27 ปีที่รอคอย! นักสู้วารินชำราบ ปะทะทีมหมายเลขหนึ่งของประเทศ?

27 ปีที่รอคอย! นักสู้วารินชำราบ ปะทะทีมหมายเลขหนึ่งของประเทศ?
พวกเขาคือใคร? นั่นคือคำถามที่หลายคนอาจจะถามเมื่อเห็นชื่อ "วารินชำราบ เอฟซี" ปรากฏอยู่บนตารางการแข่งขันฟุตบอลถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทยอย่าง "ช้าง เอฟเอ คัพ 2025/26" รอบ 64 ทีมสุดท้าย

วารินชำราบ เอฟซี กำลังเจอกับยักษ์ใหญ่ผู้ไร้เทียมทานอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า และเจ้าของบัลลังก์แห่งวงการฟุตบอลไทย ในช่วงเย็นวันนี้ เวลา 18.30 น.

นี่ไม่ใช่แค่เกมฟุตบอล... แต่มันคือเรื่องราวของความฝัน ความมุ่งมั่น และหัวใจที่ไม่เคยยอมแพ้ของทีมเล็กๆ ที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปในดินแดนของ “ราชสีห์” ผู้ยิ่งใหญ่

วารินชำราบ เอฟซี ทีมจากดินแดนริมแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี พวกเขาไม่ได้เลือกสิงโตหรือเสือเป็นสัญลักษณ์ แต่กลับเป็น "ไฮยีน่า" พร้อมฉายาที่ชวนขนลุกว่า "ไฮยีน่าจอมโหด"

นี่คือปรัชญาของสโมสรที่ "ประธานกอล์ฟ" ภัทร์วศิน วาจาดี และผู้ร่วมก่อตั้งทุกคนได้มอบให้ "ไฮยีน่าไม่เคยกลัวราชสีห์ มันฉลาด แพรวพราว และกล้าสู้จนวินาทีสุดท้าย" พวกเขายอมรับว่าไม่ได้แข็งแกร่งเท่า แต่มันคือความกล้าหาญที่มาพร้อมกับความใจสู้

และที่สำคัญที่สุด พวกเขาเรียกความร่วมมือร่วมใจนี้ว่า "ทีมเวิร์ค" ไม่ใช่ "หมาหมู่" ชัยชนะไม่ได้มาจากใครคนเดียว แต่มาจากหัวใจของทุกคนที่สู้ไปด้วยกัน

"ไม่มีใครแบกความสำเร็จมาขาย ไม่มีใครตายเพราะความมุ่งมั่น ไม่มีใครชนะโดยไม่ฝ่าฟัน ถ้าเราไม่ยอมแพ้ ความฝันนั้นก็อยู่ไม่ไกล"

เรื่องราวของวารินชำราบ เอฟซี เริ่มต้นในปี 1998 เมื่อกลุ่มคนที่รักฟุตบอลรวมตัวกันด้วยความฝันเล็กๆ ว่า "อยากเห็นทีมฟุตบอลของบ้านเรา... ก้าวขึ้นไปยืนอย่างภาคภูมิใจในสนามใหญ่" 

เวลาผ่านไปกว่า 27 ปี จากทีมเล็กๆ ที่เตะในสนามชุมชน จนกลายเป็นสโมสรฟุตบอลวารินชำราบ เอฟซี ที่มีสนามเหย้าคือ สนามกีฬามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

นักเตะส่วนใหญ่ในทีมชุดนี้คือ "วัยทำงาน" ผสมกับนักศึกษาส่วนน้อย ด้วยอายุเฉลี่ย 24-25 ปี พวกเขาคือนักฟุตบอลเดินสายที่มารวมตัวกันด้วยใจเพื่อไล่ล่าความฝันในการก้าวสู่ฟุตบอลอาชีพอย่างจริงจังในศึก "ไทยแลนด์ เซมิ-โปร ลีก" ซึ่งพวกเขาเคยลุยมาแล้ว 2 ฤดูกาล 

และการมาถึงของ ช้าง เอฟเอ คัพ ครั้งนี้ คือครั้งที่ 3 ที่พวกเขาจะพิสูจน์ตัวเอง โดยครั้งที่แล้วก็จบรอบ 64 ทีม แพ้ ลำปาง เอฟซี ไปอย่างสมศักดิ์ศรี 1-2

เสียงจากกุนซือ: "ครั้งเดียวในชีวิต... น้องจงเต็มที่!" ... เมื่อโชคชะตานำพาให้ต้องเจอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับหนึ่งของประเทศ ผู้กุมชัยชนะในรายการนี้เป็นว่าเล่น

ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ทาง "โค้ชแจ็คกี้" เอกยุทธ ทองใส กุนซือหนุ่มวัย 38 ปี ผู้จบหลักสูตรโค้ชระดับอินโทร ที่ยอมรับความจริงอย่างเป็นมืออาชีพ แต่แฝงไว้ด้วยความหวังอันเร่าร้อน

"จริงๆ ถ้าไม่เจอบุรีรัมย์เรามองไปถึงรอบ 32 หรือรอบ 16 ทีม แต่พอมาเจอบุรีรัมย์ ต้องยอมรับก่อนว่า ผลการแข่งขันอาจจะออกมาในทางเชิงลบ เพราะทีมเราเป็นรองทั้งศักยภาพ และตัวผู้เล่น และความเป็นมืออาชีพทุกอย่าง ซึ่งแทบจะสู้กันไม่ได้"

"แต่ก็หวังลึกๆ ว่าเด็กจะมีความมุ่งมั่น และอาศัยจังหวะจากการซ้อมมา 1 เดือนเต็มเอาไปสู้ ก็หวังเซอร์ไพรส์ บุกไปแล้วทำได้ ก็มีโอกาส ก็แอบหวังอยู่"

โค้ชแจ็คกี้ไม่ได้สั่งให้ลูกทีมต้องชนะ แต่สั่งให้ลูกทีมต้อง "กล้าเล่น"!

"อยากให้น้องกล้าเล่น การเจอกับทีมระดับนี้มันมีไม่บ่อย ครั้งนี้อาจจะครั้งเดียวในชีวิต เพราะเราไปเจอบุรีรัมย์ ทีมอันดับหนึ่งของประเทศไทยเลย และเราก็ไปเจอที่สนามช้าง อารีน่า ก็เหมือนบรรยากาศไทยลีก 1"

"อยากให้น้องๆ เต็มที่ ไม่ต้องกลัว ตามที่เราซ้อมทุกอย่าง เล่นเหมือนฟุตบอลที่เราเคยแข่ง ส่วนผลจะออกมาไม่ดียังไง ก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง ซึ่งเราจะได้ประสบการณ์จากเกมนี้ด้วย"

สำหรับ วารินชำราบ เอฟซี เกมที่ ช้าง อารีน่า ไม่ใช่แค่การเข้ารอบต่อไป แต่มันคือ "การฟอร์มทีม" และดูโครงสร้างทีมเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายหลักในฤดูกาลนี้ เพราะเป้าหมายใน เซมิ-โปร ลีก ปีนี้คือการขึ้นไทยลีก 3 ไปสู่เส้นทางฟุตบอลอาชีพจริงๆ

เกมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จึงเป็นเหมือน "สนามสอบวัดใจ" และ "บทเรียนที่ล้ำค่า" ที่จะบอกพวกเขาว่าเส้นทางสู่ฟุตบอลอาชีพที่แท้จริงนั้นห่างไกลอีกแค่ไหน

เย็นนี้... ณ ช้าง อารีน่า! บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาจจะคาดหวังผลการแข่งขันที่ขาดลอย แต่พวกเขาจะไม่ได้พบกับลูกแกะที่ยอมจำนน แต่จะพบกับ "ไฮยีน่าจอมโหด" ที่พร้อมจะฉกฉวยทุกโอกาส และสู้จนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายจะดังขึ้น

นี่คือเกมแห่งความฝันที่ท้าทายความจริง นี่คือเกมที่ต่อให้ผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร แต่หัวใจของลูกผู้ชายที่ชื่อว่า วารินชำราบ เอฟซี จะถูกจารึกไว้ว่า พวกเขาคือครอบครัวนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้!

กอล์ฟ เบนเทเก้



ที่มาของภาพ : -
BY : Quarterback
"กอล์ฟ เบนเทเก้" ปิยะพงษ์ โพธินาค
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport