เจาะ 4 ช. พา ชลบุรี เอฟซี โลดแล่นไกล

7 นัด 18 คะแนน พร้อมกับยึดตำแหน่ง 'จ่าฝูง' ได้เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะสะดุดง่ายๆ โดยผู้เล่นในทีมมีค่าเฉลี่ยอายุ 'น้อยที่สุด' เป็นลำดับที่สองของลีก และนี่คือ '4 ช.' ที่พาฉลามชลโลดแล่นไกล!!

[ 1 ] ชื่นชอบ

จังหวัดชลบุรี เป็นเมืองกีฬาที่ผู้คนท้องถิ่นแทบทุกหลังคาเรือนสนใจในเรื่องของการแข่งขัน 

โดยเฉพาะ 'ฟุตบอล' ที่เปรียบเสมือน 'ลมหายใจ' ของพวกเขา เลยไม่ต้องแปลกใจเลยว่าเหตุใด ชลบุรี เอฟซี จึงเป็นสโมสรแรกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้จุดประกายให้กับวงการลูกหนังไทย ในยุคแรก

ชาวชลบุรี มีส่วนผลักดันฟุตบอลไทย ในช่วงตั้งไข่ กับการเข้ามาเชียร์ทีมรักของตนเองกันเต็มความจุดของสนาม ซึ่งภาพที่ออกมาทั้งในสื่อต่างๆ ทำให้เกิดกระแสศรัทธาขึ้นมาอีกครั้ง

พอเห็นภาพการเข้าไปให้กำลังใจนักเตะกันอย่างล้นหลามในสนามแข่งขันถูกแพร่ออกไป มันเลยเกิดความรู้สึก 'ท้องถิ่นนิยม' ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งสโมสรฟุตบอลนี่แหละ ที่สามารถยึดโยงผู้คนในจังหวัดให้หันมาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความเชื่อในลักษณะนี้ได้ถูกกระจายออกไปตามจังหวัดต่างๆ ในเวลาต่อมา

จริงๆ แล้วชาว ชลบุรี ไม่ได้เพียงแค่ 'ชื่นชอบ' ฟุตบอล หากแต่พวกเขา 'รัก' ในกีฬาประเภทนี้เอามากๆ และแน่นอนว่ามันจึงสะท้อนไปถึงสโมสรที่พยายามตอบสนองกองเชียร์ของตนเองด้วยการทำผลงานให้ดีที่สุด

ทั้งหมดนี้มาจากการที่ ชลบุรี เป็นสโมสรที่เริ่มต้นจากความรักในกีฬาลูกกลมๆ อย่างแท้จริง

[ 2 ] เชื่อมั่น

สะสม พบประเสริฐ อาจจะไม่ใช่เฮดโค้ชที่มีโปรไฟล์เลิศหรู เขามีเพียงแชมป์ ลีก คัพ 2009 และ เอฟเอ คัพ 2010 กับ การท่าเรือ เอฟซี เพียงสองใบมาประดับบารมี

ทว่ากุนซือคนนี้เป็นคนที่ทำงานร่วมกับนักเตะอายุน้อยได้อย่างไหลลื่น 

ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ 'โค้ชเตี้ย' เคยคุมทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี, 16 ปี และ 19 ปี มาก่อน มันจึงทำให้เขารู้จักวิธีการปลุกปั้นดินสู่ดวงดาว

อดีตกองกลางทัพช้างศึกยุค 90' เข้ามารับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ของฉลามชลเมื่อปี 2019 และห้วงเวลานั้นผลงานของทีมก็ไม่ค่อยสม่ำเสมอ 

เท่านั้นไม่พอ ฤดูกาล 2020-21 ชลบุรี ที่ใช้ผู้เล่นจากอะคาเดมี่เป็นหลัก มีอันต้องหล่นไปอยู่ในท้ายตารางกับการมีเพียง 32 คะแนน ซึ่งถือว่าเกือบจะน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรเลยทีเดียว

แม้สถานการณ์จะหมิ่นเหม่ ทว่าฝ่ายบริหารของทีมก็ยังออกมาพูดผ่านสื่ออยู่บ่อยๆ ว่า 'เชื่อมั่น' ในตัวกุนซือคนนี้ และเก้าอี้ของ 'โค้ชเตี้ย' ก็แข็งแรงมั่นคงแน่นอน

วันเวลาผันผ่านมาถึงปัจจุบัน สะสม ได้สั่งสมประสบการณ์ให้กับลูกทีมของตนเอง จนเวลานี้หลายๆ คนเติบใหญ่อย่างมั่นคง

ผลงานที่ออกมา สะท้อนให้เห็นว่าแนวทางที่พวกเขายึดมั่นมาโดยตลอดมาถูกแล้ว แม้จะต้องเผชิญหน้ากับระบบทุนนิยมที่ผู้มีเงินหนาย่อมได้เปรียบกว่าผู้มีทรัพย์สินบางตา ทว่า ชลบุรี ก็พร้อมจะยืนหยัดต่อสู้กับสิ่งที่ตนเองเชื่อมามาโดยตลอด

[ 3 ] เชี่ยวชาญ

ชลบุรี เป็นสโมสรที่เลื่องชื่อลือชาในเรื่องการปั้นนักเตะสู่ทีมชาติไทย อยู่แล้ว

ผู้เล่นหลายต่อหลายรายผ่านการเจียระไนและเฝ้าฟูมฟักจนกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่สามารถเลี้ยงดูตนเอง รวมไปถึงครอบครัวได้

จตุพงษ์ ทองสุข, นเรศ สุขงาม, พิภพ อ่อนโม้, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุรัตน์-สุรีย์ สุขะ, เอกพันธ์ อินทเสน, ณัฐพงษ์ สมณะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, ชลทิตย์ จันทคาม, อดุล หละโสะ และ อาทิตย์ สุนทรพิธ อยู่ในทำเนียบทัพช้างศึกในรุ่นก่อน

ตามต่อด้วยรุ่นน้องอย่าง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, นูรูล ศรียานเก็ม, ชนินทร์ แซ่เอี๊ยะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, กฤษดา กาแมน และล่าสุดกับ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ รวมไปถึง ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่ก้าวสู่ทีมชาติไทย อย่างเต็มภาคภูมิ

รายชื่อข้างต้นคือผู้เล่นที่เติบโตมาจากระบบอะคาเดมี่ของ ชลบุรี โดยตรง ซึ่งนั่นคือเครื่องบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขา 'เชี่ยวชาญ' ในเรื่องการปั้นนักเตะเพียงใด

[ 4 ] ชาญฉลาด

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าฟุตบอลไทย ในยุคปัจจุบัน 'นักเตะต่างชาติ' คือข้อแตกต่างที่สามารถชี้วัดผลการแข่งขันได้

ความสำเร็จของกลุ่มที่เคยฟาดแชมป์ ไทยลีก ไล่ตั้งแต่ ชลบุรี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือการที่พวกเขามีผู้เล่นนำเข้าฝีเท้าดีอยู่ในทีม

2007 ฉลามชลมี โคเน่ โมฮาเหม็ด เป็นตัวชูโรง

2011 ปราสาทสายฟ้ามาพร้อมดูโอ้ผิวสี ฟร้องค์ โออ็องซ่า และ ฟร้องค์ อาเชียมปง กับฟอร์มที่ร้อนแรงเกินห้ามใจ

2012 กิเลนผยองใช้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นผู้สร้างปรากฏการณ์สุดมหัศจรรย์

2013 บุรีรัมย์ มี การ์เมโล่ กอนซาเลซ ที่ทั้งยิงทั้งจ่ายจนได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ ฟุตบอลในประเทศเป็นครั้งแรกของสโมสร

2014 ต่อด้วย 2015 ปราสาทสายฟ้ายังครองบัลลังก์ เพราะมี ดิโอโก้ ลุยส์ ซานโต้ อยู่แดนหน้า แถมหลังบ้านยังระแวดระวังโดย อันเดรส ตูเนซ

2016 เมืองทอง กลับมาทวงแชมป์ได้ด้วยการใช้ มาริโอ อบรันเต้ กับ นาโออากิ อะโอยามะ ในแนวรับ บวกกับแดนหน้าที่ เคลตัน ซิลวา คว้าดาวซัลโว ไทยลีก ในปีนั้น

ไล่มาถึง 2019 กับแชมป์ประวัติศาสตร์ของ เชียงราย ที่พวกเขามีแกนหลักคือ บรินแนร์ ในแดนหลังกับ บิลล์ ผู้เป็นความหวังสูงสุดในการทำประตู

2020-21 แชมป์แรกของ บีจี ปทุม ก็เช่นกัน - กระต่ายแก้วมี วิคตอร์ คาร์โดโซ่ เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นดาวซัลโวสูงสุด แถมยังไปเอา ดีโอโก้ กลับไทย ในเลกที่สองอีกต่างหาก

จากบันทึกข้างต้นนั้นสามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าหากคุณจะประสบความสำเร็จ คุณจำเป็นต้องมีนักเตะต่างชาติประเภท 'ของจริง' อยู่ในทีม

ฤดูกาล 2022-23 ฉลามชลยังคงแกนหลักอย่าง เรนาโต้ เคลิช, ยู บยอง-ซูและ เดนนิส มูริลโล่ เอาไว้ 

โดยพวกเขาไปเอา อมาดู อ๊อตตาร่า ที่อาจจะไม่ได้โด่งดัง แต่นี่คือนักเตะที่ตอบโจทย์ในเกมรุกได้อย่างแท้จริงในจังหวะสวนกลับที่เล่นงานคู่แข่งจนเหนื่อยล้า

ขณะที่อีกราย ดานิโล่ อัลเวส อดีตกองหน้าของ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่หล่นชั้นไป แต่ความเฉียบคมของ ชลบุรี เล็งเห็นว่าหมอนี่สามารถตอบโจทย์ได้ ซึ่งผลงานที่ออกมาก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความแม่นยำในทีมสเกาต์ฉลามชลที่มองขาดว่าหัวหอกวัย 31 ปี จะเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปได้

นี่แหละคือความ 'ชาญฉลาด' ของพวกเขาที่นำเข้าโควตาแข้งนอกได้ตรงจุดที่คัน



ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport