ช้างศึกหรือสิงโต: ใครคือเจ้าของบัลลังก์แห่งคิงส์คัพ?

แมตช์นี้ไม่ใช่เพียงแค่การแย่งชิงถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ แต่เป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรี และความท้าทายที่หลายคนมองว่า เราเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด 

เมื่อมองจากตัวเลขและสถิติแล้ว ความหนักใจก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งอันดับ FIFA Ranking ที่ห่างกันถึง 44 อันดับ (ไทยอันดับ 102, อิรักอันดับ 58) และฟอร์มการเล่นในรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา ก็ทำให้หลายคนอดเป็นห่วงไม่ได้

แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด ที่เราไม่เคยเอาชนะเจ้าของฉายา "สิงโตแห่งเมโสโปเตเมีย" ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว 

ชัยชนะครั้งสุดท้ายที่ “ช้างศึก” ทำได้ ต้องย้อนไปไกลถึงปี 2008 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมอุ่นเครื่อง ซึ่งถือเป็นเวลาที่ยาวนานจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็น "อาถรรพ์" เลยทีเดียว

ทว่าในทุกความกดดัน ย่อมมีแรงขับเคลื่อนซ่อนอยู่ และแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ มาจากคำพูดสั้นๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความหมายของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น ที่ตอบคำถามเรื่องสถิติอย่างตรงไปตรงมาว่า 

"สถิติที่ผ่านมา ผมไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ เพราะปัจจุบันคือปัจจุบัน!!"

คำพูดนี้ไม่ใช่แค่การปลุกใจนักเตะ แต่เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า ทีมชุดนี้จะไม่ยอมถูกพันธนาการด้วยเงาอดีต แต่จะมุ่งมั่นอยู่กับเกมตรงหน้าอย่างเต็มที่

นั่นทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ประสิทธิภาพในการ “จบสกอร์” ของนักเตะไทยในเกมนี้ ว่าจะต่างจากเกมกับฟิจิที่เรามีโอกาสยิงมากมายได้หรือไม่

การเจอกับทีมชาติอิรัก โอกาสทองอาจจะมาเพียงไม่กี่ครั้ง และถ้าหากยังคงยิงทิ้งยิงขว้างเหมือนที่ผ่านมา เกมนี้คงเป็นงานยากสำหรับไทยอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามคือ "พลังของผู้เล่นคนที่ 12" หรือก็คือเหล่าแฟนบอลนั่นเอง 

กระแสข่าวล่วงหน้ายืนยันว่า ตั๋วเข้าชมถูกขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่เนิ่นๆ แต่จากเกมรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา บรรยากาศในสนามยังดูเงียบเหงา และขาดความกระตือรือร้น อาจจะมีเพียงเสียงเชียร์ดังขึ้นเป็นพักๆ ในช่วงจังหวะที่เกมอันตรายเท่านั้น

แฟนบอลทุกคนคือผู้เล่นคนที่ 12 ที่แท้จริง เสียงเชียร์ที่ดังตลอด 90 นาที ไม่ว่าจะในสนามที่มีความจุ 13,000 คน หรือแม้แต่เสียงก้องจากหน้าจอทีวี จะเป็นแรงใจสำคัญที่ผลักดันให้นักเตะในสนามเกินขีดจำกัดของตัวเอง 

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของแฟนบอลทุกคนที่จะต้องร่วมกันสร้างบรรยากาศให้เหมือน “นรกบนดิน” สำหรับคู่แข่ง และเป็น “สวรรค์บนดิน” สำหรับนักเตะของเรา

อิรักคือทีมที่แข็งแกร่ง การเล่นกับพวกเขาจำเป็นต้องใช้สมาธิที่เข้มข้นตลอดทั้งเกม อย่าพลาดแม้แต่วินาทีเดียว 

เกมรับต้องมีวินัยสูงสุด และเมื่อมีโอกาสต้องจบสกอร์ให้เด็ดขาด นี่คือเกมที่วัดกันด้วยความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย

วันนี้คือวันสำคัญ ที่ทัพ “ช้างศึก” จะพิสูจน์ตัวเองว่า เหมาะสมกับบัลลังก์นี้หรือไม่ การเป็นแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน และที่สำคัญที่สุดคือการทำลาย อาถรรพ์ 17 ปี ที่ไม่เคยเอาชนะอิรักได้เลย 

ธงชาติไทยจะโบกสะบัด สัญลักษณ์ของความหวัง และศรัทธาของแฟนลูกหนังทั้งประเทศถูกแบกไว้บนบ่าของนักเตะทุกคน 

นี่คือช่วงเวลาที่ "ช้างศึก" ต้องแสดงแสนยานุภาพ ฟาดงวงฟาดงาอย่างเต็มกำลังเพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ และทำลายกำแพงแห่งอดีตให้สิ้นซาก

วันนี้คุณพร้อมหรือยัง ที่จะลุกขึ้นยืนแล้วส่งเสียงเชียร์ทีมชาติไทยของพวกเราไปด้วยกัน?

กอล์ฟ เบนเทเก้