แม้ผลสกอร์จะออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนบอลชาวไทยหลายๆ คน แต่ชัยชนะ 3-0 เหนือทีมชาติฟิจิ ในศึกฟุตบอลคิงส์คัพ 2025 รอบรองชนะเลิศ กลับทิ้งรสชาติขมปร่า ไว้ในใจของหลายคนเช่นกัน
เสียงบ่นระงมในโลกโซเชียลไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการฟุตบอลไทย แต่ครั้งนี้มันสะท้อนถึงความไม่พอใจในฟอร์มการเล่นที่ต่ำกว่ามาตรฐานของทีมชาติไทย
ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้สร้างความสุขให้กับแฟนบอลเท่าที่ควร ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่ได้เป็นชัยชนะที่สวยงาม หรือน่าประทับใจแต่อย่างใด
จากกระแสโลกออนไลน์พบว่า หลายคนรู้สึกว่ามันเป็นเพียงผลลัพธ์ที่มาจากการที่ทีมชาติไทย มีศักยภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ด้วยอันดับโลกที่ห่างถึง 48 ขั้น
การมีโอกาสยิงประตูแบบนับไม่ถ้วนแต่เปลี่ยนเป็นสกอร์ได้แค่ 3 ลูกนั้นเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอลชาวไทย
ชัยชนะของทีมชาติไทยเหนือฟิจิ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่แฟนบอลคาดหวังไว้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดียมีแต่คำว่า "ฟอร์มห่วย" และ "โอกาสเยอะแต่ทำไม่ได้"
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ชัยชนะครั้งนี้ไม่ได้สร้างความสุขให้กับแฟนบอลเท่าที่ควร เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการแค่ชัยชนะ แต่ต้องการเห็นการเล่นที่น่าประทับใจ และมีรูปแบบการเข้าทำที่หลากหลายและคมชัด
ปัญหาที่น่ากังวล คงไม่พ้น “จบสกอร์” เพราะการใช้โอกาสเปลือง เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการที่ “ช้างศึก” มีโอกาสทำประตูมากมาย แต่กลับเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เพียง 3 ลูกเท่านั้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเมื่อเทียบกับศักยภาพของทีม และคู่แข่งที่ชื่อชั้นห่างกันหลายช่วงตัว
ชัยชนะเหนือฟิจิ เป็นเพียงการวอร์มอัพก่อนศึกใหญ่ที่จะต้องเจอ ทีมชาติอิรัก ทีมอันดับที่ 58 ของโลก ซึ่งมีศักยภาพที่แข็งแกร่งกว่าฟิจิหลายเท่าตัว
และการต้องเจอกับอิรัก ที่มีผู้เล่นตัวสูงใหญ่ แข็งแกร่ง และมีทักษะในการเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมกว่ามาก อาจทำให้ทีมชาติไทยต้องเจอกับงานที่ยากลำบากอย่างยิ่ง
แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ นี่คือโอกาสที่ทีมชาติไทยจะได้พิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลเห็นว่า พวกเขาพร้อมแล้วสำหรับ บททดสอบ ที่แท้จริง
ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร ขอเพียงให้ "ช้างศึก" ได้แสดงให้เห็นถึง "หัวใจนักสู้" แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในสนาม ให้สมกับที่ได้เป็นตัวแทนของชาติ
"จงอย่าปล่อยให้คำวิจารณ์มาบั่นทอนกำลังใจ แต่จงเปลี่ยนมันให้เป็นพลังขับเคลื่อน"
วันนี้...เราอาจไม่พอใจในฟอร์มการเล่น แต่วันหน้า...เราพร้อมที่จะเชียร์และให้กำลังใจเสมอ เพราะไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร "ทีมชาติไทย" ก็คือความภาคภูมิใจของเราทุกคน!
อาทิตย์ที่ 7 กันยายนนี้ เวลา 20.00 น. ณ สนามกีฬากลีบบัว จังหวัดกาญจนบุรี นัดชิงชนะเลิศคิงส์คัพ 2025
นี่คือเวลาที่บทเรียนทั้งหมดจะถูกนำไปใช้...
นี่คือเวลาที่ความสงสัยทั้งหมดจะถูกลบเลือน...
นี่คือเวลาที่ "ช้างศึก" จะต้องก้าวออกมา..
ออกมาคว้าชัยชนะเพื่อความสุขของคนไทยทั้งประเทศ!
-กอล์ฟ เบนเทเก้-