ลุ้นกันมาหลายวัน ในที่สุด มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทย ก็ประกาศรายชื่อ 23 นักเตะชุดใหญ่ ที่จะลงทำศึก คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ระหว่างวันที่ 1-9 กันยายนนี้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี งานนี้ไม่ใช่แค่รายชื่อธรรมดา แต่เต็มไปด้วย ดราม่า, เซอร์ไพรส์ และเดิมพันครั้งใหญ่
ทันทีที่รายชื่อถูกปล่อยออกมา แฟนบอลหลายคนต้องขมวดคิ้ว มีประเด็นที่สร้างความกังขาไม่น้อย!!
โดยเฉพาะกรณีของ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มิดฟิลด์จากราชบุรี เอฟซี ที่ลงเล่นในลีกอย่างสม่ำเสมอ และไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่กลับไม่มีชื่อในโผ 23 คนสุดท้าย ทั้งที่หลายคนมองว่าเขาคือตัวเลือกที่น่าสนใจในแดนกลาง
เช่นเดียวกับผู้เล่นอย่าง ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา (2 นัดไทยลีกกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยิง 1 จ่าย 1), อนันต์ ยอดสังวาลย์ (2 นัดไทยลีกกับลำพูน วอริเออร์ ยิง 1 จ่าย 1)
หรือแม้กระทั่ง 2 แข้งเก๋าทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา จากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ ธีราทร บุญมาทัน ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้ทั้งคู่จะยังทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด จนหลายคนมองว่าเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติได้อยู่ แต่สุดท้าย อิชิอิ ก็เลือกที่จะไม่เรียกพวกเขาเข้ามา
แน่นอนครับ มันจึงเกิดคำถามใหญ่ดังขึ้นทันทีว่า "นี่คือการเลือกตามฟอร์ม หรือเลือกตามใจ?"
อิชิอิ ชี้แจงว่า หลายรายไม่สมบูรณ์เต็มร้อย ได้สอบถามต้นสังกัดมาแล้วก่อนตัดสินใจ ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าเขาเลือกนักเตะที่ฟิตที่สุดสำหรับทัวร์นาเมนต์สั้นๆ แบบนี้
แต่เสียงวิจารณ์ก็ยังดังต่อเนื่องว่า บางคนเป็น "ลูกรัก" หรือเปล่า? เพราะต่อให้ฟอร์มแผ่ว แต่ชื่อก็ยังติดอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม การเรียก ณัฐพงษ์ สายริยา กองหลังวัย 33 ปีจากชลบุรี เอฟซี ที่ติดทีมชาติครั้งแรกในชีวิต เป็นการตอกย้ำปรัชญาของ อิชิอิ ที่ให้ความสำคัญกับ ฟอร์มปัจจุบัน มากกว่าชื่อเสียงและอายุ ตลอดจนการคัมแบ็กของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์ไดนาโมของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่หายหน้าไปจากทีมชาติถึง 2 ปีเต็ม
การคุมทีมครั้งนี้ คือการเดิมพันครั้งสำคัญสำหรับ อิชิอิ และอาจเป็นบทพิสูจน์ชี้ชะตาอนาคต ของกุนซือจากอาทิตย์อุทัยรายนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีเสียงสะท้อนชัดเจนว่า หากไทยพลาดแชมป์ อาจเป็นการสิ้นสุดเส้นทางของเขากับทีมชาติ
อิชิอิ ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากทั้งแฟนบอล และสมาคมฯ หากทีมชาติไทยไม่สามารถป้องกันแชมป์คิงส์คัพได้สำเร็จ อนาคตของเขาในตำแหน่งกุนซือทีมชาติก็อาจจะสั่นคลอนทันที
ตรงกันข้าม หากเขาพาทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และเป็นใบเบิกทางสู่ภารกิจที่ใหญ่กว่า อย่างการพา "ช้างศึก" เข้ารอบสุดท้ายในศึกเอเชียนคัพ 2027 ให้ได้
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ผลงานในสนามเท่านั้น ไม่ว่าจะเลือกใครมาติดทีม จะมีเหตุผลอะไรมารองรับการตัดสินใจ
แต่สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นคือ "ชัยชนะ" และความสำเร็จของทีมชาติไทย และนั่นคือสิ่งที่ อิชิอิ จะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นในที่สุด!
ฝากผู้เล่นคนที่ 12 ทุกหมู่เหล่า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางครั้งสำคัญของทีมชาติไทย และมาดูกันว่าการตัดสินใจของโค้ชอิชิอิจะส่งผลอย่างไรกับฟอร์มการเล่นของทีมในเกมแรก วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน เวลา 20.00 น. ไทย ปะทะ ฟิจิ ที่สนามกลีบบัว กาญจนบุรี
"Japan Way" จะได้ไปต่อ หรือต้อง "ซาโยนาระ" ใน September ... แฟนบอลชาวไทยคิดว่าอย่างไร?
-กอล์ฟเบนเทเก้-