ในอดีต ปราสาทสายฟ้าเคยมีทั้ง ฟร้องค์ อาเชียมปง, ฟร้อง โออ็องซ่า, การ์เมโล่ กอนซาเลซ, ปาโบล อิบันเญซ, อันเดรส ตูเญซ, โก ซึล-กี, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต, แช็คซอน โคเอลโญ่ 'ชาช่า' และอีกมากมาย

ฤดูกาล 2022-23 พวกเขาได้ ลอนซาน่า ดูมบูญ่า กองหน้าดีกรีดาวซัลโว ไทยลีก 2019 พ่วงด้วย แฟร้งค์ กาสตาเญด้า แนวรุกที่เคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมพา เชริฟฟ์ ทีมจากมอลโดวา บุกไปชนะ เรอัล มาดริด ได้ถึง ซานติอาโก เบอร์ราเบว ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว

และคนที่กำลังร้อนแรงที่สุดในทีม ณ ปัจจุบันขณะ...โกรัน เคาซิช

มิดฟิลด์คนนี้เติบโตจากการเป็นผู้เล่นฝึกหัดของอะคาเดมี่ เร้ด สตาร์ เบลเกรด สโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเซอร์เบีย และได้สัญญาอาชีพเป็นครั้งแรกตอนอายุ 17 ปี

ทว่าด้วยความที่ยังเยาว์วัย บวกกับต้องการลงสนามสม่ำเสมอ และในทีมดาวแดง-ขาวมีการแข่งขันที่สูงลิ่ว - เคาซิช จึงตัดสินใจย้ายไป แร้ด เพื่อจะได้เล่นมากขึ้น

ที่ แร้ด เขาทำผลงานได้โดดเด่น ตลอด 1 ฤดูกาลครึ่งที่อยู่ที่นี่ เขาลงสนามไป 48 นัด ยิงได้ 6 ประตู กระทั่งได้ย้ายไปลีกตุรกี โดยมี เอสคีเซฮีร์สปอร์ เป็นสถานีปลายทาง

กับ เอสคีเซฮีร์สปอร์ เขาเซ็นสัญญายาว 4 ปี และก็อยู่จนครบ ก่อนจะย้ายไปต่อที่ โอซาซูน่า ทีมดังของ ลา ลีกา สเปน ในฤดูกาล 2016-17

พัฒนาการฝีเท้าของ เคาซิช เริ่มแก่กล้าขึ้นเรื่อยๆ และที่ โอาซูน่า เขาก็สวมใส่เสื้อหมายเลข 8 ลงเล่นให้ โลส โรฆีญอส ไปถึง 28 เกม ก่อนจะย้ายไป อาร์เซน่อล ทูล่า ทีมในลีกรัสเซีย

ในลีกแดนหมีขาว เคาซิช เป็นผู้มีส่วนในเหตุการณ์วุ่นวายของเกมที่ อาร์เซน่อล ทูล่า เอาชนะ อัคห์มัต กรอซนี่ 1-0 เพราะประตูที่เขายิงได้ในวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แล้วตนเองวิ่งถอดเสื้อดีใจท่ามกลางหิมะที่ปกคลุมทั้งสนาม

ปรากฏว่าประตูที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการที่ผู้เล่น อาร์เซน่อล ทูล่า ไปแย่งบอลจากนักเตะ อัคห์มัต กรอซนี่ ที่ล้มลงจากจังหวะที่พยายามจะฝืนเตะลูกฟรีคิก ซึ่งทำให้นักเตะทีมเยือนไม่พอใจ เนื่องจากมองว่าเจ้าถิ่นไม่มีน้ำใจสปิริต จนก่อให้เกิดเหตุชุลมุนยกใหญ่

หลังจากออกไปโลดแล่นนอกประเทศมานับสิบปี ในที่สุด ซีซั่น 2018-19 เขาก็กลับมาสู่มาตุภูมิอีกครั้ง โดยเป็น เร้ด สตาร์ เบลเกรด สโมสรแรกในชีวิตที่จัดการเซ็นสัญญากับ เคาซิช พร้อมเสื้อหมายเลข 20

ฤดูกาลนั้นเอง ทีมดาวแดง-ขาวผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ดันไปอยู่ กรุ๊ป ออฟ เดธ ที่มีทั้ง ลิเวอร์พูล, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ นาโปลี

แม้จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่แสนหนักหน่วง ทว่ามันถือเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยาก เพราะมันทำให้พวกเขาได้ปะทะนักเตะระดับโลก ทั้ง เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบั๊ปเป้, เอดิสัน คาวานี่, อังเคล ดิ มาเรีย, ติอาโก้ ซิลวา จาก เปแอสเช

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ในห้วงเวลานั้นนำโดย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ซาดิโอ มาเน่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาโนลด์ และ อลิซง เบ็คเกอร์ รวมไปถึงสตาร์ดังจากฝั่งอิตาลี ของ นาโปลี 

โดยในเกมที่ชื่อของ เคาซิช นั้นโด่งดังไปทั่วโลกคือนัดที่บุกไปเยือน แซง-แชร์กแมง เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ที่เขาปะทะกับ เนย์มาร์ หลายต่อหลายครั้งจนเกือบมีมวยระหว่างการแข่งขัน

แม้ว่า เร้ด สตาร์ จะตกรอบแรก แต่ก็ยังฝากผลงานไว้ได้น่าประทับใจกับการเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 โดยที่ เคาซิช ก็ยืนหยัดห้ำหั่นกับทัพเครื่องจักรสีแดงด้วย

ก่อนที่ท้ายที่สุดทีมหงส์แดงจะฝ่าฟันไปถึงการเป็น 'แชมป์' ในบั้นปลาย

ส่วน เร้ด สตาร์ นั้นก็กลับบ้านและคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นสมัยที่ 30 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยที่ เคาซิช มีสถิติลงสนามในทุกรายการไปทั้งหมด 28 เกม และทำได้ 1 ประตู

ฤดูกาล 2019-20 เขาย้ายไปรัสเซีย อีกหน แต่กลับไปอยู่กับทีมเก่าอย่าง อาร์เซน่อล ทูล่า และก็เป็นตัวหลักของทีมตลอดทั้ง 3 ซีซั่นในรั้ว อาร์เซน่อล สเตเดี้ยม

ขณะที่ผลงานในทีมชาติ เขาเป็นแกนหลักของทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่พาเซอร์เบีย ทะลุสู่รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2011

โดยทัวร์นาเมนต์นั้น เคาซิช ได้เผชิญหน้ากับ อัลบาโร่ โมราต้า, ดานี่ กาบาฆัล, ปาโบล ซาราเบีย ที่เติบใหญ่เป็นนักเตะทีมชาติสเปน ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังเจอกับเบลเยียม ที่มี ธอร์แกน อาซาร์ อีกต่างหาก

พอถึงปี 2015 - เคซิช ก็เล่นให้กับทีมชาติเซอร์เบีย ในศึก ยูโร ยู-21 รอบสุดท้าย แม้หนนั้นจะตกรอบแรก แต่เขาก็ปะทะ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, ปิแอรร์ เอมิล-ฮอยแบร์ก ที่ก้าวสู่ชุดใหญ่ของเดนมาร์ก

รวมไปถึงก๊วนเยอรมัน ที่มีทั้ง โจชัว คิมมิช, แซร์จ กนาบรี้, เอ็มเร่ ชาน, แบรนด์ เลโน่ และ มาร์ค-อังเดร แตร์ สเตเก้น 

ประสบการณ์ของ เคาซิช นั้นถือว่าโชกโชนเลยทีเดียว และในวัย 30 ปี ที่ยังถือว่าเล่นในระดับสูงได้ยาวๆ อย่างน้อย 3-4 ซีซั่น นั่นทำให้ บุรีรัมย์ สามารถวางหลักปักอนาคตได้เลย

สไตล์การเล่นของเขาคือเป็นมิดฟิลด์ที่บู๊ดุดัน พร้อมกับมีทีเด็ดสอดเข้าไปทำประตูได้อยู่เสมอ ซึ่งนั่นจะทำให้ปราสาทสายฟ้ามีอาวุธหนัก ยกระดับมิติในเกมรุกเพิ่มขึ้นไปอีก

แม้ว่าจะเปิดฉากกับฟุตบอลไทย ด้วย 'ใบแดง' ในเกม ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022 ซึ่งทำให้หลายๆ คนเกิดความแคลงใจในฝีเท้าขอกองกลางพันธุ์ดุผู้นี้

ทว่านับจากนั้นเป็นต้นมา เคาซิช ใช้ผลงานในสนามตอบทุกข้อสงสัย

การที่ บุรีรัมย์ มีเขาอยู่ในแดนกลาง ทำให้ความสมดุลระหว่างเกมรับกับเกมรุกดูเนียนตามากๆ 

จากการถูกไล่ออกในเกมอย่างเป็นทางการกับปราสาทสายฟ้า ถึงตอนนี้ 9 เกม ที่เขาลงรับใช้สโมสร ปรากฏ 'ใบเหลือง' เพียง 1 หนเท่านั้น ซึ่งนั่นหมายความว่าเขาเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วนำมาปรับปรุงตัวได้อย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญ ทั้งๆ ที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง แต่ตอนนี้พี่แกกดไปแล้ว 7 ประตู เทียบเท่ากับ ศุภชัย ใจเด็ด ผู้นำดาวซัลโวของทีม

หากว่าปลายทางของฤดูกาล 2022-23 บุรีรัมย์ สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ทุกรายการ

ชื่อของ เคาซิช จะต้องเป็นหนึ่งใน 'คีย์แมน' แห่งความสำเร็จอย่างแน่นอน

ข้อมูลจำเพาะ 'โกรัน เคาซิช' 

สัญชาติ : เซอร์เบีย

อายุ : 30

ตำแหน่ง : กองกลาง

สโมสร : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

หมายเลข : 20

ใหม่ใน ไทยลีก : 2022