จับตา 5 ข้อน่าสนใจก่อน ทีมชาติไทย ปะทะ มาเลเซีย

จับตา 5 ข้อน่าสนใจก่อน ทีมชาติไทย ปะทะ มาเลเซีย
ทีมชาติไทย กำลังจะลงห้ำหั่นกับมาเลเซีย ในศึก คิงส์คัพ 2022 ช่วงค่ำวันที่ 22 ก.ย.65 ไทยรัฐทีวี และ AIS PLAY ถ่ายทอดสดให้ชมเวลา 20.30 น.

และนี่คือ 5 ข้อ ที่น่าสนใจของทัพช้างศึกที่ SIAMSPORT อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!! 

1. อาถรรพ์ไร้ชัย 8 ปี? 

ก่อนการเผชิญหน้ากัน ทีมชาติไทย มีสถิติไม่ค่อยจะสู้ดีนักยามเผชิญหน้ากับมาเลเซีย โดยเฉพาะในถ้วย คิงส์ คัพ

10 เกม ที่พบกัน ปรากฏว่าช้างศึกชนะไปเพียง 4 นัด ขณะที่เสือเหลืองเอาชัยไปได้ 6 เกม

เท่านั้นไม่พอ เมื่อนับถึงปัจจุบัน ก็ปาไป 8 ปี แล้ว ที่ไทย ยังเอาชัยเหนือมาเลเซีย ไม่ได้เลย

หนล่าสุดที่เราสามารถเอาชนะคู่แข่งรายนี้ได้ คือรายการ อาเซียน คัพ นัดชิงชนะเลิศ เลกแรก เมื่อปี 2014 โดยครั้งนั้นช้างศึกเปิดบ้านเชือดไป 2-0 ในวันที่ 17 ธันวาคม ก่อนที่จะบุกไปแพ้ในอีก 3 วันต่อมา 2-3

นับจากนั้นเป็นต้นมา ไทย กับ มาเลเซีย เจอกัน 4 เกม โดยเป็นฝั่งเสือเหลืองที่เอาชัยไปได้ 2 นัด และเสมออีก 2 แมตช์

สถิติของช้างศึกเป็นรองแบบสุดกู่แบบนี้ ดังนั้น คิงส์ คัพ 2022 อาถรรพ์นั้นจะถูกทำลายหรือจะยืดออกไป อีกประเดี๋ยว คงจะได้รู้กัน

2. ศุภชัย - ความหวังใหม่ของช้างศึก?

ผลงานของ ศุภชัย ใจเด็ด ในระดับสโมสรถือว่ารักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างต่อเนื่องจากฤดูกาล 2021-22 ถึงปัจจุบัน ซึ่งนั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าเขากำลังจะก้าวข้ามไปเป็นผู้เล่นที่สามารถพึ่งพาได้

เด็กหนุ่มจากจังหวัดปัตตานี ได้รับโอกาสในทีมชาติตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 20 เท่านั้น ซึ่งยังอยู่ในฐานะ "ดาวรุ่ง" 

ณ ขณะ ในวัย 23 ปี ศุภชัย เติบใหญ่อย่างแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาเริ่มแสดงให้เห็นถึงความแก่กล้ากับศาสตร์วิชาลูกหนังที่ช่ำชอง เขารู้จักผ่อน-เบาในจังหวะฟุตบอลอย่างสมดุล 

ด้วยความที่ ธีรศิลป์ แดงดา ศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของประเทศอยู่ในช่วงปลายอาชีพ ขณะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่ถูกมองว่าจะก้าวมาเป็นตัวแทนก็ยังมีฟอร์มการเล่นไม่สม่ำเสมอ

มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ศุภชัย จะถูกยกให้เป็น "ความหวังใหม่" ของทีมชาติในอนาคต

ดังนั้น คิงส์ คัพ 2022 หนนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ว่าดาวยิงจาก บุรีรัมย์ พร้อมที่จะก้าวมาแทนรุ่นพี่แล้วหรือยัง

3. ครั้งแรกของ ชาญณรงค์, ฉัตรมงคล และ ธีรศักดิ์?

ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย คือ 3 รายชื่อที่ไม่เคยลงสนามให้กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่

ทว่าด้วยฟอร์มปัจจุบันกับต้นสังกัดที่กำลังไปได้สวย จึงทำให้ มาโน่ โพลกิ้ง ตัดสินใจเรียกพวกเขาเข้ามาอยู่ในทีมชุด คิงส์ คัพ 

ในรายของ ชาญณรงค์ นั้นไม่พลิกโผนัก เพราะว่าเป็นเบอร์ท็อปของรุ่นอยู่แล้ว ยิ่งฟอร์มปัจจุบันกับ ชลบุรี ที่จัดจ้านเหลือร้าย เซ้นส์ฟุตบอลของเจ้าหนุ่มเท้าซ้ายคนนี้ไม่ธรรมดา บวกกับการจ่ายที่คมกริบ มันยิ่งทำให้บอลที่ออกจากเขาอันตรายในทุกจังหวะ

หากได้เล่นกับบรรดาแนวรุกที่ทันกันอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ หรือ ศุภณัฐ เหมือนตา ด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้แดนบนของทัพช้างศึกมีหลากหลายมิติมากขึ้นกว่าเดิม

ส่วน ฉัตรมงคล เพื่อนร่วมทีม ชลบุรี อาจจะน่าแปลกใจอยู่นิดๆ เพราะตำแหน่งแบ็กซ้ายยังมีชื่อของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และ ศศลักษณ์ ไหประโคน ซึ่งเป็นขาประจำ จองอยู่ก่อน

ดังนั้นการที่ฟูลแบ็กฉลามชลติดเข้ามา มันจึงถือเป็นเซอร์ไพรส์เบาๆ แต่ก็ไม่ถึงกับรุนแรงนัก เพราะเมื่อมองถึงผลงานกับต้นสังกัดที่ดีวัน-ดีคืนขึ้นเรื่อยๆ เกมรับวินัยเยี่ยม เกมรุกเติมสุดเส้นตลอด บางที คิงส์ คัพ 2022 อาจจะทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวเลยด้วยซ้ำ

ทว่าที่พลิกโผอย่างเหลือเชื่อคือชื่อของ ธีรศักดิ์ หัวหอกของ การท่าเรือ ที่แม้แต่เจ้าตัวก็ยังอึ้งไม่น้อยกับการติดทีมชาติไทย ชุดนี้

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าฟอร์มของเขากับทีมสิงห์เจ้าท่าจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ ถึงขนาดสอดแทรกเป็นตัวจริงให้กับต้นสังกัดอย่างสม่ำเสมอเลยทีเดียว

สอดคล้องกับคำพูดของ โพลกิ้ง ที่หวังจะเห็นนักเตะดาวรุ่งของไทย ที่เรียกติดทีมมาได้แข้งเกิดกับทัวร์นาเมนต์นี้ มันจึงบ่งชี้ได้ชัดเจนว่าทั้ง 3 คนนี้มีโอกาสที่จะได้สัมผัสเกมในสนามแน่ๆ

4. กัมพล หรือ กิตติพงษ์?

จริงๆ แล้วในเมืองไทย ณ ปัจจุบันมีผู้รักษาประตูที่เก่งๆ หลายคน ไล่ตั้งแต่ ฉัตรชัย บุตรพรม มือหนึ่งของทีม ตามด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทั้ง 3 คน นี้คือ "ขาประจำ" ของทัพช้างศึกชุดใหญ่

บังเอิญว่ารายชื่อทั้งหมด ดันอยู่ในช่วงพักรักษาอาการบาดเจ็บ เป็นเหตุให้ กิตติพงศ์ ภูแถวเชือก และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ซึ่งเคยลงสนามในนามทีมชาติ คนละ 1 เกม ถูกเรียกมาแย่งเบอร์หนึ่งใน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 48

นายทวาร 2 คนนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป

กิตติพงศ์ อาจจะไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่หวือหวา หรือมีช็อตเซฟเข้าตา ทว่าสิ่งที่เขาดูเหนือกว่าคนอื่นๆ คือเรื่องการยืนตำแหน่งที่มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอ

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาโดดเด่นในเรื่องนี้ หากแต่มันเกิดจากการฝึกซ้อมอย่างหนักและการอ่านเกมอยู่ตลอดเวลา มันจึงทำให้จอมหนึบชาวกาฬสินธุ์ สามารถสร้างความอุ่นใจให้กับแนวรับได้ทุกครั้งที่ตนเองเป็นปราการด่านสุดท้าย

ขณะที่ กัมพล มีเรื่องของ "หัวใจ" ที่ใหญ่เกินตัว เขาอาจจะไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่รูปร่างสูงนัก เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในตำแหน่งเดียวกัน แต่มันถูกทดแทนด้วยจังหวะป้องกันและความกล้าที่จะออกมาบวกกับแนวรุกฝั่งตรงข้ามแบบไม่เกรงกลัว

ที่สำคัญ การที่ ราชบุรี เสียไปเพียง 1 ประตู ในฤดูกาล 2022-23 นั่นก็มาจากการที่มือกาวชาวภูเก็ต ช่วยเซฟยากๆ ไว้หลายหน รวมไปถึงการปฏิเสธลูกจุดโทษของ อ็อกน์เยน มูด์รินสกี้ ศูนย์หน้าเซอร์เบีย ของ ลำพูน วอร์ริเออร์ส อีกด้วย

เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว ทั้งคู่ต่างก็พอฟัดพอเหวี่ยง ขึ้นอยู่ที่ มาโน่ โพลกิ้ง แล้วล่ะ ว่าจะเลือกใครลงสนาม

5. ร่างทองของ สุภโชค?

สุภโชค สารชาติ ย้ายไปอยู่กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าเขาได้ไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากวงการฟุตบอลญี่ปุ่น ที่มาตรฐานสูงกว่าไทย อยู่พอสมควร

แม้ว่าจำนวนนาทีที่แนวรุกชาวศรีสะเกษ ได้ลงเล่นจะมีไม่มากนัก แต่สิ่งที่ปรากฏในสนามคือผลงานที่เอกอุกับการทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ ที่ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวกับขวบปีแรกใน เจลีก

ทิวาพล สังขพันธ์ คนคู่กายของ สุภโชค เคยโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลของตนเองว่าอดทนรออีกนิด เวลานี้นักเตะคนนี้กำลังปรับตัวเข้ากับระบบที่ญี่ปุ่น ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกไม่นานเกินรอ แฟนๆ จะได้ยลกับ "ร่างทอง" แน่นอน

การย้ายไปเล่นในลีกที่มีการแข่งขันสูง ย่อมทำให้ผู้เล่นคนนั้นเติบโตและพัฒนาขึ้นสู่อีกระดับ

ตัวอย่างชัดเจนกับ ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หรือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ต่างก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพอกลับมาช่วยทีมชาติแล้วดูดีมีราศีขึ้นหลายเท่าตัว

สุภโชค ก็กำลังจะแสดงให้เห็นว่าเขา "เก่งขึ้น" จากการไปอัปเลเวลที่ญี่ปุ่น แต่จะเด็ดดวงเพียงใด คำตอบทั้งหมดรอให้คุณตัดสินในสนามแข่งขันเท่านั้น 


ที่มาของภาพ : Siamsport / Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport