5 เหตุผลที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียก มาร์โก บัลลินี่ ติดทีมชาติไทย ลุยฟีฟ่า เดย์

มาซาทาดะ อิชิอิ ประกาศรายชื่อขุนพลทีมชาติไทย ชุด ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน 2025 ปรากฏว่ามีเซอร์ไพรส์เมื่อกุนซือชาวญี่ปุ่น เรียกตัว มาร์โก บัลลินี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟเจ้าของส่วนสูง 2 เมตร มาเป็นสมาชิกทัพช้างศึกชุดใหญ่

ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอวิเคราะห์เหตุผลที่อดีตเฮดโค้ช คาชิมะ แอนท์เลอร์ส ตัดสินใจให้โอกาสกับปราการหลังเชื้อสายอิตาเลี่ยนคนนี้!!

[ 1 ] ผลงานสม่ำเสมอและพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน

มาร์โก บัลลินี่ เติบและโตที่เมืองโบโลนญ่า ประเทศอิตาลี กระทั่งได้เข้าไปอยู่อะคาเดมี่ของ เชเซน่า ตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ก่อนจะได้สัญญาอาชีพฉบับแรกเมื่อปี 2017 ซึ่งตอนนั้นเขาเข้าสู่วัย 19 ปี 

อย่างไรก็ตาม เด็กหนุ่มผู้มีคุณแม่เป็นชาวอุดรธานี ตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในเมืองไทย โดยมีปลายทางที่ ชัยนาท ฮอร์นบิลล์ เอฟซี เป็นสถานีแรก เมื่อซีซั่น 2018 จนมีชื่อติดทัพช้างศึกชุดยู-21 และยู-23 ในเวลาต่อมา

เส้นทางลูกหนังของ บัลลินี่ ค่อยๆ เดินไปข้างหน้า เขาย้ายสู่สโมสรที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุด ไล่ตั้งแต่ เมืองทอง ยูไนเต็ด ตามด้วย เชียงราย ยูไนเต็ด และปัจจุบันกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 

ในวัย 26 ปี เขาพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง กระทั่งกลายเป็นตัวหลักให้กับ เดอะ แรบบิต ไม่ว่าจะด้วยระบบกองหลัง 3 คนหรือคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ โดยมี คริสติญง โกมิส ที่มักจะเล่นเข้าขากันอยู่เสมอ

แม้ฤดูกาล 2024-25 บีจี ปทุม จะถูกถลุงตาข่ายมากมาย ทว่าผลงานส่วนตัวของ บัลลินี่ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อีกทั้งการเล่นให้ทีมใหญ่อย่างต่อเนื่อง มันจึงทำให้อยู่ในสายตาของ มาซาทาดะ อิชิอิ นั่นเอง

[ 2 ] เข้าใจแท็กติกระดับสากลและสื่อสารได้หลายภาษา

ด้วยความที่ มาร์โก บัลลินี่ ผ่านระบบเยาวชนจากลีกยุโรป แถมยังอยู่ในอิตาลี ประเทศซึ่งมีความเข้มข้นในเรื่องของแท็กติกสูงมากๆ มันจึงทำให้พื้นฐานการจัดระเบียบในแนวรับที่ดี และยังมีการยืนตำแหน่งที่เยี่ยมยอด

มาซาทาดะ อิชิอิ เป็นกุนซือที่ช่ำชองในเรื่องการตั้งโซน ดังนั้นการเรียกเซนเตอร์ฮาล์ฟ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เข้ามา เขาจึงคาดหวังให้ตอบโจทย์ในเรื่องของกลยุทธ์ที่มีความซับซ้อนอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ บัลลินี่ ยังพูดได้ทั้งอิตาเลียน และอังกฤษ มันจึงทำให้เขาสามารถสื่อสารกับบรรดานักเตะลูกครึ่งคนอื่นๆ ในทีมชาติได้เช่นกัน แม้ชุด ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน จะมีเพียง เบนจามิน เดวิส กับ เอเลียส ดอเลาะ เท่านั้น แต่การที่ให้กองหลัง เดอะ แรบบิต เข้ามามีส่วนร่วมในแคมป์ น่าจะช่วยให้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ก่อนจะออกดอก-ออกผลในอนาคต

[ 3 ] ทางเลือกที่แตกต่าง

มาร์โก บัลลินี่ มาพร้อมส่วนสูง 2 เมตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่ว่าจะฝ่ายรุกหรือฝั่งรับต่างก็ต้องหวั่นเกรง เนื่องจากมีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศที่กระโดดเพียงครั้งเดียวก็สามารถสร้างความแตกต่างได้ทันที

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ทีมชาติไทย จะได้ประโยชน์จากจุดนี้หลากหลายมิติ เพราะเกมรับก็สามารถป้องกันลูกกลางอากาศได้ ส่วนเกมรุก เวลาได้เซ็ตพีซหรือเตะมุม เขาก็จะเป็นเป้าหมายที่กองหลังฝั่งตรงข้ามต้องคอยพะวงนั่นเอง

2 เกม ที่ทัพช้างศึกจะลงเล่นในช่วง ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน นั้นจะเจอกับผู้เล่นที่มีส่วนสูง 1.85 เมตร หลายราย ไม่ว่าจะเป็น ซานเดช จิงกัน (1.88), ซูภาชีช โบส (1.86), ชิงเลนสะนะ ซิงห์ (1.86) และ เจคซัน ซิงห์ ธนาออจาม (1.87) ของฝั่งอินเดีย

ขณะที่เติร์กเมนิสถาน นั้นมี กึชมูราต อันนากูลือเยฟ (1.88), อับดี บาชิโมว (1.94), อาตา เกลดีเยฟ (1.90), มูราต อันนาเยฟ (1.87) และ ยาซกิลิช กูร์บานอฟ (1.85) 

นักเตะเหล่านี้นี่แหละมักจะสร้างปัญหาให้คู่ต่อสู้ในลูกกลางอากาศอยู่เสมอ ซึ่งทีมชาติไทย ก็มีจุดอ่อนในเรื่องการรับมือกับบรรดาผู้เล่นรูปร่างสูงมาโดยตลอด อีกทั้งการไม่มี โจนาธาร เข็มดี จึงยิ่งน่าเป็นห่วงไม่น้อย ดังนั้นการที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียก บัลลินี่ มาติดทีม จึงจะช่วยส่งเสริมให้ข้อด้อยของช้างศึกถูกกลบไปด้วยเช่นกัน

[ 4 ] กระหายกับการพิสูจน์ตนเอง

นับตั้งแต่ย้ายจากอิตาลี มาค้าแข้งในเมืองไทย - มาร์โก บัลลินี่ มักจะถูกคำสบประมาทอยู่เสมอ แม้จะมีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศ แต่ผลงานโดยรวมกับทั้ง ชัยนาท ฮอร์นบิลล์ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด นั้นยังถือว่าไม่โดดเด่นเท่าที่ควร

กระทั่งการย้ายมาเล่นให้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่เขาค่อยๆ ฉายแสงทีละนิด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งในแผงหลังของทีมได้อย่างสง่าผ่าเผย

อย่างไรก็ตาม บัลลินี่ ยังคงมีความกระหายที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองเก่งกาจเพียงใด อีกทั้งเจ้าตัวก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องการติดทีมชาติไทย ชุดใหญ่ให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง ซึ่งการถูก มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกตัวสู่ทัพช้างศึก นั้นช่วยเติมเต็มแรงปราถนาของเขาได้สำเร็จ

การได้โอกาสหนนี้ ถือเป็นความท้าทายของเขาโดยแท้จริง แต่พี่แกจะคว้าโอกาสที่ได้รับได้มากน้อยเพียงใด อยู่ที่ตนเองล้วนๆ แล้ว

[ 5 ] การออกบอลจากแดนหลังที่แม่นยำ

นอกจากจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศ - มาร์โก บัลลินี่ ยังมีอีกหนึ่งสกิลที่ถือว่าหาได้ยากเมื่อเทียบกับเซนเตอร์ฮาล์ฟไทย คนอื่นๆ นั่นคือการออกบอลจากแดนหลังนั่นเอง

แนวรับเชื้อสายอิตาลี อาจจะดูสูงโปร่งและเก้งก้าง แต่เมื่อมองให้ลึกถึงรายละเอียด จะเห็นได้ชัดว่าเขามีทักษะฟุตบอลที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

สัมผัสบอลของ บัลลินี่ ถือว่าไฉไลไม่น้อย นั่นจึงทำให้เขาสามารถบิวต์-อัปเกมจากแดนตนได้ แถมด้วยการจ่ายบอลอันแม่นยำ โดยเฉพาะการวางยาวที่เจ้าตัวมักจะเปิดให้เพื่อนในแนวลึกอยู่เสมอ 

ด้วยเหตุนี้เอง การออกบอลจากแดนหลัง จึงเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ที่ มาซาทาดะ อิชิอิ คาดหวังจากตัวลูกทีมคนนี้เหมือนกัน ซึ่งถ้าผลลัพธ์ออกมาดี มันน่าจะทำให้หมอนี่ติดทีมชาติไทย ไปยาวๆ อย่างแน่นอน

ภาพจาก : BG Pathum United