5 ข้อหลังเกม ทีมชาติไทย ถล่ม ฟิจิ 3-0 ลิ่วชิงฯคิงส์คัพ แต่ยังมีจุดต้องปรับ

5 ข้อหลังเกม ทีมชาติไทย ถล่ม ฟิจิ 3-0 ลิ่วชิงฯคิงส์คัพ แต่ยังมีจุดต้องปรับ
ทีมชาติไทย เปิดสนามคิงส์คัพ 2025 ที่สนามกลีบบัว กาญจนบุรี อัด ฟิจิ 3-0 แต่เกมนี้สะท้อนทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน โดยเฉพาะเรื่องการใช้โอกาสและลูกกลางอากาศก่อนดวล อิรัก นัดชิง

[ 1 ] การจัดตัวมีเซอร์ไพรส์และการสลับตำแหน่งที่น่าตั้งคำถาม


การจัดทัพของ มาซาทาดะ อิชิอิ ในเกมนี้เรียกได้ว่าสร้างความประหลาดใจไม่น้อย ด้วยการส่ง ณัฐพงษ์ สายริยา ประเดิมเล่นให้ทีมชาติเป็นครั้งแรกในชีวิต 

รวมถึงการให้โอกาสกับ สันติภาพ จันทร์หง่อม, อภิสิทธิ์ โสรฎา และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ได้กลับมาสู่ทัพช้างศึกอีกครั้ง 

แต่ที่น่าฉงนกว่านั้นคือการจับ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่งโดยธรรมชาติเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ไปยืนในตำแหน่งปีกขวา ทั้งที่ตำแหน่งนี้มีตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าอย่าง เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, สุภโชค สารชาติ หรือแม้แต่ เบน เดวิส ที่เล่นตำแหน่งนี้ได้ดีอยู่แล้ว

เข้าใจว่ากุนซือชาวญี่ปุ่น น่าจะต้องการทดลองสิ่งใหม่ๆ เผื่อจะเป็นทางเลือกในแง่ของแท็กติก ซึ่งอาจจะได้ใช้ในอนาคตนั่นเอง

[ 2 ] ชัยชนะที่ไม่ได้วัดอะไรได้มากนัก


แม้ผลสกอร์จะขาดลอยถึง 3-0 แต่ก็ต้องยอมรับว่าฟิจิ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเอาเสียเลย พวกเขาเป็นรองทีมชาติไทย ในทุกๆ ด้าน แบบไม่มีข้อโต้แย้ง ไล่ตั้งแต่เรื่องของความฟิต, แท็กติก, ศักยภาพฝีเท้า และที่สำคัญคือสภาพจิตใจ 

การได้เล่นต่อหน้าแฟนฟุตบอลมหาศาลที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ซึ่งมีผู้เข้าชมมากถึง 12,545 คน ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยพานพบมาก่อน มันจึงทำให้ทัพ บูล่า บอยส์ ก่อความผิดพลาดบ่อยครั้ง 

ดังนั้นชัยชนะในครั้งนี้จึงยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าทีมชาติไทย มีพัฒนาการไปมากน้อยแค่ไหน

[ 3 ]  'พีรดนย์' กลบเสียงวิจารณ์ - 'เบน' เฉิดฉาย

ก่อนหน้านี้หนึ่งในนักเตะไทย ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมานั้นคือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ถูกมองว่าเป็น 'ลูกรัก' ของ อิชิอิ 

ทว่าในเกมชนะฟิจิ 3-0 เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่ายังคงเป็นกำลังสำคัญของทีม โดยตลอด 77 นาทีในสนาม มิดฟิลด์จาก การท่าเรือ เอฟซี ช่วยแบ่งเบาภาระในเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการปิดกั้นพื้นที่และตัดจังหวะของ โธมัส ดันน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทัพ บูล่า บอยส์ ได้อย่างอยู่หมัด 

ขณะเดียวกัน เบน เดวิส ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่น่าจับตามอง ด้วยผลงาน 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ และสามารถสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่งได้ตลอดเวลาที่อยู่ในสนาม อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าคู่แข่งยังเป็นเพียงฟิจิ จึงยังต้องรอดูการพิสูจน์ตัวเองในเกมที่ยากลำบากกว่านี้


[ 4 ] ปัญหาเรื่องการใช้โอกาสและฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวหลัก

แม้เกมรุกของทีมชาติไทย จะดูหลากหลายและมีโอกาสทำประตูมากมาย แต่ปัญหาส่วนหนึ่งก็เกิดจากการที่คู่ต่อสู้มีมาตรฐานที่ห่างชั้นกันมากเกินไป 

ที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาเรื่องการใช้โอกาสที่ยังคงเป็นจุดอ่อนของนักเตะหลายคน ทั้ง เอกนิษฐ์ ปัญญา และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่มีโอกาสยิงประตูไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้เลย 

รวมไปถึง ปรเมศย์ อาจวิไล ที่ดูเหมือนจะโดดเด่นด้วยผลงาน 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ แต่ภาพรวมยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน ทั้งจังหวะการเลี้ยงที่ติดๆ ขัดๆ และการหลุดเดี่ยวที่ควรจะใส่ชื่อบนสกอร์บอร์ดมากกว่านี้ ทว่ากลับยิงไม่เฉียบขาด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการขาดเกมอย่างเป็นทางการกับต้นสังกัดอย่าง จูบิโล่ อิวาตะ นั่นเอง

การ 'ใช้โอกาสเปลือง' ยังคงเป็นปัญหาของทัพช้างศึกที่ยังไร้วี่แววว่าจะแก้ไขได้ในเร็ววัน


[ 5 ]  ลูกกลางอากาศยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก

อีกสิ่งหนึ่งที่ทีมชาติไทย ต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วนคือเรื่องของการป้องกันลูกกลางอากาศ แม้จะเป็นคู่แข่งที่ห่างชั้นอย่างฟิจิ แต่พวกเขาก็ยังสามารถสร้างปัญหาและเกือบจะทำประตูได้จากจังหวะโอเพ่นเพลย์ รวมไปถึงลูกตั้งเตะ 

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะทัพช้า.ศึกไร้ เอเชียส ดอเลาะ, โจนาธาร เข็มดี และ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ จนสามารถสกัดกั้นได้ในระดับหนึ่ง แต่เมื่อมองให้ลึกถึงรายละเอียด - เซ็ตพีซ ยังคงเป็นจุดเปราะบางของขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยาแทบทุกชุด

นี่คือสิ่งที่ทีมชาติไทย ประสบมาอย่างต่อเนื่องและยังคงเป็นสิ่งที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นก่อนที่จะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีศักยภาพแข็งแกร่งกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบชิงชนะเลิศกับทีมชาติอิรัก ซึ่งมีผู้เล่นที่มีรูปร่างสูงใหญ่และแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport