ถอดรหัสคู่แข่ง! วิเคราะห์ 3 จุดแข็ง-3 จุดอ่อน ทีมชาติไต้หวัน ก่อนดวล ทีมชาติไทย คัดเอเชียนคัพ 2027

ถอดรหัสคู่แข่ง! วิเคราะห์ 3 จุดแข็ง-3 จุดอ่อน ทีมชาติไต้หวัน ก่อนดวล ทีมชาติไทย คัดเอเชียนคัพ 2027
ก่อนเกมคัดเอเชียนคัพ 2027 นัดที่สี่ ที่ ทีมชาติไทย บุกเยือน ไต้หวัน 14 ต.ค. 68 เวลา 17.30 น. ถ่ายทอดสด ไทยรัฐทีวี HD (ช่อง 32), TrueVisions Now และ BG SPORTS (YouTube) - ‘SIAMSPORT’ วิเคราะห์ครบ 3 จุดแข็ง 3 จุดอ่อน ของ “ทีมไต้หวัน” ที่ช้างศึกต้องระวังและใช้เป็นโอกาสลุ้นชัย

จุดแข็ง

1. พลังหนุ่ม ทำให้วิ่งไล่บี้ไม่มีหมด

สิ่งแรกที่เห็นชัดจากเกมนัดแรกคือสปีดและความขยันของนักเตะไต้หวัน

ค่าเฉลี่ยอายุของทีมชุดนี้อยู่ที่ 24.6 ปีเท่านั้น และมีผู้เล่นอายุต่ำกว่า 23 ปี มากถึง 8 คน - เรียกว่าเป็นทีมแห่งอนาคตโดยแท้

หากไม่นับ เฉิน ป๋อ เหลียง ดาวเตะรุ่นใหญ่ในวัย 37 ปี ค่าเฉลี่ยอายุจะลดลงอีกพอสมควร ซึ่งอธิบายได้ทันทีว่าทำไมพวกเขาถึงเพรสซิ่งไล่ตั้งแต่ต้นจนจบเกมได้ตลอด 90 นาที แม้จะครองบอลน้อยกว่ามากๆ

จังหวะเข้าบอลเร็ว, ไล่บีบทุกโซนและความเข้าใจในการสลับตำแหน่งเพื่อบีบพื้นที่ - คือสิ่งที่สร้างความลำบากให้ไทย ในเกมแรกอย่างแท้จริง

พวกเขาอาจจะไม่ใช่ทีมที่อาจไม่เก่งที่สุด แต่ขยันที่สุด และนั่นคืออาวุธอันตรายในเกมฟุตบอลยุคใหม่

2. มีระเบียบเกมรับ และระบบทีมเริ่มเข้ารูป

แม้ชื่อชั้นผู้เล่นของไต้หวัน จะยังไม่เป็นที่รู้จักในระดับเอเชีย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือพวกเขามีวินัยเกมรับที่พัฒนาไปจากหลายปีก่อนมาก

แนวทางของทัพ 'เอ้อหนาน' คือการยืนโซนรับลึก เน้นปิดพื้นที่ตรงกลาง แล้วบีบให้คู่แข่งต้องเล่นออกข้าง ซึ่งจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้สวนกลับผ่านริมเส้นที่มีสปีดสูง โดยเฉพาะ จอห์น เบนชี่ ที่คล่องแคล่วและว่องไว

ในเกมที่ไทย เจอครั้งแรก จะเห็นว่าไต้หวันไม่เปิดหน้าแลก แต่เลือกจะรอจังหวะของตัวเอง พวกเขาอาจครองบอลน้อย แต่เมื่อได้สวนกลับก็ทำได้รวดเร็วและตรงเป้าหมาย

นี่คือระบบที่ค่อยๆ เข้ารูปเข้ารอยและจะกลายเป็นอีกจุดแข็งในอนาคต

3. เล่นในบ้านตัวเอง แถมไร้ความกดดัน

ผ่าน 3 นัดแรกในรอบคัดเลือก ไต้หวัน ไร้แต้มเต็มมือ จึงเป็นเหตุให้ตกรอบแน่นอนแล้ว

ฟังดูเหมือนเสียเปรียบ แต่ในทางกลับกัน มันคือสถานการณ์ที่พวกเขาไม่มีอะไรจะเสียและเล่นด้วยใจล้วนๆ

เมื่อไม่มีแรงกดดันทางผลการแข่งขัน นักเตะมักเล่นได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น กล้าเล่น กล้าเลี้ยง กล้ายิง มากขึ้น

ยิ่งได้เล่นในบ้านของตัวเอง ท่ามกลางแฟนฟุตบอลที่พร้อมหนุนหลัง นั่นอาจเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะผลักดันให้พวกเขาเล่นเกินศักยภาพ

สำหรับทีมไทย การบุกไปเยือนทีมที่ไม่มีอะไรต้องกลัวแบบนี้ บางครั้งก็อันตรายกว่าทีมใหญ่เสียอีก

จุดอ่อน

1. ผู้เล่นชุดปัจจุบันประสบการณ์ยังน้อย

ในความสด มันย่อมมีความไม่เก๋าเป็นด้านตรงข้าม - นักเตะส่วนใหญ่ของไต้หวัน ยังไม่ผ่านเกมใหญ่ระดับเอเชีย มากนัก ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจในจังหวะสำคัญ เช่น การรับมือกับบอลจังหวะสองหรือการแก้เพรสซิ่งเมื่อถูกบีบตั้งแต่แดนบน

เกมฟุตบอลระดับชาติไม่ใช่แค่เรื่องของแรงและสปีด แต่คือเรื่องของจังหวะและสมาธิ ซึ่งทีมพลังหนุ่มมักขาดตรงจุดนี้

ในเกมแรกที่เจอกัน ไต้หวัน ยังรับมือกับความกดดันและจังหวะเข้าทำสุดท้ายของไทย ได้ไม่ดีนัก นี่คือจุดที่ทัพช้างศึกสามารถใช้ความเก๋าเข้ากดดันได้อีกครั้ง

หากบุกกดดันต่อเนื่องและได้ประตูแรกเร็ว รับรองเลยว่าความกดดันจะคลายลงไปในทันที

2. ขาดผู้เล่นสร้างสรรค์เกมรุก

แม้ไต้หวัน จะมีความเร็วและความขยัน แต่สิ่งที่พวกเขาขาดคือความคิดสร้างสรรค์ในแดนกลาง

เฉิน ป๋อ เหลียง มิดฟิลด์มากประสบการณ์ยังเป็นแกนสำคัญ แต่ในวัย 37 ปี เขาไม่สามารถแบกเกมหนักได้เต็ม 90 นาทีอีกต่อไป

ส่วน จอห์น เบนชี่ ศูนย์หน้าเชื้อสายเฮติ แม้มีพละกำลังและคล่องแคล่วว่องไว แต่ก็ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวเกินไปข้างหน้า เพราะไม่มีตัวเชื่อมบอลจากแดนกลางที่มีคุณภาพเพียงพอ

ผลลัพธ์ที่ออกมาคือเกมรุกของไต้หวัน มักขาดความต่อเนื่อง ต้องพึ่งลูกโยนหรือความผิดพลาดของคู่แข่งเป็นหลัก พวกเขาจึงจะได้ประตู

3. ความสม่ำเสมอในการเล่นเกมรับ 90 นาที

ถึงแม้เกมรับจะดุดันในหลายจังหวะ แต่มันขาดความสม่ำเสมอตลอดทั้งเกม นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไทย สามารถอาศัยรอยโหว่เจาะเข้าไป

ด้วยความที่เป็นทีมพลังหนุ่ม เมื่อถูกทัพช้างศึกกดดันหนักๆ เข้า พวกเขามักจะเริ่มมีอาการเป๋ให้เห็น โดยเฉพาะในช่วง 10-15 นาทีสุดท้ายของแต่ละครึ่ง ที่ร่างกายเริ่มล้าและสมาธิเริ่มหลุดให้เห็นบ้าง

ประตูที่ไทย ทำได้ในนัดแรกมักมาจากการใช้ความสามารถเฉพาะตัว หรือการจ่ายบอลทะลุช่องในจังหวะที่เกมรับของไต้หวันยืนตำแหน่งผิดพลาด ซึ่งเป็นผลมาจากความผิดพลาดส่วนบุคคลและความล้าทางสมาธิในช่วงเวลาสำคัญของเกม



ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport