ปิยะพงษ์ ผิวอ่อนทาบ "ลีซอ" นั่งโฆษกส.บอลฯ พร้อมชิงเก้าอี้ประมุขลูกหนังไทย

"เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ทาบทาม "ลีซอ"ธีรเทพ วิโนทัย มาเป็นทีมงานโฆษก ส.บอลฯ หากได้รับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯสมัยหน้า ประกาศชัด ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดต้องมี เงินบำรุงทีมต้องมี ผู้บริหารยุคอดีตเขาทำไว้ดีกว่าปัจจุบัน ยืนยันฟุตบอลไทยคือบ้านของตัวเอง เข้ามาไม่มาพังบ้านตัวเองแน่นอน ทุบโต๊ะต้องพาฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้เหมือนเดิม ถ้าไม่ได้ก็ลาออก ยันไม่เข้าไปล้างบางชุดเก่า มีหน้าที่แก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น และความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง ตรวจสอบได้ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในงาน ตลาดนัดคนข่าวกีฬา ที่ MBK CENTER เมื่อวันที่ 14 ก.ค.66 ถึงการยืนยันที่จะลงชิงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สมัยหน้าที่คาดว่าจะมีขึ้นหลังจากเดือน ก.พ.66 ว่า "ทีมงานที่สามารถเปิดเผยได้ตอนนี้คือ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ที่ได้มีการทาบมาเป็นโฆษกของ ส.บอลฯ ถ้าผมได้มีโอกาสได้เป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลสมัยหน้า"

 "ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ทั้งๆที่อดีตที่ผ่านมาเขาทำได้ดีกว่าในปัจจุบัน คือถ้าผมมีโอกาสได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก เรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมันต้องมีอยู่แล้ว และเงินบำรุงทีมก็ต้องมีอยู่แล้ว ผมรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนถ้าเลือกผม เพราะนี่เป็นบ้านของผมเอง ผมมาพังบ้านตัวเองคงเป็นไปไม่ได้ ต้องทำบ้านหลังนี้ให้แข็งแรงและมั่นคงและยิงยาวเพื่อให้คนต่อไปสานฝันต่อ นี่บ้านของผม ผมเกิดที่นี่ก็ต้องตายที่นี่ และให้คนอื่นมาสานต่อด้วย"

 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยังบอกอีกว่า "หลักของฟุตบอลผมรู้ทุกอย่างครับ แต่ผมจำเป็นต้องพูด ผมไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ต้องทำควบคู่ขนานไป ผมจะพาทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกให้ได้ ในส่วนของการบริหารเพื่อความโปร่งใสมันต้องมีอยู่แล้ว ความซื่อสัตย์มันเป็นหน้าที่ของการบริหาร แต่การจะพาไทยไปบอลโลกมันเป็นสิ่งเพ้อฝัน แต่ความเพ้อฝันแบบนี้คนที่เป็นนักฟุตบอลอย่างผมผมรู้ แต่ต้องลอง ทำไม่ได้ก็ลาออก 4 ปีจบ"

 ผู้สื่อข่าวถาม ปิยะพงษ์ ว่า ถ้าได้มาเป็นนายกฯ จะล้างบางของเก่าทั้งหมดหรือไม่ "เดอะตุ๊ก" ตอบว่า "ผมไม่มีหน้าที่ไปล้างบางใคร ไม่มีหน้าที่ไปขุดคุ้ยใคร ผมเป็นคนฟุตบอล มีหน้าที่ไปแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น และความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง ตรวจสอบได้ ต้องมาเป็นอันดับหนึ่งครับ"



ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport