ทีมชาติไทย พบ เอสโตเนีย ไม่เจอฝันร้ายซ้ำแน่นอน

เอสโตเนียไม่ชนะใครมา 7 เกมติดต่อกันแล้ว..

ในจำนวน 7 เกมที่ว่าเป็นความพ่ายแพ้ถึง 6 ครั้ง ผลงานที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการไปเยือน อาเซอร์ไบจาน ที่กรุงบากูแล้วได้ผลเสมอ 1-1 กลับมา

เกมล่าสุดเมื่อ 4 วันก่อนหน้า เอสโตเนียก็ถูกอาเซอร์ไบจานที่เคยไปเสมอมานั่นแหละบุกมาอัดพังถึงกรุงทาลลินน์แบบเกมศูนย์

ความพ่ายแพ้เกมนั้นทำให้เอสโตเนียของกุนซือ โธมัส ฮาเบอร์ลี่ อดีตกองหน้าทีมยังบอยส์และทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ยังคงจมบ๊วยของกลุ่มเอฟในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือก ลงเตะไป 6 เกมเพิ่งจะมีแค่คะแนนเดียว เรื่องเข้ารอบหมดสิทธิ์ไปนานแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น เอสโตเนีย ยังทำประตูไม่ได้เลยในการเล่นต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง

สามเกมที่ผ่านมาในสนาม เอ. เลอ ก๊อก อารีน่า หรือ ลีลเลคูล่า สเตเดี้ยม แห่งกรุงทาลลินน์ สังเวียนเหย้าของสโมสร ฟลอร่า กับ เลวาเดีย สองทีมใหญ่ของประเทศ ลงเอยด้วยการถูกเบลเยียมยกพวกมายำ 0-3 โดนสวีเดนบุกมาถล่ม 0-5 และเจออาเซอร์ไบจานอัดอีก 0-2

ห้าทุ่มคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย เอสโตเนียจะลงเตะกับทีมชาติไทย ที่สนามเดียวกันนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาหมายมั่นปั้นมือมากแค่ไหนที่จะคว้าชัยชนะให้ได้ แฟนบอลจะเข้ามาเต็มความจุ 14,336 คนของสนามไหมไม่ใช่ประเด็น แต่นี่คือเกมเรียกศรัทธาฟุตบอลของพวกเขาคืนกลับมาเหมือนกัน

กับทีมเยือนอย่างทีมชาติไทย.. ผมคิดว่าขวัญและกำลังใจของนักเตะชุดนี้ยังคงดีในระดับเต็มร้อย

แน่นอนความพ่ายแพ้ 0-8 ต่อจอร์เจียคือฝันร้ายที่จะฝังใจไปอีกนาน แต่มันก็ผ่านไปแล้ว อีกทั้งกระแสโจมตีจากแฟนบอลไม่ได้พุ่งไปที่พวกเขาเลย ตรงกันข้ามทุกๆ คนกลับส่งแรงใจแรงเชียร์ข้ามทวีปไปให้อย่างเต็มที่

ขุนพลช้างศึกชุดสมบุกสมบันและเป็นที่พูดถึงมากที่สุดชุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ชุดนี้ไม่มีอะไรต้องเสียเลย

มีแต่ได้กับได้.. ได้ประสบการณ์ ได้ขัดเกลาฟุตบอลของตัวเอง ได้กระจ่างแจ้งกับความเป็นจริงของโลกกว้าง

ทั้งยังได้ความกลมเกลียวในแบบที่คงบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ไม่หมด ฟีฟ่าเดย์รอบนี้ มาโน่ โพลกิ้ง และนักเตะทั้ง 22 คนของเขาคล้ายมีสายใยแห่งความผูกพันมัดไว้ เพราะทุกคนล้วนเดินเข้าสู่สมรภูมิรบอันเหี้ยมโหดด้วยกัน เป็นเหมือนเพื่อนทหารที่ผ่านศึกสงครามมาด้วยกันจึงย่อมมีความแน่นแฟ้นต่อกันและกันเป็นพิเศษ

เหมือนเพื่อนตายที่มีวีรกรรมร่วมกัน ไม่ใช่วีรกรรมธรรมดาๆ เสียด้วยเพราะมีเรื่องราวดราม่าหนักหน่วงมากมายเกิดขึ้นเต็มไปหมดจนแทบจะเป็นความวุ่นวายที่สุดแบบติดอันดับต้นๆ เท่าที่ทีมชาติไทยเคยผ่านมา

นั่นคือข้อดีที่ได้สำหรับทีมชุดนี้ นักเตะได้ประสบการณ์ ได้ความกลมเกลียวแบบที่ว่าผ่านเรื่องเลวร้ายมาด้วยกัน แต่แน่นอนว่าสำหรับเป้าหมายใหญ่อย่างฟุตบอลโลกมันไม่ใช่เรื่องดีเลยของทีมชาติไทย เพราะใน 2 เกมสำคัญที่เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนลุยกับ จีน และ สิงคโปร์ ในเกมคัดบอลโลกเดือนหน้านั้นมีโอกาสที่จะเป็นกรณี "คนไปไม่ได้เล่น คนเล่นไม่ได้ไป" สูงมาก

เชื่อว่าถึง 2 เกมใหญ่เดือนหน้าที่มี 6 คะแนนเป็นเดิมพัน นักเตะตัวหลักๆ ของทีมชาติชุดใหญ่ที่ไม่ได้ไปร่วมหัวจมท้ายในยุโรปรอบนี้คงจะกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง นักเตะกลุ่มนี้จะเป็นตัวจริงเกินครึ่งทีม นั่นหมายความว่าเราทิ้งการเตรียมการขั้นสุดท้ายที่จะให้พวกเขาเหล่านั้นได้เล่นด้วยกัน ได้ทำความเข้าใจกัน จากการได้ฟาดแข้งกับคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าเรา ได้สัมผัสกับบรรยากาศที่กดดันหนักๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีไปอย่างน่าเสียดาย

แน่นอนครับนักฟุตบอลทีมชาติไทยไม่ว่าจะเป็นชุดไหน เราก็คงต้องเชียร์เต็มที่ ปัญหาที่เกิดขึ้นในฟีฟ่าเดย์รอบนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของนักเตะตัวหลักที่ไม่ได้ไปเสียหน่อย ถึงอย่างไรเกมคัดบอลโลกเดือนหน้ามาถึงก็ต้องใส่ให้สุดตัวทั้งนักเตะที่อยู่ในสนามและกองเชียร์ที่อยู่นอกสนาม

ส่วนเกมกับเอสโตเนียคืนนี้ที่เจ้าบ้านคิดหวังจะเอาชนะเราเพื่อกระตุกความเชื่อมั่นกลับมา ผมยังเชื่อลึกๆ ว่าเราจะสู้ได้สนุกกว่าเกมที่เจอกับจอร์เจีย

เกมไม่น่าจะหนักเท่ากับที่รับมือจอร์เจีย ไม่น่าจะเจอแรงกดดันจากการโหมบุกด้วยความเร็วที่เรารับมือไม่ไหวโดยสิ้นเชิงอย่างเกมพังพินาศที่กรุงทบิลิซี่

จอร์เจียเวลานี้เป็นทีมดาวรุ่งของยุโรป มีนักฟุตบอลดีๆ ขึ้นมาหลายคนและส่วนใหญ่เล่นในลีกระดับท็อปเทนของทวีป กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นเมื่อเทียบกับเอสโตเนียที่ทรงๆ ทรุดๆ มานานแล้ว

ความเร็ว ความแม่น ความเข้าใจเกม ความสามารถเฉพาะตัว อยู่ในระดับที่ดีกว่าเอสโตเนียที่นักเตะส่วนใหญ่ยังเล่นอยู่ในประเทศและกระจายไปเล่นในลีกระดับ 2 หรือ 3 ของทวีป

เราไม่น่าจะเจอกับสปีดเกมที่เร็วและแม่นแบบจอร์เจีย แต่จะต้องรับมือกับความแข็งแรงกำยำของนักเตะเจ้าถิ่น ในสภาพอากาศที่หนาวเหน็บอุณหภูมิเลขตัวเดียวของประเทศที่อยู่สูงขึ้นไปถึงยุโรปเหนือติดทะเลบอลติกและอ่าวฟินแลนด์ เราไม่คุ้นเคยกับมันเลย แข้งขาพานจะแข็งฝืดกว่าปกติก้าวไม่ค่อยออก

เราเป็นรองแน่ แต่ผมยังมองว่าสิ่งที่นักเตะทีมชาติไทยต้องเจอในคืนนี้จะไม่โหดร้ายเท่าเกมฝันร้ายที่จอร์เจีย ทีมงานของโพลกิ้งเองก็มองเห็นจุดอ่อนของทีมและเน้นย้ำปรับแก้ให้ทำผลงานในสนามให้ดีขึ้น

ห้าทุ่มตรงคืนนี้ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี เรามาเป็นกำลังใจให้นักเตะไทยชุดที่กลายเป็นชุดประวัติศาสตร์อีกชุดหนึ่งกันครับ

ขอให้ทุกคนโชคดี มีเกมที่ดี เก็บเกี่ยวประสบการณ์และคุณภาพฟุตบอลจาก 2 เกมนี้กลับมาให้เต็มที่ นำไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลในอนาคตต่อไป

เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

นักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์กับ จอร์เจีย และ เอสโตเนีย เดือนตุลาคม ปี 2566

ผู้รักษาประตู

  • กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี)
  • ศุเมธี โคกโพธิ์ (การท่าเรือ เอฟซี)
  • จิรวัฒน์ วังทะพันธ์ (ขอนแก่น ยูไนเต็ด)

กองหลัง

  • ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (ชลบุรี เอฟซี)
  • กฤษดา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี)
  • เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด)
  • จักพัน ไพรสุวรรณ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
  • อดิศร พรหมรักษ์ (ราชบุรี เอฟซี)
  • ทริสตอง โด (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
  • เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด (อุทัยธานี เอฟซี)

กองกลาง

  • วีระเทพ ป้อมพันธ์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
  • พิชา อุทรา (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
  • ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
  • ชานุกูล ก๋ารินทร์ (การท่าเรือ เอฟซี)
  • บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)
  • ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว (ชลบุรี เอฟซี)
  • เบนจามิน เดวิส (ชลบุรี เอฟซี)
  • พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
  • จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล (พีที ประจวบ เอฟซี)
  • อาทิตย์ เบิร์ก (นครปฐม ยูไนเต็ด)

กองหน้า

  • ยศกร บูรพา (ชลบุรี เอฟซี)
  • ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (การท่าเรือ เอฟซี)
  • ตังกุย



ที่มาของภาพ : -
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport