จาก ลูบินสกี้ ถึง เซอร์เกเยฟ นักเตะอุซเบกิสถานในลีกไทย

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ของ ไทยลีก ประกาศคว้า อิกอร์ เซอร์เกเยฟ ศูนย์หน้าทีมชาติอุซเบกิสถาน เข้ามาร่วมทัพสดๆ ร้อนๆ ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอพาคุณย้อนอดีตไปดูว่าก่อนหน้านี้มีผู้เล่นจากดินแดนแห่งอารยธรรมเอเชียกลาง คนใดบ้าง ที่เคยค้าแข้งในสยามประเทศ!!

[ 1 ] วาดิน ลูบินสกี้ (ร้อยเอ็ด เอฟซี, 2014)

   นี่คือนักเตะอุซเบกิสถาน คนแรกที่มาเปิดตลาดกับลีกไทย โดยย้ายจากสโมสรในลีกบ้านเกิดสู่ ร้อยเอ็ด เอฟซี ซึ่งขณะนั้นอยู่ ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) ฤดูกาล 2014

   ในซีซั่นดังกล่าว โควตาต่างชาติของ ดิวิชั่น 1 มีพื้นที่ถึง 6 ที่นั่ง แถมยังบวกแข้งเอเชีย ได้อีกหนึ่งราย ซึ่งทัพกระรอกขาวก็นำเข้า ลูบินสกี้ มายืนเล่นในเกมรับให้กับทีม

   อย่างไรก็ตาม กองหลังชาวอุซเบกิสถาน อยู่กับ ร้อยเอ็ด ได้เพียงฤดูกาลเดียว ก่อนจะย้ายออกไปเล่นในลีกต่างแดนอีกครั้ง

[ 2 ] ยาฟลอน กูเซย์นอฟ (ชัยนาท ฮอร์นบิลล์ เอฟซี, 2017)

   ปราการหลังดีกรีทีมชาติอุซเบกิสถาน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ย้ายจาก ซ็อกเดียน่า จิซซาคห์ สโมสรในลีกบ้านเกิดมาเล่นกับ ชัยนาท ฮอร์นบิลล์ เอฟซี น้องใหม่ของ ไทยลีก 2 ซีซั่น 2017 ที่เพิ่งหล่นลงมา

   อย่างไรก็ตาม กูเซย์นอฟ อยู่กับนกใหญ่พิฆาตได้เพียงครึ่งฤดูกาล ก็ต้องย้ายกลับประเทศ โดยมี เอจีเอ็มเค (AGMK) รอรับอยู่ แถมไปได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ก่อนจะกลับมาค้าแข้งในอาเซียน อีกครั้งกับ โบเมโอ้ ซามารินด้า ทีมในลีกอินโดนีเซีย ในปี 2019 ซึ่งที่นี่เขาฟอร์มดีจนติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาลอีกด้วย

   ปัจจุบันในวัย 31 ปี เขายังโลดแล่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยล่าสุดไปอยู่กับ เปอร์ซิต้า ตันเกรัง อีกทีมหนึ่งในอินโดนีเซีย

[ 3 ] อาร์ตยอม ฟิลิโปสยาน (ประจวบ เอฟซี, 2019)

   นี่คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมาย ก่อนย้ายมาเล่นในเมืองไทย กับการได้แชมป์ลีกอุซเบกิสถาน แถมทะลุถึงรอบ 4 ทีม สุดท้าย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ร่วมกับ บุนย็อดกอร์, ได้แชมป์ เอเอฟซี คัพ กับ นาซาฟ 

   เท่านั้นไม่พอ ฟิลิโปสยาน ยังพกดีกรีทีมชาติชุดใหญ่อีกต่างหาก ซึ่งการมาผจญภัยใน ไทยลีก 2019 โดยมีปลายทางที่ ประจวบ เอฟซี ดังนั้นจึงต้องชื่นชมสายตาของแมวมองทีมต่อพิฆาตจริงๆ ที่ไปเห็นแววเซนเตอร์ฮาล์ฟคนนี้มาได้

   เพียงปีแรกที่มาโชว์เพลงแข้งบนแผ่นดินขวานทอง เขาก็ยืนคู่กับ อันนาน โอราโฮวัช ได้แบบแข็งแกร่ง ก่อนจะนำทีมคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้ทันที ด้วยการล้ม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นแชมป์ประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย

    ฟิลิโปสยาน ย้ายไปลีกอินโดนีเซีย หลังจบซีซั่น 2019 แต่ก็กลับมา ประจวบ อีกครั้งในปี 2021 ทว่าอยู่ได้ครึ่งฤดูกาล แล้วไปต่อที่ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ในเลกสอง โดยปัจจุบันกับวัย 35 ปี เขาเล่นอยู่ในลีกบ้านเกิด และน่าจะแขวนสตั๊ดที่นั่นเลย

 [ 4 ] อั๊คบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, 2020-21)

   มิดฟิลด์ตัวรับดีกรีแชมป์ลีกอุซเบกิสถาน 2 สมัย กับ ปัคห์ตากอร์ ก่อนจะข้ามฟากมาหากินในเมืองไทย ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2020-21 

   แม้สถิติการรับใช้ทีมชาติของ อิสมาตุลลาเยฟ จะไม่มากนัก แต่ชื่อของเขาอยู่ในลิสต์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนั่นก็พอจะการันตีได้ว่ากองกลางคนนี้มีดีเพียงใด

   อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกที่เขาย้ายมานั้นดันติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้พลาดการลงสนามให้ปราสาทสายฟ้า และพอหายกลับมา ก็ปรับตัวกับ ไทยลีก ได้ไม่ดีนัก จนทำให้ถูกปล่อยตัวออกไปในเลกที่สอง โดยปัจจุบันในวัย 32 ปี - อิสมาตุลลาเยฟ ได้กลับไปค้าแข้งในลีกบ้านเกิดกับ บุนย็อดกอร์

[ 5 ] ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ (เมืองทอง ยูไนเต็ด, 2020-21)

   ย้ายมาก่อนที่ตลาดซื้อ-ขายผู้เล่นฤดูกาล 2020-21 จะรูดม่านลงไม่นาน แถมยังเปิดตัวอลังการพร้อมด้วยหมายเลข 10 ซึ่งเป็นเบอร์ระดับตำนานของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ ธีรศิลป์ แดงดา ถือครองมานานนับสิบปี

   มีร์ซาเยฟ มาพร้อมดีกรีทีมชาติอุซเบกิสถาน แถมยังเคยตะลุย เวิร์ล คัพ ยู-20 ในสมัยที่ยังเล่นทีมชุดเยาวชน โดยได้เผชิญหน้า คีแรน ทริปเปียร์, มาร์ติน เคลลี่ และ เบ็น มี ของอังกฤษ มาแล้วในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวเมื่อปี 2009

   ผลงานของเขากับกิเลนผยองถืออยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจกับการปั้นเกมรุกและในซีซั่น 2020-21 ซึ่งเป็นปีแรกของเจ้าตัวใน ไทยลีก ก็เป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรในฤดูกาลนั้น ทั้งๆ ที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง

[ 6 ] อิกอร์ เซอร์เกเยฟ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, 20023-ปัจจุบัน)

   หัวหอกป้ายแดงของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และเป็นคู่หูของ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของประเทศ ที่ปัจจุบันยังมีสัญญาอยู่กับ โรม่า สโมสรดังของ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

   เซอร์เกเยฟ มีสถิติการลงเล่นให้ทีมหมาป่าขาวแห่งเอเชียกลาง ไป 65 นัด และทำได้ 17 ประตู และเคยได้แชมป์ลีกอุซเบกิสถาน มาแล้ว 4 สมัย ร่วมกับ ปัคห์ตากอร์ ทาชเคนท์ รวมถึงไปได้แชมป์ลีกคาซัคสถาน ตอนเล่นให้ ตาโบล อีกหนึ่งหน

   ส่วนผลงานส่วนตัว เขาเคยได้รางวัลดาวซัลโวสูงสุดของศึก ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2012 และได้รับรางวัลรองเท้าทองคำของลีกอุซเบกิสถาน เมื่อฤดูกาล 2015

   จากความสำเร็จ บวกด้วยผลงานที่ผ่านมา ในวัย 30 ปี ถือเป็นช่วงอายุที่กำลังพีกของนักเตะในตำแหน่งศูนย์หน้า หากว่าปรับตัวกับ ไทยลีก ได้เร็วเท่าไหร่ เซอร์เกเยฟ ก็น่าจะกลายเป็นหนึ่งในตัวอันตรายของทัพกระต่ายแก้วเช่นกัน



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport