บุรีรัมย์ - เมืองทอง พื้นที่ไหน ใครเหนือกว่า!!

โทษฐานที่ช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมี 'บิ๊กแมตช์' ของ ไทยลีก ประจำสัปดาห์ที่ 5 ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ ช้าง อารีน่า ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอโหมโรงก่อนศึกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง

โดยวันนี้ เราขอพาคุณไปเทียบตำแหน่งต่อตำแหน่งระหว่าง บุรีรัมย์ กับ เมืองทอง ทีมใดจะเหนือกว่ากัน!!

___________

[ 1 ] ผู้รักษาประตู

บุรีรัมย์

ปราสาทสายฟ้ามี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน มือหนึ่งทีมชาติไทย คนปัจจุบันยืนเฝ้าเสา แม้อายุจะ 38 ปี ความปราดเปรียวลดลง แต่สิ่งที่หมอนี่เก่งขึ้นคือการยืนตำแหน่งที่มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ และนั่นทำให้ตลอดหลายปีหลัง บุรีรัมย์ เสียประตูได้ยากเหลือเกิน

เมืองทอง

ปัจจุบันกิเลนผยองอุดมไปด้วยนายทวารชั้นนำของประเทศ ไล่ตั้งแต่ สมพร ยศ, พีระพงษ์ เรือนนินทร์ และล่าสุดกับการกลับถิ่นของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ มือหนึ่งของทีมคือ สมพร ที่จองยาวมาตั้งแต่ซีซั่นก่อน ด้วยฟอร์มการเล่นสม่ำเสมอ บวกกับลูกเท้าที่ไว้ใจได้ ซึ่งเป็นผู้รักษาประตูในแบบที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ชื่นชอบพอดี

__________

[ 2 ] เซนเตอร์ฮาล์ฟ

บุรีรัมย์

นี่คือ 'จุดแข็ง' ของปราสาทสายฟ้ามานานปี พวกเขาไม่เคยขาดปราการหลังชั้นยอดเลยสักครั้ง ไล่ตั้งแต่ยุคเก่าก่อนก็มี ออสมาร์ อิบันเญซ ตามด้วย อันเดรส ตูเญส และปัจจุบันถึงยุคของ เรบิน ซูลาก้า

นอกจากเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอิรัก - บุรีรัมย์ ก็มีทั้ง พรรษา เหมวิบูลย์, ชิติพัทธ์ เเทนกลาง และ ดีเอโก้ บาดันก้า กองหลังทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่โอนสัญชาติจากสเปน มายืนปักหลักอีกต่างหาก

เมืองทอง

'เกมรับ' คือจุดที่ที่คู่ต่อสู้มองว่าเป็น 'จุดอ่อน' ของกิเลนผยอง โดยเฉพาะช่วง 4 ฤดูกาลหลังสุด พวกเขาถูกเจาะตาข่ายในลีกไปต่ำที่สุดคือ 35 ประตู (หนึ่งในนั้น ซีซั่น 2018 เสียไป 53 ลูก)

แม้ว่าเวลานี้ คู่ปราการหลังของ เมืองทอง จะไม่ขี้เหร่ เพราะการสอดประสานระหว่าง ลูคัส โฮช่า กับ เยสเปอร์ นีโฮล์ม นั้นเป็นสไตล์บู๊และบุ๋น แต่ทั้งคู่มักจะโดนอาการบาดเจ็บลักพาตัวอยู่บ่อยๆ ทำให้ขาดความต่อเนื่อง ซึ่งมันส่งผลกระทบโดยตรงทันที

ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังเป็นประเภทอ่อนพรรษา ไม่ว่าจะเป็น ชาติชาย แสงดาว, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ และ ฮง ซอง-วุ๊ค ดาวโรจน์กัปตันเกาหลีใต้ ชุดยู-19 แต่ก็ยังฝากความหวังได้ไม่มากนัก  

__________

[ 3 ] ฟูลแบ็ก

บุรีรัมย์

อีกหนึ่ง 'จุดแข็ง' ของปราสาทสายฟ้า เพราะพวกเขามีแบ็กขวาละซ้ายที่เป็นตัวจริงทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน

ฝั่งขวาคือ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ส่วนฟากซ้าย ไม่มีใครแย่งพื้นที่ของ ธีราทร บุญมาทัน ไปได้แน่

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ธีราทร ถูกขยับให้เข้ามาเล่นมิดฟิลด์บ่อยครั้ง แต่คนที่ไปยืนแบ็กซ้ายแทนอย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน ก็ยอดเยี่ยมไม่หยอกเขียว

นอกจากนี้ อิรฟาน ดอเลาะ หรือ รัตนากร ใหม่คามิ ก็สามารถขยับมายืนตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน

เมืองทอง

อีกหนึ่งจุดที่กิเลนผยองมักจะถูกฝั่งตรงข้ามโจมตีบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าฟูลแบ็ก เมืองทอง ไม่ดี หากแต่ด้วยรูปแบบการเล่นของพวกเขาที่ใช้ผู้เล่นตำแหน่งนี้เติมแบบไม่มีหยุด มันจึงทำให้เกิดช่องว่างให้คู่ต่อสู้เห็น

สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ กับ วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร เป็นตัวหลักทางฝั่งขวาและซ้าย โดยมี บุญทวี เทพวงค์ ที่ผลงานดีมากในระยะหลัง เป็นตัวสอดแทรก นอกจากนี้ โรนัน เปลยเมิน ลูกครึ่งไทย-ดัตช์ ก็ยังรอโอกาสอยู่เสมอ 

__________

[ 4 ] กองกลาง

บุรีรัมย์

ด้วยความที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นกุนซืออันปราดเปรื่อง แท็กติกของเขาสามารถยืดหยุ่นได้เสมอ ดังนั้นแผงมิดฟิลด์ของปราสาทสายฟ้าจึงปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของคู่แข่งที่ต้องเผชิญ

ซีซั่น 2022-23 โกรัน เคาซิช เข้ามายึดพื้นที่แน่ๆ 1 ตำแหน่ง ส่วนอีกคนที่มักจะจับคู่กับกองกลางชาวเซอร์เบีย คือ ธีราทร บุญมาทัน ที่พักหลังถูกจับมายืนมิดฟิลด์เพื่อออกบอล

อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ ที่ บุรีรัมย์ มีอยู่ก็ล้วนแล้วแต่ฝีเท้าดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น  พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, รัตนากร ใหม่คามิ, ชุติพนธ์ ทองแท้ และ อิรฟาน ดอเลาะ

ส่วนมิดฟิลด์ตัวรุก เวลานี้ ศุภชัย ใจเด็ด รับบทบาทคอยเดินเกมบุกกับพวกแดนบน โดยที่ตนเองสามารถขยับไปยืนเป็นกองหน้าเพื่อซัพพอร์ท โจนาต็อง โบลันญี่ ได้อีกต่างหาก

เมืองทอง

นี่คือ 'จุดเด่น' ของกิเลนผยองชุดนี้ เพราะพวกเขามี วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่จัดจ้านจนกลายเป็นตัวหลักทีมชาติไทย ไปแล้ว โดยมีคู่หูอย่าง พิชา อุทรา จอมเทคนิคที่สอดประสานกันได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ธีระพล เยาะเย้ย กับ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ รวมไปถึง สหรัฐ กันยะโรจน์ ก็สามารถทดแทนได้ทุกกรณี ทั้งยังมี ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท ที่พร้อมเสมอหากทีมต้องการจุดเปลี่ยน

ส่วนกองกลางตัวรุก พวกเขามักจะใช้ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ ยืนอยู่บ่อยๆ แต่หลายๆ หนก็หมุนเวียนเปลี่ยนเป็น เอกนิษฐ์ ปัญญา หรือแม้แต่ ปรเมศย์ อาจวิไล ก็สามารถมาทำเกมตรงพื้นที่นี้ได้

______

[ 5 ] ปีก

บุรีรัมย์

เวลานี้ 'ริมเส้น' ของปราสาทสายฟ้าจัดจ้านเหลือเกิน การได้ แฟร้งค์ คาสตาเญด้า เข้ามา ทำให้เกมรุกของ บุรีรัมย์ อันตรายหลายเท่าตัว ส่วนอีกคนที่กำลังไปได้สวยคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ในบทบาทกองหน้ากึ่งปีกที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ในชั่วพริบตา

นอกจาก 2 คนที่เป็นตัวหลัก อายุ๊บ มาซิก้า ปีกทีมชาติเคนญ่า ก็รอคอยโอกาสที่จะโชว์ฟอร์ม รวมไปถึง อ่อง ตู สตาร์เมียนมาร์ ที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง และสามารถเติมมิติให้หลากหลายกว่าเดิม

เท่านั้นไม่พอ ศศลักษณ์ ไหประโคน, ชุติพนธ์ ทองแท้ และ อิรฟาน ดอเลาะ ก็ทดแทนตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน

เมืองทอง

เมื่อฤดูกาล 2021-22 กิเลนผยองมี วิลเลียน พ็อพพ์ เป็นทีเด็ดตรงจุดนี้ เพราะว่าแนวรุกชาวบราซิล มักจะสอดเข้าไปทำสกอร์ได้บ่อยๆ แต่พอไม่มีดาวเตะเบอร์ 19 - ประสิทธิภาพของพวกเขาดูตกลงอย่างชัดเจน

ปัจจุบัน ผู้เล่นหลักของ เมืองทอง ในตำแหน่งริมเส้นมักจะสลับสับเปลี่ยนกันลงสนาม ไล่ตั้งแต่ ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, เอกนษฐ์ ปัญญา, สหรัฐ กันยะโรจน์, กรวิชญ์ ทะสา หรือแม้แต่ ปรเมศย์ อาจวิไล ที่ธรรมชาติเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า บางทีก็ถูกขยับมาเล่นริมเส้นอยู่บ่อยๆ และยังมี ภูมินทร์ แก้วตา ที่เป็นตัวสอดแทรกอีกราย

ขณะที่ เอริก โจฮาน่า โอม็องดี้ หมายเลข 19 คนใหม่ ดูจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควร เพื่อรอวันเฉิดฉายในอนาคต

__________

[ 6 ] ศูนย์หน้า

บุรีรัมย์

หากนับกันจริงๆ ปราสาทสายฟ้ามีศูนย์หน้าตัวเป้าอยู่ในทีมมากถึง 4 คน ไล่ตั้งแต่ โจนาต็อง โบลินกิ หัวหอกทีมชาติดีอาร์ คองโก เป็นตัวเลือกแรก ตามด้วย ศุภชัย ใจเด็ด ที่ซัดไปแล้ว 5 ประตู แต่หมอนี่ถูกวางให้เล่นกองกลางตัวรุก

ทว่าอย่าลืมว่า บุรีรัมย์ ยังมี ลอนซาน่า ดูมบูญ่า อดีตดาวซัลโว ไทยลีก 2019 อีกหนึ่งรายที่รอคอยโอกาสอยู่ และปิดท้ายที่ อาทิตย์ บุตรจินดา กองหน้าตัวทีเด็ดที่มีสถิติทำสกอร์ในช่วงท้ายเกมได้บ่อยๆ 

เท่านั้นไม่พอ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ อ่อง ตู ก็สามารถเล่นตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน

เมืองทอง

สิ่งหนึ่งที่น่าใจชื้นสำหรับสาวกกิเลนผยอง คือการกลับมาสู่ฟอร์มอันแรงร้อนของ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่พังตาข่ายมา 3 เกมติดต่อกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าหมอนี่ยังคงร้ายกาจไปด้วยพิษสงรอบกาย

อย่างไรก็ตาม น่าเป็นห่วงตรงที่ เฮนรี่ อานิเยร์ หัวหอกทีมชาติเอสโตเนีย ที่ฟอร์มจัดจ้านจากฤดูกาลที่แล้ว แต่กลับบอดสนิทในปีนี้ แต่ถ้าคืนร่างเดิมเมื่อไหร่ เมืองทอง ก็จะอันตรายเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวเช่นกัน

นอกจากนี้ ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า กิเลนผยองยังมีเด็กสร้าง ทั้ง ปรเมศย์ อาจวิไล และ กรวิชญ์ ทะสา ที่สามารถเล่นได้อีกต่างหาก

__________

[ 7 ] โค้ช

บุรีรัมย์

มาซาทาดะ อิชิอิ คือกุนซือที่ได้รับการยอมรับจากวงการลูกหนังญี่ปุ่น ถึงขั้นเรียกว่า 'ปรมาจารย์' เลยทีเดียว เพราะมันสมองและผลงานของเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเก่งกาจเพียงใด

ผลงานก่อนหน้าจะมาคุม บุรีรัมย์ คือ แชมป์ เจลีก, เอ็มเพอร์เรอร์ส คัพ และ เจลีก คัพ กับ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส ระหว่างปี 2015-2016 

นอกจากนี้การนำ แอนท์เลอร์ส สร้างประวัติศาสตร์ เป็นสโมสรแรกของเอเชีย ที่ฟ้าด่านไปถึงนัดชิงชนะเลิศศึก ฟีฟ่า คลับ เวิร์ล คัพ 2016 ได้สำเร็จ ก็นับเป็นผลงานที่เลื่องชื่อลือชาของ อิชิอิ

แต่ที่เด็ดดวงยิ่งกว่า คือเขาสามารถทำทีมต่อกรกับ เรอัล มาดริด ที่มีทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, คาเซมิโร่, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน และ มาร์เชโล่ ได้จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ ก็จัดเป็นผลงานชิ้นโบแดงของเทรนเนอร์คนนี้เช่นกัน

แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์และฝีมือ เขาเข้ามาปั้น สมุทรปราการ ซิตี้ จนนักเตะได้ดิบได้ดีไปหลายราย ก่อนที่ตัวเองจะมาต่อยอดด้วยการนำ บุรีรัมย์ คว้า เทรเบิ้ลแชมป์ เมืองไทย ได้สำเร็จ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

เมืองทอง

เมื่อพูดถึงพรรษาและกระดูกด้านงานโค้ช แน่นอนว่า มาริโอ ยูรอฟสกี้ น่าจะรั้งอยู่ลำดับท้ายๆ ของกุนซือใน ไทยลีก

ทว่าสิ่งที่อดีตกองกลางทีมชาติมาซิโดเนีย 'เหนือ' กว่าคนอื่นๆ คือการที่ตนเองเป็นโค้ชที่เก่งกาจในการดึงศักยภาพนักเตะออกมาใช้ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย อีกทั้งยังยึดมั่นในแนวทางของตนเองอย่างชัดเจน

นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่กิเลนผยอง - ยูรอฟสกี้ ค่อยๆ ปรุงแต่ง เมืองทอง ให้เล่นฟุตบอลเอนเตอร์เทน ซึ่งมันคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของเขาออกมา ซึ่งในทุกๆ สัปดาห์ แฟนๆ จะได้เห็นการต่อบอลเข้าทำที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการอยู่เสมอ

นอกจากนี้ นักเตะหลายๆ รายก็ถูกเทรนเนอร์หนุ่มคนนี้ปลุกปั้นจนกลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปของลีก ไม่ว่าจะเป็น วิลเลียน พ็อพพ์ ที่อับเฉาในยุค อเล็กซานเดร กามา ก่อนจะแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของเหล่ากิเลน

วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่เมื่อ 2 ปี ก่อนแทบไม่มีคนรู้จัก แต่ทุกวันนี้หมอนี่คือตัวเลือกแรกๆ ของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ในทีมชาติไทย

พิชา อุทรา จากนักเตะริมเส้น ตอนนี้กลายมาเป็นกองกลางสุดคลาสสิกเต็มรูปแบบและก็ทรงประสิทธิภาพเสียด้วย

แม้จะเป็นรองในศาสตร์ด้านแท็กติก ทว่า ยูรอฟสกี้ ก็มียีนเด่นในแบบที่กุนซือคนอื่นยากที่จะเลียนแบบตามได้เช่นกัน


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport