู่บางช่วง มันจึงทำให้หลุดวงโคจรตั้งแต่ไม่ถึงเลกที่สอง

การท่าเรือ เอฟซี นี่ยิ่งแล้วใหญ่ ผลงานไม่สม่ำเสมอเอามากๆ บางช่วงไม่ชนะใครเลย 4-5 เกม หากนับเฉพาะ ไทยลีก มีแค่ตอนต้นซีซั่นที่เก็บชัยติดๆ กันได้เท่านั้น ที่เหลือคือลุ่มๆ ดอนๆ ทั้งหมด

เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน อาจจะมีบางเวลาที่ขยับมาต่อกรได้ แต่กิเลนผยองยุคปัจจุบันยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกนิดนึง เพื่อให้บรรดานักเตะอายุน้อยแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับความกดดันในอนาคต

ในขณะที่คู่แข่งพากันสะดุด แต่ฝั่ง บุรีรัมย์ นั้นสามารถรักษามาตรฐานได้เรื่อยๆ แม้จะต้องลงเล่นหลายรายการในซีซั่น 2024-25 ทว่าพวกเขาก็มีความสม่ำเสมอมากกว่าทีมอื่นๆ ซึ่งสิ่งนี้เองคือปัจจัยสำคัญของสโมสรที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกในประเทศ

[ 3 ] เชื่อมั่นในตัวเฮดโค้ช

หนึ่งในรากฐานของความสำเร็จคือ 'เสถียรภาพ' ซึ่ง บุรีรัมย์ มีสิ่งนี้อย่างชัดเจนในตำแหน่งเฮดโค้ช พวกเขาให้ความเชื่อมั่นในตัว ออสมาร์ ลอสส์ กุนซือชาวบราซิล ที่อาจจะยังใหม่สำหรับฟุตบอลไทย ก็จริง แต่การได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มเปี่ยม ทำให้งานของเทรนเนอร์วัย 49 ปี ราบรื่นทีเดียว

อดีตบิ๊กบอส โครินเธียนส์ เก่งกาจในเรื่องการอ่านทีมได้ไวและปรับตัวเข้ากับระบบเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาไม่พยายามเปลี่ยนแปลงแบบปุบปับ แต่ค่อยๆ เสริมจุดเด่น เติมรายละเอียดในจังหวะรุก-รับ ให้ทีมกลมกล่อมยิ่งขึ้น

การตัดสินใจโรเตชั่นนักเตะให้เหมาะสมกับโปรแกรมแข่งขันถี่ๆ และความสามารถในการจัดการห้องแต่งตัวท่ามกลางผู้เล่นระดับท็อปหลายราย ทำให้เขาได้รับความเชื่อมั่นจากนักเตะในทีมอย่างรวดเร็ว

ด้วยแท็กติกที่ลงตัว ผนวกเข้ากับนักเตะศักยภาพสูงและรักษามาตรฐานการเล่นได้สม่ำเสมอ มันจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ บุรีรัมย์ คว้าแชมป์ ไทยลีก ได้สำเร็จอีกสมัย

[ 4 ] ความกระหายที่ไม่มีวันสิ้นสุด

แม้จะคว้าแชมป์ ไทยลีก มาแล้วถึง 9 สมัยก่อนหน้า แต่ความหิวกระหายต่อความสำเร็จของ บุรีรัมย์ ไม่เคยลดน้อยลงเลยแม้แต่นิด

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นจากมาตรฐานการเล่นที่พวกเขารักษาไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล 2024-25 และการเสริมทัพอย่างต่อเนื่องทุกเลก โดยเฉพาะการคว้าตัวผู้เล่นที่พร้อมเข้ามายกระดับทีมทันที ไม่ใช่แค่ตัวสำรองเท่านั้น

อีกจุดสำคัญคือ ความกระหายของนักเตะตัวหลัก ไม่ว่าจะเป็น ศุภชัย, ธีราทร, บิสโซลี่ หรือ คริสปิม ที่ต่างก็ประสบความสำเร็จมากมายก่ายกองอยู่แล้ว แต่พวกเขายังคงมีแรงผลักดันที่จะคว้าชัยในทุกนัดที่ลงสนาม 

บรรยากาศแบบนี้นี่เองที่ส่งผลต่อห้องแต่งตัวอย่างมาก เพราะแม้แต่นักเตะดาวรุ่งหรือสำรองก็ต้องยกระดับตัวเองให้ทันกับความคาดหวังนั้น

ในเมื่อไฟแห่งความกระหายยังคงโชติช่วงชัชวาลย์ - บุรีรัมย์ จึงเดินหน้าสานต่อความสำเร็จแบบไม่มีหยุดยั้ง และมันจะคงเป็นเช่นนั้นต่อไป หากว่าเปลวเพลิงของพวกเขาไม่มอดลงไปเสียก่อน

[ 5 ] GU 12

ไม่มีทีมไหนประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ หากไม่มี 'แรงสนับสนุน' ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง ซึ่งสำหรับ บุรีรัมย์ พวกเขามี GU12 หรือแฟนฟุตบอลประจำถิ่นที่คอยซัพพอร์ตแบบไม่มีลดละ

ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า ณ ช้าง อารีนา หรือการเยือนในสนามต่างจังหวัด GU12 จะตามไปเชียร์ด้วยพลังเสียงที่กึกก้องและมีวินัยอันเป็นเอกลักษณ์ จนกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ผู้เล่นฮึกเหิมตลอดทั้ง 90 นาที

เสียงเชียร์จาก GU12 ไม่ได้แค่สร้างบรรยากาศ แต่มันคือ 'พลัง' ที่ทำให้ทีมไม่ยอมแพ้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งปีนี้เองก็มีหลายนัดที่ บุรีรัมย์ ได้ประตูสำคัญในช่วงท้ายเกม ส่วนหนึ่งเพราะพลังใจที่มาจากกองเชียร์เหล่านี้นี่เอง

แฟนๆ ของพวกเขาจึงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ฝ่าฟันร่วมกับนักเตะและสตาฟฟ์โค้ช จนจบฤดูกาล 2024-25 ด้วยแชมป์ ไทยลีก สมัยที่ 10