ปฏิวัติ คำไหม นายด่านทีมชาติไทย เผยเส้นทางลูกหนังจากพัทยาสู่ทีมชาติ พร้อมเปิดใจนาทีเผชิญหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด สโมสรที่รัก และไวรัลภาพคู่ “อูการ์เต้” ที่ชาวเน็ตแซวเหมือนโอนาน่า
ทุกความฝันมีจุดเริ่มต้น และสำหรับ ‘ไมค์’ ปฏิวัติ คำไหม นายด่านทีมชาติไทยวัย 29 ปี เส้นทางสายฟุตบอลของเขาเริ่มต้นจากการเดินตามพ่อไปดูบอลในสนาม ก่อนจะกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่วันนี้ได้เผชิญหน้ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรที่เขารัก
ภาพของเขาที่ช่วยทีม รวมดาราอาเซียน เอาชนะ แมนยู 1-0 ที่สนามบูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย กลายเป็นไวรัลในหมู่แฟนบอล โดยเฉพาะช็อตที่เจ้าตัวถ่ายรูปคู่กับ มานูเอล อูการ์เต้ กองกลางของปีศาจแดง ที่แฟนๆ พากันแซวว่า หน้าเหมือนพี่น้องกับปฏิวัติ แบบแยกกันไม่ออก
แต่เบื้องหลังรอยยิ้มและความขำขันในโลกโซเชียล คือเรื่องราวการเดินทางที่น่าทึ่ง...
“พ่อคือคนที่จุดไฟให้ผมรักฟุตบอล” ปฏิวัติเล่าด้วยน้ำเสียงซื่อตรง
วัยเด็กของเขาผูกพันกับลูกบอลมาตลอด โดยเฉพาะ ฟุตบอลโลก 2002 ที่เขาได้ชมผ่านแผ่น VCD ที่พ่อซื้อมาเก็บไว้ โดยเฉพาะเกมที่ เยอรมนี ถล่ม ซาอุฯ 7-0 ที่เขาย้อนดูซ้ำหลายรอบ จนกลายเป็นความทรงจำแรกที่ชัดเจนที่สุด
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุ 9 ขวบ และได้รู้จัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านชายที่ชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้
จากวันนั้น เขากลายเป็น แฟนพันธุ์แท้เร้ด อาร์มี่ ติดตามทุกก้าวของนักเตะตำนานอย่าง พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, แกรี่ เนวิลล์ และคนอื่นๆ
แม้จะเริ่มต้นจากการเล่นเป็น เซนเตอร์ฮาล์ฟ ในระดับโรงเรียน แต่โชคชะตาพาให้เขาลองคัดตัวในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ อัสสัมชัญธนบุรี เพราะตำแหน่งนี้คนสมัครน้อย และเขา “ตัวสูงกว่าใคร” จึงคว้าโอกาสเปลี่ยนบทบาทชีวิตตั้งแต่นั้น
ในฐานะผู้รักษาประตู ปฏิวัติ เข้าใจดีว่าการยืนเฝ้าเสาในระดับสูงสุดนั้นมีความกดดันมากแค่ไหน เขาจึง ไม่วิจารณ์ อ็องเดร โอนาน่า และกลับให้มุมมองอย่างเข้าอกเข้าใจ
“ผมไม่อาจวิจารณ์อะไรเขาได้เลย เพราะผมรู้ว่าผู้รักษาประตูต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าเขาเรียกความมั่นใจกลับมาได้ เขาจะโชว์ของได้แน่นอน”
โอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมรวมดาราอาเซียน ดวลกับทีมรักอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด คือฝันที่กลายเป็นจริงของเขา
“ผมไม่ลังเลเลยเมื่อรู้ว่าจะได้เล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มันคือความฝันของเด็กคนหนึ่งที่ตามเชียร์พวกเขามาตลอดชีวิต”
แม้จะเสียดายที่ไม่ได้เจอกับโอนาน่า แต่เขาก็ได้ถ่ายภาพกับนักเตะดังหลายคน ทั้ง อูการ์เต้, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เมสัน เมาท์, คาเซมิโร, อาหมัด ดิยาโล่ และ อัลตาย บายินดีร์ ซึ่งกลายเป็น โมเมนต์ที่เขาจะไม่มีวันลืม
ทุกวันนี้ ปฏิวัติ คือหนึ่งในกำลังหลักของ ทัพช้างศึก และยอมรับว่าการลงสนามในนามทีมชาติไทยเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“ผมรู้ว่าทุกคนคาดหวัง แต่ผมก็ภูมิใจมากที่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้ เป้าหมายใหญ่ของผมคือ พาทีมชาติไทยไปเล่นเอเชียนคัพ 2027 ให้ได้”
จากเด็กที่ตามพ่อไปดูบอล
จากแฟนแมนยูตัวจิ๋ว
จากเซนเตอร์ฮาล์ฟโนเนม
วันนี้ ปฏิวัติ คำไหม กลายเป็น ด่านสุดท้ายของชาติ ผู้ได้เผชิญหน้ากับทีมรักในสนามจริง และพิสูจน์ให้เห็นว่า
“ความฝัน + ความพยายาม = ไปได้ทุกที่”
Once a Red, Always a Red