สนามสร้างฝัน อบจ.ชัยนาท กับปรัชญาเยาวชนที่เหนือกว่าแชมป์ เซตระบบพัฒนาแบบยั่งยืน

ในโลกฟุตบอลเยาวชนที่หลายคนมักมุ่งเน้นที่ถ้วยรางวัลและความสำเร็จในระยะสั้น แต่ที่ โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท (อบจ.ชัยนาท) ปรัชญาการทำงานกลับสวนทางอย่างน่าสนใจ พวกเขาไม่ได้ต้องการ 'ล่าแชมป์' แต่ต้องการ 'สร้างคน' ให้เยาวชนไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพในแบบที่ตัวเองเลือกเดิน

เริ่มต้นจากความฝัน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 2015 จากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ 'เสี่ยแฮงค์' อนุชา นาคาศัย ประธานสโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิลล์ และคุณบุญญฤทธิ์ ณ วังขนาย เจ้าของธุรกิจกลุ่มวังขนาย ที่อยากเห็นรากฐานฟุตบอลเยาวชนในจังหวัดแข็งแรงและยั่งยืน พวกเขาจึงชวน สุเมธ อยู่โต ซึ่งควบตำแหน่งผู้อำนวยการอะคาเดมี่ของสโมสร และยังเป็นคุณครูของโรงเรียน อบจ.ชัยนาท มาบุกเบิกภารกิจนี้

ช่วงเริ่มต้นเป็นไปอย่างทุลักทุเล ทุกอย่างเริ่มจาก 'ศูนย์' มีโค้ชเพียง 4 คน โดยมีโค้ชบรูซ  แคมป์เบลล์ และโค้ชสุเมธ  อยู่โต, โค้ชนนทชัย  แก้วแสน  และโค้ชวีระศักดิ์  พงษ์เกิด  และผู้ช่วยโค้ชซึ่งเป็นคนในพื้นที่ โดยเริ่มจากรุ่นอายุไม่เกิน 13 และ 16 ปี รุ่นละ 20 คน 

การก่อตั้งอะคาเดมี่แบบกิน-นอนในโรงเรียนทั้งหมด ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกลุ่ม วังขนาย ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของประเทศ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหอพักนักกีฬา, โภชนาการและสนามซ้อม ค่อยๆ ถูกพัฒนาขึ้นมา และต่อมาเมื่อสามารถสร้างหลักสูตรความเป็นเลิศทางด้านกีฬาผ่าน  ก็หันมาใช้งบประมาณจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยนาท  ตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน

ดูงานถึง เจลีก

เพื่อสร้างมาตรฐานระดับมืออาชีพ พวกเขาไม่รอช้าที่จะส่งสตาฟฟ์โค้ชไปดูงานถึง ประเทศญี่ปุ่น โดยมีจุดหมายที่อะคาเดมี่ของสโมสรชั้นนำอย่าง คาชิวะ เรย์โซล ซึ่งการไปดูงานครั้งนั้นไม่ได้จบลงแค่การเรียนรู้ แต่ยังมีการส่งโค้ชจากที่นั่นกลับมาร่วมคัดเลือกเยาวชนไทยอีกด้วย เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการวางระบบอย่างจริงจัง

ปรัชญาที่เหนือกว่าถ้วยรางวัล

"เป้าหมายของเราไม่ได้หวังถึงการเป็นแชมป์ เพราะเราอยากส่งเสริมเยาวชนให้เติบใหญ่อย่างมีคุณภาพ" คุณสุเมธ อยู่โต เน้นย้ำถึงแก่นของโรงเรียน อบจ.ชัยนาท ที่เชื่อว่าเด็กทุกคนควรได้รับการส่งเสริมให้ไปให้สุดในเส้นทางที่ตนเองเลือก

"แม้จะเรียนไม่เก่ง แต่หากเก่งในด้านฟุตบอลหรือด้านอื่น ก็ควรได้รับการสนับสนุนให้ถูกทาง"

ดังนั้นการคัดเลือกนักฟุตบอลของที่นี่จึงไม่ได้เน้นแค่ทักษะ แต่เน้นที่ 'แคแรกเตอร์' โดยเฉพาะเรื่อง ความมุ่งมั่นตั้งใจ, ความขยันและความเป็นนักสู้ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าบุคลิกลักษณะเหล่านี้ต่างหาก ที่จะเป็นสิ่งที่ติดตัวเยาวชนไปทุกที่เมื่อเติบใหญ่ขึ้น

การฝึกซ้อมของที่นี่ถูก ย่อส่วนมาจากระบบอาชีพ โดยปัจจุบันมีทีมงานและสตาฟฟ์โค้ชมากถึง 22 คน ซึ่งมีโค้ชระดับ A-License ถึง 2 คนคือคุณสุเมธ อยู่โตและ อนุสรณ์ ปานสันเทียะ 

แต่สิ่งสำคัญคือตารางการสอนถูกจัดให้สมดุลกับการเรียน เพราะการศึกษายังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเด็กๆ ทุกคน 

นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องโภชนาการ โดยนำหลักวิทยาศาสตร์การกีฬามาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับนักฟุตบอลในทุกมิติ

ไม่เพียงแต่ทักษะในสนาม อบจ.ชัยนาท ยังปลูกฝังวินัยและการใช้ชีวิตนอกสนาม เพราะนี่คือสิ่งที่จะติดตัวพวกเขาต่อไปในอนาคต

ผลผลิตที่งอกเงยจากความมุ่งมั่น

แม้จะไม่ได้เน้นล่าแชมป์ แต่ด้วยระบบการสร้างคนที่มีคุณภาพและเป็นรูปธรรม ทำให้ผลพลอยได้ที่ตามมาคือความสำเร็จที่พิสูจน์ได้ ทุกวันนี้ อบจ.ชัยนาท มีนักเตะในอะคาเดมี่รวม 280 คน (อยู่ฟรี-กินฟรี ทุกอย่าง) ครบทุกรุ่นอายุตั้งแต่ 13 ถึง 18 ปี และสามารถคว้าแชมป์รายการเยาวชนในประเทศได้หลายรายการ ทั้ง Diamond Cup และล่าสุดคือ แชมป์กีฬา 7 สี รวมถึงการยืนหยัดอยู่ใน ถ้วย ก. ของฟุตบอลกรมพละ ได้ทุกรุ่น

นอกจากนี้ ยังมีศิษย์เก่าที่กำลังโลดแล่นอยู่ในลีกอาชีพอย่าง ไทยลีก เช่น วรินทร จำนงค์วัฒน์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด) และ จตุภูมิ แก้วกลาง (นครราชสีมา เอฟซี) รวมไปถึงการมีส่วนในทีมชาติไทย ชุดยู-23 ชุดล่าสุดอย่าง สิรเศรษฐ เอกประทุมชัย กับ ปฏิพาน ชัยโพธิ์เทพ

'ฟุตบอลสร้างคน ฟุตบอลสร้างอนาคต' คือปรัชญาที่ไม่เคยเปลี่ยนและเป้าหมายในอนาคตของโรงเรียน อบจ.ชัยนาท ก็ยังคงเน้นย้ำในเรื่องของการ 'สร้าง' ตลอดไป เพราะพวกเขาเชื่อว่าการสร้างเยาวชน, สร้างโอกาสและสร้างอนาคตที่มีคุณภาพ คือความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุด

โรงเรียน อบจ.ชัยนาท คือผลพลอยได้จากความมุ่งมั่นและพยายาม!!