5 ข้อสังเกต "ช้างศึก" ทีมชาติไทยชุด คิงส์ คัพ 2022

ทีมชาติไทย ประกาศ 23 รายชื่อผู้เล่นชุด คิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 ออกมาแล้ว และนี่คือ 5 ข้อ ที่น่าสนใจของทัพช้างศึกที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!

[ 1 ] ชนาธิป กับ สุภโชค กับการกลับมารับใช้ชาติ?

เข้าใจว่านี่คือเกมที่อยู่ในปฏิทินของ ฟีฟ่า ที่มาพร้อมกับคะแนนสะสม ซึ่งมีผลในแรงกิ้งของโลก

เจลีก แมตช์เดย์ที่ 30 จะแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ ก่อนจะเบรกตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ และจะกลับมาอีกทีในวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม

เท่ากับว่าจะมีราวๆ 12 วัน เท่านั้นสำหรับนักเตะที่ติดทีมชาติ

คิงส์ คัพ 2022 แข่งขันระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธุ์ และ สุภโชค สารชาติ จะต้องบินกลับมาก่อนหน้านั้น

แต่อย่างที่เห็นกันอยู่ว่าสถานการณ์ของทั้งคู่เป็นเช่นไรกับต้นสังกัดใน เจลีก

ในราย สุภโชค แม้จะทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ แถมเมื่อเทียบกับจำนวนนาทีในสนาม ถือว่าเป็นผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพมากๆ 

แต่อย่าลืมว่าสัญญาของแนวรุกชาวศรีสะเกษ กับ ซัปโปโร นั้นมีเพียง 6  เดือน เท่านั้น โอกาสที่เขาจะได้รับการขยายสัญญายังถือว่า 50-50 เปอร์เซ็นต์ 

ทั้งสองคนยังไม่ได้เป็นตัวหลักให้กับสโมสร ดังนั้นการให้พวกเขาอยู่ที่ญี่ปุ่น เพื่อโฟกัสกับการทำผลงานในช่วงท้ายฤดูกาล 2022 น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า 

อีกทั้งการบินไป-กลับ ระหว่างไทย กับญี่ปุ่น เรื่องความเหนื่อยล้าน่ะมีแน่ 

การที่ สุภโชค ต้องบินกลับมาไทย 'อาจจะ' ทำให้เขาต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับสภาพอากาศระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ส่วน ชนาธิป คงไม่มีปัญหาเรื่องนี้มากนัก เพราะเขามีประสบการณ์กับเรื่องนี้พอสมควร

ทว่ามองในด้านดี บางที คิงส์ คัพ อาจจะเป็นรายการที่ทั้งสองคนได้โชว์ผลงาน เพื่อเรียกความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้งก็เป็นได้ 

เพราะถ้าทำผลงานได้โดดเด่น มันอาจจะกระตุ้น ชนาธิป และ สุภโชค เป็นแรงบวกยกกำลังสอง

นอกจากนั้น การกลับบ้านรอบนี้ ยังมีกำลังใจจากชาวไทย ทั้งประเทศ ที่คอยสนับสนุนให้พวกเขาไปได้ไกลที่สุดบนเวที เจลีก อยู่แล้ว

เหมือนเป็นการกลับมาชาร์จพลังให้ตัวเอง แล้วค่อยกลับไปต่อสู้อีกครั้งนั่นเอง

[ 2 ] แบงค็อก ติดโผมาเพียงคนเดียว?

เป็นเรื่องน่าแปลกมากๆ กับการที่มีผู้เล่นจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด จ่าฝูงของ ไทยลีก ติดทัพช้างศึกชุดนี้เพียงคนเดียว คือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทั้งๆ ที่คนอื่นๆ ก็อยู่ในมาตรฐานการเล่นที่ดีและเป็นขาประจำของทีมชาติไทย อยู่แล้ว

ชื่อที่ตกหล่นไปคือ ทริสต็อง โด และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ที่ลงสนามให้บียูครบทั้ง 5 เกมแรก เช่นเดียวกับ ปกเกล้า อนันต์ ที่ระยะหลังอาจจะหลุดไปนั่งสำรอง แต่เขาก็ยังมีคลาสที่สามารถพลิกเกมได้

ขณะเดียวกัน ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร ซึ่งโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในแผงมิดฟิลด์ กลับไม่ถูกเหลียวแล

ส่วน สุพรรณ ทองสงค์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งมีส่วนกับทีม 4 เกม และทำไปแล้ว 1 ประตู ก็ยังไม่สามารถเบียดเข้ามามีชื่อในทีมชาติไทย ได้เช่นกัน

การที่มีเพียง ฐิติพันธ์ ผู้เล่นจากจ่าฝูงของลีกสูงสุด ซึ่งผลงานดี เล่นมา 5 นัด ยิงไป 11 ประตู และยังไม่เสียสักลูก แต่กลับมีนักเตะที่ติดทีมชาติไทย ชุด คิงส์ คัพ เพียงคนเดียว จึงเป็นเรื่องน่าฉงนใจเป็นอย่างยิ่ง 

[ 3 ] ความหวังยุคใหม่ โดยไร้ ธีรศิลป์?

ด้วยวัย 34 ปี เป็นที่เข้าใจได้ว่า ธีรศิลป์ แดงดา อยู่ในห้วงเวลาใกล้ปลดระวาง และเจ้าตัวเองก็พร้อมจะเปิดทางให้รุ่นน้องก้าวขึ้นมาทดแทนในฐานะ 'ความหวัง' สูงสุดในการทำประตู

ระยะหลัง หากสังเกตกัน จะเห็นได้ว่าอดีตหัวหอก อัลเมเรีย มักจะถอนตัวจากทัพช้างศึก เมื่อรู้ว่าร่างกายของตนเองไม่เอื้ออำนวย

เช่นเดียวกับล่าสุดในทัวร์นาเมนต์ คิงส์ คัพ ที่เขา 'น่าจะ' ไม่มีชื่อในทีมชุุดนี้ เนื่องจากมองว่าตนเองอาจจะไม่สามารถช่วยได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นจึงเป็นเหตุที่มาว่าเหตุใดจึงไร้ ธีรศิลป์ ในรายชื่อ 23 คน ทั้งๆ ที่เพิ่งยิงประตูสุดสวยไปหมาดๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมว่า 4 แมตช์ ในฤดูกาลนี้ กองหน้าหมายเลข 10 ลงเป็นตัวจริงแค่ 2 เกม แถมยังถูกเปลี่ยนออกทั้ง 2 นัดด้วยเช่นกัน ดังนั้นเรื่องร่างกาย จึงน่าจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาไม่สามารถเล่นได้เต็มเหนี่ยวนั่นเอง

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง มันคือการเปิดโอกาสให้กับนักเตะรุ่นใหม่ที่กำลังผลงานดีอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ได้โอกาสเฉิดฉาย

ณ ตอนนี้ - ศุภชัย ถือว่าภาษีดีสุดกับการซัดไป 5 ประตูในลีก ทว่า ศุภณัฏฐ์ กับ ธีรศักดิ์ ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะกำลังทำผลงานให้กับต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยเฉพาะ ธีรศักดิ์ ที่น่าสนใจตรงที่การก้าวกระโดดของเขา เนื่องจากเมื่อฤดูกาล 2020-21 ยังโลดแล่นใน ไทยลีก 3 อยู่เลย แต่หลังจากโชว์ฟอร์มเด็ดกับทีมชาติชุดยู-23 ในศึก อาเซียน คัพ 2022 ได้ดี เลยส่งผลต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบันกับการเป็นตัวจริงให้ การท่าเรือ เอฟซี อย่างสม่ำเสมอ

ทว่าน่าเสียดายตรงที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ไม่ถูกเรียกให้ติดทีมชาติไทย ชุดนี้ หลังยิงให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปแล้ว 3 ประตู ไม่เช่นนั้น แดนบนของทัพช้างศึก คงจะแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกันสนุกเลยเชียว

[ 4 ] การกลับมาของ จักรพันธ์?

จักรพันธ์ แก้วพรม ที่หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเขาคงหมดไฟในการโลดแล่นบนยุทธจักรลูกหนังเสียแล้ว

กลับกัน ผลงานปัจจุบันของกองกลางชาวบุรีรัมย์ ยังคงไฉไลไปกับการทะยานรั้งรองจ่าฝูงของตาราง ไทยลีก ของ ราชบุรี เอฟซี ที่มีเขาเป็นหัวใจสำคัญ

จ่ายบอลแม่นยำทั้งใกล้-ไกล, คุมจังหวะในแผงมิดฟิลด์ได้อยู่หมัด, มีความเป็นผู้นำในสนาม อีกทั้งยังยิงไปแล้วใน ไทยลีก 1 ประตู ด้วยฟอร์มแบบนี้ คงยากยิ่งที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จะปฏิเสธเขาได้ลงคอ

หนล่าสุดที่ จักรพันธ์ ลงรับใช้ชาติ ต้องย้อนกลับไปในทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่ประเทศสหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ ในเกมที่ไทย ปราชัยต่อมาเลเซีย 0-1 ก่อนจะตกรอบไปด้วยอันดับ 'รองบ๊วย' ของกลุ่ม

จากวันนั้น (15 มิถุนายน 2021) ถึงวันนี้ นับรวมแล้วก็ปีกว่าๆ ที่มิดฟิลด์วัย 34 ไม่ได้อยู่ในโผช้างศึกชุดใหญ่

ทว่าการกลับมาของ จักรพันธ์ หนนี้ มันคลาสสิกตรงที่ดันบังเอิญต้องมาเผชิญหน้ากับมาเลเซีย คู่แข่งในนัดแรกของ คิงส์ คัพ อีกครั้ง 

ก็ได้แต่หวังว่าผลการแข่งขันในวันที่ 22 กันยายน จะไม่ลงเอยเหมือนครั้งนั้นที่ยูเออี ก็พอ

[ 5 ] ผู้รักษาประตู 2 คน เท่านั้น?

ด้วยความที่เวลานี้ ฉัตรชัย บุตรพรม ซึ่งเป็นมือหนึ่ง ก็ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกาย แถมมือรอง ที่ไม่ได้ด้อยกว่ากัน อย่าง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ก็ดันมาบาดเจ็บระหว่างเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-1 อีกต่างหาก

เท่านั้นไม่พอ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จอมหนึบที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติโชกโชนก็ยังอยู่ในห้วงเวลาของการเรียกความฟิตอีกราย

ตำแหน่ง 'เบอร์ 1' ของทีมชาติไทย จึงเว้นว่าง เพราะเหตุนี้ 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้รักษาประตูเก่งๆ หลายคนในประเทศ ทว่าแต่ละรายนั้นฝีมือใกล้เคียงกันมาก

แต่ ณ วินาทีนี้ คนที่โดดเด่นเกิดใคร ต้องยกให้ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล มือกาวชาวภูเก็ต ของ ราชบุรี เอฟซี ที่ผลงานดีเอามากๆ ติดทีมยอดเยี่ยม ไทยลีก 2 สัปดาห์ แถมเซฟจุดโทษไปแล้ว 1 หน และยังมาพร้อมสถิติป้องกันประตูหลายต่อหลายครั้งอีกด้วย

ส่วนอีกรายที่ถูกยกให้ฟอร์มแจ๋วไม่แพ้กันคือ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก นายทวารที่กราฟชีวิตสุดพลิกผัน แต่ปัจจุบันกลายเป็นว่ามีลุ้นเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทย เสียแล้ว

2 คนนี้ ส่งใครลงเฝ้าเสาก็ได้ เพราะผลงานกับต้นสังกัดถือว่าเจ๋งจริงๆ แต่ต้องดูอีกทีว่าพอเจอเกมในระดับนานาชาติ พวกเขาจะรับมือกับความกดดันได้ดีเพียงใด เพราะจุดนี้สำคัญมากๆ

ทว่าสิ่งที่น่าแปลกใจคือการที่มีเพียง กัมพล กับ กิตติพงษ์ เท่านั้นที่ติดทัพในตำแหน่งนี้ แม้จะเล่นแค่ 2 นัด แต่ก็ถือว่าเสี่ยงไม่น้อย หากว่าใครคนใดคนหนึ่งเกิดได้รับบาดเจ็บขึ้นมา มันอาจจะทำให้สิ่งที่คาดหวังไว้พลิกผันก็เป็นได้


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport