รอวันยิ่งใหญ่! จับตา อุทัยธานี เอฟซี จากการก่อตั้งของ ชาดา ไทยเศรษฐ์

เชื่อว่าทุกสายโฟกัสไปที่ การไล่ล่าแชมป์ ว่าจะเป็นทีมไหนจะเป็นเจ้าของเดิม ที่ได้ 3 แชมป์มา 2 ซีซั่นติดต่อกันก่อนหน้านี้ อย่าง บุรีรัมย์ฯ หรือจะมีแชมป์หน้าใหม่แย่งไปได้ ทั้ง ทรู แบงค็อกฯ, การท่าเรือฯ, บีจี ปทุมฯ ซึ่งล้วนเป็นทีมที่ถูกมองว่ามีโอกาส 

อีกหนึ่งเรื่องที่แฟนบอลจับจ้องคือ ทีมไหน จะเป็น 3 ทีมต้องตกชั้นไปเล่นลีกรองฤดูกาล 2024-2025 

แม้เพิ่งเริ่มมา 3 เกม แต่หากดูจากผลงานที่ผ่านมา แน่นอนว่า ลำพูน วอริเออร์ รองบ๊วย กับ อุทัยธานี เอฟซี ทีมน้องใหม่ ที่ก้าวมาเล่นไทยลีก 1 เป็นหนแรก ที่แพ้รวด เหมือนกัน ถูกมองว่าจะต้องตกชั้นแม้จะเหลืออีกยาวไกลแบบมหากาพย์เกมลีกก็ตาม เพราะที่ผ่านมา ใครออกสตาร์ทย่ำแย่ จากสถิติเก่าๆ ที่ผ่านมา มักจะไม่รอดม้วนเสื่อกลับบ้าน

ลำพูนฯ เองมีปัญหาก่อนฤดูกาลจะเริ่ม ต้องเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ น้ำเลี้ยงที่เคยดี อาจส่งผลบ้าง แต่นักเตะทุกคนยังสู้ เพียงแค่ผลงานแตกต่างจากซีซั่นก่อน

ส่วน "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" อุทัยธานี ทีมแห่งผืนป่ามรดกโลกของไทยนั้น ด้วยความเป็นน้องใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ทำให้แพ้รวด 3 เกม เกมรุกไม่โอเค เกมรับแย่ ทรงแบบนี้คือทรงตกชั้น ทำให้ อุทัยธานี ปรับกุนซือแล้ว 2 รอบ หลังให้ "โค้ชโด" ภัทรพล นาประเสริฐ ต่อด้วย จักรพันธ์ ปั่นปี ก็ยังไม่ฟื้น ล่าสุด เลือก มิคาเอล สตาเลห์ ชาวสวีดิช มาคุมทัพ

แม้จะถูกมองว่า โอกาสตกชั้นสูง แต่หากโฟกัสกันจริงๆ มองให้ลึก ภาพของทีม "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เป็นทีมมีของดีอยู่กับทีม  

โดยเฉพาะกับน้ำเลี้ยง ที่สนับสนุนทีม ทั้ง การมี "บอสเบนซ์" ธนาชัย ปั้นงาม บุตรของคนดัง อุทัยธานี ระดับมหาเศรษฐี นั่งเป็นประธานสโมสร

นอกจากนี้ยังมี พี่ใหญ่ของ จ.อุทัยธานี อย่าง ชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่เพิ่งได้นั่งตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย

เชื่อว่า อุทัยธานี ไม่ใช่แค่จะไม่ตกชั้นหากแต่ถ้ามองที่ระยะยาวแล้ว อนาคตสดใสแน่ สำหรับ "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" เพราะ ท่านชาดา เป็นผู้ก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ขึ้นมา เมื่อปี 2010 ชื่อทีม อุทัยธานี ฟอเรสต์ นั่งประธานสโมสร แข่ง ด. 2 โซนเหนือ ปี 2553 โดยเคยมีช่วงพักส่งทีมแต่ก็กลับมาส่งต่อปี 2559 แต่สุดท้ายก็ยุบสโมสรไป  

กระทั่ง จบฤดูกาล 2562 แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ได้ขายสิทธิ์ทีมให้กับ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ก่อนจะก้าวสู่ไทยลีก 1 ได้สำเร็จจารึกอีกหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร

ชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่ต่างอะไรกับ นักการเมืองรายอื่นๆ ที่ในลีกลูกหนังเมืองไทย ส่วนใหญ่ จะอยู่ได้หากไม่ได้เป็นทีมอาชีพของภาคเอกชนจ๋า แบบ บีจี ปทุมฯ, เมืองทองฯ, ทรู แบงค็อกฯ ก็มีรากเหง้าการสนับสนุนมาจากนักการเมืองของแต่ละจังหวัดเป็นหัวใจสำคัญหลักใหญ่ นั่นเอง  

ปูมหลังของทีมก็บอกได้ชัดเจนแล้วว่า เมื่อครั้ง เป็นอุทัยธานี ฟอเรสท์ ก็เกิดจาก ท่าน ชาดา นั่นเอง

ยิ่งการได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคคะแนนเสียงอันดับ 2 จากบรรดาพรรคร่วมด้วยกัน ที่มีอำนาจต่อรอง และ ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้ดูแลกระทรวงใหญ่ เป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ใน ครม.เศรษฐา 1 

ยิ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีกับทีม "ช้างป่าห้วยขาแข้ง" เพราะเรื่องของคำว่า บารมี, คอนเนกชั่น กับการทำทีมลูกหนังเมืองไทย ยังต้องมีจากนักการเมือง โดยเฉพาะกับเรื่องสปอนเซอร์ที่จะเข้ามาสนับสนุนทีม

คนระดับที่ได้รับฉายาว่า "เจ้าพ่อแห่งลุ่มน้ำสะแกกรัง" นั้น ใครก็รู้ดีว่า ใจใหญ่แค่ไหน บุคคลิกดุดัน จริงจัง ท่านในวัย 62 ปี น่าจะเห็นมาแล้วกับ ความสำเร็จของ บุรีรัมย์ฯ ว่าเป็นอย่างไร

เร็วๆ นี้เราน่าจะได้เห็นทีมลูกหนังจากจังหวัดไม่ใหญ่ แต่พี่ใหญ่ของจังหวัดอย่าง ชาดา นั้น ใจเกินร้อย มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อการเปลี่ยนโฉมหน้าทีม โดยเฉพาะการนักเตะดีๆมาเสริมทัพ ในช่วงตลาดซื้อขายเลกสองเปิด

แฟนบอล อุทัยธานี เชื่อว่า ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ คงไม่อยากเห็นทีมตกชั้นไปอยู่ลีกรองอีกครั้ง

งานนี้ การสนับสนุนของสปอนเซอร์ จะหลั่งไหล เข้าสู่ทีม ยกระดับจากทีมเล็กๆ สู่ทีมขนาดกลางหรือค่อนไปทางใหญ่ ได้ในอนาคตอันใกล้ได้แน่นอน กับโมเดล สูตรสำเร็จแบบฉบับลูกหนังไทยๆ นั่นเอง และฤดูกาลนี้ อุทัยธานี เอฟซี ที่มีท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ ยังสนับสนุนทีมอยู่ ก็ไม่สมควรจะตกชั้นด้วยประการทั้งปวง

เข้าตำรา ทีมบ้านเกิด จะให้ใครมาดูแล ถ้าไม่ใช่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ คนนี้

สำหรับประวัติของ ชาดา ไทยเศรษฐ์ เริ่มต้นจากเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี โดยปี พ.ศ. 2543 ร่วมกิจกรรมกับพรรคถิ่นไทย, ปี 2550 ได้รับเลือกเป็น ส.ส.อุทัยธานี สังกัดพรรคชาติไทย, ปี พ.ศ. 2554 สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ปัจจุบันเป็น ส.ส.อุทัยธานี เขต 2 และเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังจากย้ายมาอยู่พรรคนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา  

"คนนนท์ @ ณ บางกรวย"