อนิจจาบอลไทย! สิ่งที่อยากบอกหลัง ทีมชาติไทย ดวลเป้าแพ้ มาเลเซีย

เห็นทีมชาติไทยพลาดท่าพ่ายแพ้ มาเลย์เซีย จากการดวลเป้าจนอดเข้าชิง คิงส์ คัพ แล้ว แฟนบอลชาวพระโขนงอย่างผมก็อยากบอกว่า...

1.ตอนประกบคู่เจอทีมเสือเหลือง

ผมมีความรู้สึกเหมือนเราเชิญเขามาเชือดยังไงชอบกล

ประมาณว่าเชิญเขามา เพื่อเป็น 'ทางผ่าน' นั่นแหละ แม้สถิติจะบอกว่าเราไม่ชนะเขามา 5 นัดติดต่อกันแล้วก็ตาม

ฝ่าย มาเลย์ฯ ก็ขนผู้เล่นมาเยือนเมืองล้านนาแบบไม่ได้เน้นอะไรมากมาย

เหตุไฉน เขาถึงแสดงความเป็นนักบู๊สู้ไม่ถอยออกมามากกว่าพลางเข้าบอลแบบ 'ถึงลูกถึงเมีย' ทุกจังหวะ ขณะที่เจ้าถิ่นเล่นแบบคิดว่าตัวเองเหนือกว่า 

แต่ไม่เหนือกว่า

2.พลพรรคช้างศึกเล่นไม่ดีเลยนะครับ 

ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าคุณภาพการรับส่งบอลจะต่ำขนาดนั้น

มิหนำยังไม่มีความเข้าใจกันอีกต่างหาก

แม้อาการจะกระเตื้องขึ้นในครึ่งหลัง แต่ปัญหาเดิมๆ ที่อยู่คู่ทีมชาติไทยมานานกว่า 30 ปี คือไม่มีความเด็ดขาดและเฉียบคม 

วัดจากโอกาสเหน่งๆ เราควรจะกระทุ้งได้อย่างน้อย 2 ดอก

ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือ 'โกงความตาย' ได้สำเร็จ (แต่น่าเสียดายที่โกงได้ไม่นาน)

ขณะที่ผู้มาเยือนเล่นฟุตบอลเป็นระบบมากกว่า และมีวินัยมากกว่า แผนการเล่นก็ชัดเจน คือมีบีบสูง มีเพรสส์ใส่ บทจะตั้งรับแบบรถบัสก็ช่วยกันถอยไปตั้งรับทั้งทีม

3.สิ่งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมแปลกใจมิใช่น้อย

คือช่วงท้ายเกมที่ทีมชาติไทยคุมเกมพลางบุกกระหน่ำแล้วยังเจาะตาข่ายไม่ได้ 

พูดง่ายๆ ว่ากำลังจะเด๊ดห่าอยู่รอมร่อ 

ทำไม...ผู้เป็นกุนซืออย่างคุณ มาโนช โพธิ์กลิ้ง ถึงไม่เปลี่ยนตัวแบบไม่มีอะไรจะเสีย เช่นเอาแบ็คขวา หรือมิดฟิลด์ตัวรับออก แล้วส่งกองหน้าลงแบบวัดดวงไปเลย

ประเด็นนี้จะแข็งแรงมากกว่าเดิม หากเราตีเสมอในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บไม่สำเร็จ แล้วแพ้ในเวลา

4.เรื่องดวลจุดโทษ

เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องดวงอย่างเดียวแล้วนะครับ กรุณาอย่าเข้าใจผิด

สิ่งที่สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือผู้เล่นเสือเหลืองยิงจุดโทษได้เยือกเย็นดีนักแล

ถามว่าทำไมถึงยิงได้แน่นิ่งขนาดนั้น ???

คำตอบคือพวกเขามีความมั่นใจ ซึ่งไอ้ความมั่นใจอะไรเนี่ย มันเกิดจากการเตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างช่ำชอง

มาเลย์ฯ สังหารจุดโทษได้คมมาก และไม่พลาดเลยทั้ง 5 คน

5.นับตั้งแต่ถูกญี่ปุ่นถล่มในรอบคัดเลือกบอลโลก เมื่อ 5 ปีก่อนจนนำมาซึ่งความอับอายของใครบางคน

มันนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอันแสดงถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของท่านผู้นำ

...ว่าแล้วขอสารภาพตามตรงว่าในสายตาของผม สมาคมฟุตบอลชุดนี้มีความเป็นมืออาชีพมากกว่าชุดที่แล้วนะครับ 

พวกเขาแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล

ระบบบริหารจัดการก็มีตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วยทีมงานมืออาชีพ (นำเข้าจากต่างประเทศ) ด้วยต้องการยกระดับลูกหนังไทยให้สูงขึ้นพลางสถาปนาตัวเองเป็นทีมชาติชั้นนำในเอเชีย

อนิจจา...เวลาผ่านไปตั้งหลายปีดีดักแล้ว

เอาแค่ระดับภูมิภาคยังก้าวข้ามไม่ได้เลยครับ

ทั้งๆ ที่ตอนสมาคมฯ ชุดปัจจุบันโค่นสมาคมฯ ชุดเก่าลงได้ ผมก็นึกว่าต่อไป เราคงเอาชนะคู่แข่งในละแวกเดียวกันได้แบบไม่ระบมหัวแม่ตีน

ที่ไหนได้นะครับคุณ

ก่อนหน้านี้ถูก เวียตนาม ปาดหน้าไปแล้ว ตอนนี้ดันมาถูก มาเลย์เซีย แซงขึ้นไปอีก...เฮ่อออ

บอ.บู๋



ที่มาของภาพ : Siamsport
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport