ทีมชาติไทย U23 ยังมีการบ้าน! วิเคราะห์ความพ่ายแพ้อินโดนีเซีย และคำถามใหญ่ของฟุตบอลไทย

ทีมชาติไทย U23 ยังมีการบ้าน! วิเคราะห์ความพ่ายแพ้อินโดนีเซีย และคำถามใหญ่ของฟุตบอลไทย
เจาะลึกเบื้องหลังทีมชาติไทย U23 พ่ายเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ชวดชิงอาเซียน คัพ 2025 เสียงแฟนบอลเริ่มชัด “เมื่อไหร่ไทยจะก้าวข้ามอาเซียน?” พร้อมวิเคราะห์โครงสร้าง แท็กติก และอนาคตบอลไทยในเวทีเอเชีย

แม้จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ แต่การตกรอบด้วยน้ำมือของเจ้าภาพ อินโดนีเซีย ในศึก อาเซียน คัพ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก็ยังคงทิ้งคำถามไว้มากมายสำหรับทีมชาติไทย ทั้งในแง่แท็กติก, รูปแบบการเล่นและตัวบุคคลที่ถูกวางบทบาทในสนาม

เข้าใจได้ว่าชุดผู้เล่นที่นำทัพมาในครั้งนี้ไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุด นักเตะหลายรายถูกดันไปเล่นในทีมชาติชุดใหญ่ อีกไม่น้อยก็อยู่ในช่วงปรี-ซีซั่นกับต้นสังกัด ทำให้การเรียกเก็บตัวและวางโครงสร้างทีมเต็มไปด้วยข้อจำกัด 

ทั้งในแง่ของเวลาและทรัพยากรบุคคล

แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่แฟนฟุตบอลคาดหวังก็ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน หากคือ 'คุณภาพในการเล่น' ซึ่งหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ก็จะพบว่า สัญญาณของปัญหามีให้เห็นตั้งแต่เกมแรก

ทัพช้างศึกเปิดสนามด้วยชัยชนะ 4-0 เหนือติมอร์-เลสเต ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกและอาจดูน่าพอใจในตัวเลข ทว่ารายละเอียดในเกมนั้นบอกเล่าเรื่องราวอีกแบบ เพราะมีโอกาสลุ้นมากมาย แต่ใช้เปลืองเกินไปในจังหวะสุดท้าย 

ไม่ต่างจากนัดต่อมากับเมียนมาร์ ที่เสมอ 0-0 ซึ่งไทย ครองเกมได้ดีกว่า แต่กลับทำได้เพียงเสมอ เพราะความไม่เฉียบคมในการจบสกอร์

มาถึงรอบรองชนะเลิศที่เจอกับเจ้าถิ่นอย่างอินโดนีเซีย ที่ได้เล่นในบ้านพร้อมเสียงเชียร์กระหึ่ม 

เกมนี้กลายเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญว่าไทย ยังมีหลายจุดที่ต้องเร่งปรับ โดยเฉพาะการวางแท็กติกที่เน้นตั้งรับแทบจะตลอด 90 นาที ทั้งที่ศักยภาพผู้เล่นบางรายดูจะเหนือกว่าเจ้าถิ่นด้วยซ้ำ

หากมองภาพรวมต้องยอมรับว่า ช่วงต่อเวลาพิเศษคือจังหวะที่ทัพช้างศึกเล่นได้ดีที่สุด เพราะอินโดนีเซีย เริ่มหมดแรง และเปิดพื้นที่ให้สวนกลับได้มากขึ้น 

ทว่าสุดท้ายก็ไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้เป็นสกอร์ได้ ก่อนจะมาพลาดในช่วงดวลจุดโทษ กระทั่งจอดป้ายแค่รอบ 4 ทีมสุดท้าย

หนึ่งในนักเตะที่ถูกจับตามองมากที่สุดอย่าง เสกสรรค์ ราตรี กลับไม่สามารถแบกทีมภาระปลอกแขนกัปตันทีมได้อย่างที่หวัง ทั้งที่เคยผ่านเกมระดับทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วถึง 10 นัด และแม้จะมี 1 แอสซิสต์ในเกมกับอินโดนีเซีย แต่ฟอร์มโดยรวมกลับดูฝืน ดูเล่นยากเกินไป และขาดสมาธิในหลายจังหวะ จนกลายเป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่คู่แข่งจับทางได้ง่าย

อีกหนึ่งรายที่แฟนๆ อาจจะชื่นชมคือ ยศกร บูรพา กองหน้าผู้ทุ่มเทเกินร้อย วิ่งไม่มีหมด ไล่บี้ไม่หยุด แต่ถ้าจะมองในอีกมุมหนึ่ง - หน้าที่ของศูนย์หน้าคืออะไร? 

การขยันอย่างเดียวไม่อาจทดแทนความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้ายได้ และนั่นคือสิ่งที่ทีมขาดมาตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์

ขณะที่ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล เองก็เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ดังนั้นเวลาจัดทีมและเตรียมความพร้อมจึงค่อนข้างจำกัด แถมไม่ได้ใช้งานผู้เล่นที่ดีที่สุดทั้งหมด เพราะหลายคนอยู่ในแผนของทีมชุดใหญ่หรือไม่ได้รับการปล่อยตัวจากสโมสร จึงไม่อาจตำหนิเขาได้เต็มปาก

แต่กระนั้น สิ่งที่หลายฝ่ายผิดหวังคือแนวทางการเล่นที่เลือกใช้ในเกมกับอินโดนีเซีย  ซึ่งเน้นรับลึกเกินไป ทั้งๆ ที่รูปแบบเกมรุกของเจ้าถิ่นมีจุดให้โจมตีได้อยู่ไม่น้อย หากกล้าเปิดหน้าแลกมากกว่านี้ อาจมีโอกาสพลิกเกมมากขึ้น

สิ่งที่น่ากังวลต่อไปคือการเตรียมทีมสำหรับ รอบคัดเลือก เอเชียน คัพ 2026 ในเดือนกันยายน ซึ่งไทยต้องเผชิญหน้ากับ มองโกเลีย, เลบานอน และมาเลเซีย คู่แข่งที่ยากขึ้นเป็นลำดับ 

ช่วงเวลาดังกล่าวยังคาบเกี่ยวกับ คิงส์ คัพ ของชุดใหญ่ ซึ่งไม่แน่ว่า 'โค้ชวัง' จะสามารถเรียกนักเตะที่ต้องการได้ครบหรือไม่

อีกด้านหนึ่งก็ต้องไม่ลืมว่า มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่ ทำให้ผู้เล่นรุ่นนี้หลายรายอาจถูกดันขึ้นเร็ว แปลว่าความสม่ำเสมอของยู-23 ก็จะสั่นคลอนมากยิ่งขึ้นหากไม่จัดระบบให้ดี

สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่า 'กำลังใจ' เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าให้มากเกินไป ก็อาจทำให้คนรับเคยตัว และไม่เห็นความสำคัญของการพัฒนา

ทีมชาติไทย มีศักยภาพที่เหนือกว่าทุกชาติภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ต้องอย่าลืมว่าประเทศอื่นๆ ก็พัฒนขึ้นเรื่อยๆ

- อินโดนีเซีย มีแข้งลูกครึ่งล้นทีม โดยเฉพาะชุดใหญ่ที่กำลังลุ้นไป เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย

- เวียดนาม มาตรฐานของพวกเขาในระดับนานาชาติสูงอยู่แล้ว

- มาเลเซีย อาจจะตกหล่นไปบ้าง แต่ฟุตบอลภายในกำลังรุดหน้า อีกไม่กี่ปี พวกเขาจะก้าวขึ้นมาทาบรัศมีแน่นอน

- ฟิลิปปินส์ เองก็อุดมไปด้วยนักเตะสองสัญชาติ หากพีกพร้อมๆ กัน ก็จะกลายเป็นอีกทีมที่อันตรายเหลือร้าย

หากไทย ยังย่ำอยู่กับที่ ความฝัน 'ฟุตบอลไทย ไปฟุตบอลโลก' ก็คงจะลอยอยู่ในอากาศไปอีกนาน

เราต้องเริ่มต้นจากการมองปัญหาให้ชัด และกล้าที่จะแก้จริง ไม่ใช่แค่ยอมรับและเดินต่อโดยไม่เรียนรู้อะไรเลยจากความพ่ายแพ้

เพราะต่อให้ฝันไกลแค่ไหน สุดท้าย 'สนามแข่งขัน' ก็จะเป็นผู้ให้คำตอบเสมอ



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport