“ช้างศึก” ทีมชาติไทย เตรียมลงดวล “ไต้หวัน” 2 นัดติดต่อกันเดือนตุลาคมนี้ เกมที่ไม่อาจพลาดได้ เพราะอาจชี้ชะตาการเข้ารอบสุดท้ายศึกเอเชียน คัพ 2027 ที่ซาอุดิอาระเบีย
ทีมชาติไทย ลงสนามในศึกฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก รอบสาม มาแล้ว 2 นัด เก็บได้ 3 คะแนน จากผลงาน ชนะ ศรีลังกา 1-0 และ แพ้ เติร์กเมนิสถาน 1-3
เดือนตุลาคมนี้ “ช้างศึก” ภายใต้การคุมทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น จะลงเล่นกับทีมชาติไต้หวัน 2 นัดติดต่อกัน
9 ต.ค.68 : ไทย พบ ไต้หวัน (ราชมังคลากีฬาสถาน)
14 ต.ค.68 : ไต้หวัน พบ ไทย
5 เหตุผลที่ทีมชาติไทยต้องชนะไต้หวัน
- ชัยชนะ 2 เกม = ใกล้รอบสุดท้ายอีกก้าว
หากเก็บชัยเหนือไต้หวันได้ทั้งเหย้า-เยือน จะเพิ่มโอกาสเข้ารอบสุดท้ายเอเชียน คัพ 2027 อย่างมีนัยสำคัญ และยังทำให้ “ไทย” สามารถกำหนดชะตาตัวเองได้ในสองเกมสุดท้ายกับศรีลังกา (เยือน) และเติร์กเมนิสถาน (เหย้า) โดยไม่ต้องไปลุ้นผลคู่อื่น
- โอกาสลงเล่นในรอบสุดท้าย “ของจริง”
รอบสุดท้ายเอเชียน คัพ มี 24 ทีมจาก 47 ชาติสมาชิกเอเอฟซี นั่นหมายความว่ากว่าครึ่งของเอเชียจะได้เข้าร่วม ซึ่งหากไทยผ่านเข้ารอบได้ จะได้พิสูจน์ศักยภาพกับทีมระดับทวีป และยกระดับทีมในสายตาเอเชีย
- สะสมประสบการณ์ต่อยอดถึง “บอลโลก 2030”
รอบสุดท้ายที่ซาอุดิอาระเบีย (7 ม.ค.–5 ก.พ.70) จะเป็นเวทีสำคัญให้นักเตะไทยเก็บประสบการณ์เกมระดับสูง ก่อนเดินหน้าสู่ศึกคัดฟุตบอลโลก 2030 โซนเอเชีย ซึ่งต้องใช้ทีมที่แข็งแกร่งและมีความต่อเนื่องในระยะยาว
- อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งมีผลโดยตรง
ไทยอยู่ในอันดับ 101 ของโลก ส่วนไต้หวันอยู่อันดับ 173 การชนะย่อมส่งผลบวกต่อคะแนนแรงกิ้งฟีฟ่า โดยเฉพาะในรายการอย่างเอเชียน คัพ ที่ให้แต้มสะสมสูง ขณะเดียวกัน หากพลาดท่าแพ้ อันดับอาจดิ่งลง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการ “จับสลากโถทีม” ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2030
- บทพิสูจน์ “อิชิอิ” กับอนาคตทีมชาติ
2 เกมนี้คือบททดสอบสำคัญของ มาซาทาดะ อิชิอิ ว่าจะพาช้างศึกตอบโจทย์ในสนามได้หรือไม่ เพราะผลงานในรอบคัดเลือกเอเชียน คัพ ครั้งนี้จะสะท้อนแนวทางสร้างทีมต่อยอดสู่เป้าหมายใหญ่ — ฟุตบอลโลก 2030
สองเกมกับไต้หวัน จึงไม่ใช่แค่ “ศึกชี้ชะตา” ของรอบคัดเลือกเท่านั้น แต่ยังเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ของเส้นทางทีมชาติไทยในอนาคตอีกด้วย