ฤดูกาลที่ยากลำบากของ บีจี

การอยู่อันดับ 7 ในตาราง ไทยลีก 2022-23 ของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากๆ เพราะพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ที่พวกเขาควรจะอยู่เลย

รองแชมป์ซีซั่นก่อน กำลังอยู่ในห้วงเวลาที่ยากลำบากไม่น้อย

เวลานี้ทีมกระต่ายแก้วมีคะแนนห่างจาก ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเป็นจ่าฝูงอยู่ถึง 10 แต้ม 

แม้ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูกาล หนทางยังอีกยาวไกล แต่การที่พวกเขาถูกทิ้งระยะขนาดนี้ย่อมไม่เป็นผลดีแน่

อีกทั้ง 2 ทีมลุ้นแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด เองก็ยังเกาะกลุ่มด้านบนไว้ได้เหนียวแน่น มันจึงทำให้งานของ บีจี ปทุม หนักหน่วงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ปัจจัยหลักที่ส่งผลกับการที่ เดอะ บลู แมชีน มีผลงานที่ย่ำแย่ น่าจะมาจากการที่ลงสนามต่อเนื่องจาก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และการเล่นเป็นทีมเยือนที่ทำได้ไม่ดีนักในซีซั่นปัจจุบัน

ทีมกระต่ายแก้วเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากสยามประเทศที่ไปได้ไกลในถ้วยใหญ่ของเอเชีย ประจำฤดูกาล 2022 กับการผ่านถึงรอบ 8 ทีม สุดท้าย 

แน่นอนว่ามันคือเรื่องดีต่อวงการฟุตบอลไทย อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้ทั่วทั้งทวีปได้เห็นว่าสโมสรจากดินแดนขวานทองก็ไม่ธรรมดา สามารถเข้ารอบลึกๆ ของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เช่นกัน

แต่มันแลกมาด้วยการที่นักเตะหลายๆ คนต้องเหนื่อยล้า ทั้งจากการกรำศึกในสนามอย่างต่อเนื่องมาแรมปี แถมยังมีเรื่องของการเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ

อย่าลืมว่าผู้เล่น บีจี ปทุม นี่คือทีมชาติทั้งนั้น โดยเฉพาะไทย กับสิงคโปร์ นี่รวมๆ ก็นับ 10 ราย ที่ลงสนามแบบนัน-สต็อปมาตั้งแต่ปี 2021

สโมสรก็ต้องซ้อม ทีมชาติก็ต้องเก็บตัว มันจึงทำให้แทบไม่มีช่องว่างให้ได้พักเลย

พอกลับมาแข่งในลีก เกมประเดิมสนามของซีซั่น 2022-23 กับ ชลบุรี ก็เห็นผลทันทีเมื่อพวกเขาเป็นฝ่ายปราชัยไป 0-1 ในรูปเกมที่ตัวเองครองบอลได้เบ็ดเสร็จ แต่ไม่อาจปิดสกอร์ได้สำเร็จ

ต่อเนื่องถึงนัดที่ 2 ที่บุกไปนำ บุรีรัมย์ 2-0 แต่สุดท้ายมาโดนตีเสมอ 2-2 อย่างเจ็บปวด

เข้าใจได้ว่า 2 แมตช์แรกนั้นเจอของแข็ง แต่ถ้าสภาพร่างกายของผู้เล่นสมบูรณ์กว่านี้ บางทีผลการแข่งขันอาจจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้

กว่าที่ บีจี ปทุม จะกลับมาเข้าร่องเข้ารอยก็เป็นนัดที่ 3 กับ 4 ของซีซั่น กับการเล่นในรังตัวเอง ก่อนจะเฉือนชนะ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ไปหวุดหวิด 1-0 ตามด้วย การท่าเรือ เอฟซี ที่เหลือ 10 คน ด้วยสกอร์ 4-2

แต่พอนัดที่ 5 ออกไปเยือน ประจวบ เอฟซี ก็ต้องเป็นฝ่ายไล่ตามตีเสมอเจ้าถิ่น 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนที่เกมจะจบลง 2-2

มาดีขึ้นหน่อย เพราะได้เรียกความมั่นใจจากการถล่ม เมืองทอง ยูไนเต็ด เละเทะ 3-0 แต่ก็ไม่อาจวัดอะไรได้มากนัก เนื่องจากกิเลนผยองอยู่ในช่วงดิ่งลงเหวเช่นกัน

กระทั่งล่าสุดใน แมตช์เดย์ ที่ 7 พวกเขาบุกไปแพ้ หนองบัว พิชญ เอฟซี 0-1

นี่คือชัยชนะนัดแรกของทีมพญาไก่ชนในฤดูกาล 2022-23 และมันคือแต้มใหญ่เสียด้วย เพราะได้จาก บีจี ปทุม 

ผ่านไป 7 นัด - กระต่ายแก้วเล่นเป็นทีมเยือน 4 เกม และไม่ชนะใครเลย โดยเป็นการเสมอ 2 กับแพ้ 2 นัด

หากคุณเป็นทีมลุ้นแชมป์ สถิตินี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นเป็นอันขาด 

มาโกโตะ เทกูระโมริ กุนซือ เดอะ บลู แมชีน เองก็คงรู้ดีว่าปัญหาของทีมเขาคือจุดไหน และเจ้าตัวจะต้องเร่งลบจุดอ่อนให้ด่วนที่สุด ก่อนที่อะไรต่อมิอะไรจะสายเกินแก้

จากนี้อีก 2 เกม บีจี ปทุม จะได้เล่นในบ้านตัวเอง ซึ่งสำคัญมากๆ เพราะพวกเขาต้อง 6 คะแนน เท่านั้นหากยังต้องการอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์

เนื่องจากต่อจาก 2 นัดนี้ (พบ โปลิศ เทโร เอฟซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด) ทัพกระต่ายแก้วจะต้องยกพลไปเยือน แบงค็อก ที่กำลังมั่นใจสุดขีด

เกมนี้แหละที่ เดอะ บลู แมชีน จะต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพราะมันจะทำให้ช่องว่างของกลุ่มหัวตารางขยับแคบลง อีกทั้งยังเป็นการลดทอนความฮึกเหิมของบียูที่ซีซั่นนี้มาดีมากอีกด้วย

หนทางการลุ้นแชมป์ลีกยังอีกยาวไกล ทว่า ณ วินาทีนี้ ฤดูกาล 2022-23 เป็นปีที่ยากลำบากของ บีจี ปทุม จริงๆ


ที่มาของภาพ : @BGPATHUMUNITED
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport