พลอยไทย รื่นฤทธิ์ แข้งหญิงลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย เด็กสู้ชีวิตจากกาญจนบุรี เก็บเงินเองตั้งแต่ ป.6 เพื่อลงทุนเดินทางมาทดสอบฝีเท้าที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพ จนคว้าฝันเป็นนักฟุตบอลหญิงได้สำเร็จ
เรื่องราวของ ด.ญ.พลอยไทย รื่นฤทธิ์ แข้งสาวลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย ผู้ไม่ยอมให้โชคชะตากำหนดชีวิต
ในวันที่เด็กหญิงคนหนึ่งยื่นเงิน 10 บาทคืนให้คุณตา แล้วเก็บส่วนที่เหลือไว้อย่างเงียบงันทุกวัน ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังสะสมสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเงิน นั่นคือความฝัน
ด.ญ.พลอยไทย รื่นฤทธิ์ หรือ “เจมมี่” คือเด็กหญิงวัย 12 ปี ลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย ที่ใช้ฟุตบอลเป็นใบเบิกทางชีวิต และเบื้องหลังรอยยิ้มของเธอคือเรื่องราวที่สะเทือนใจ แต่เปี่ยมไปด้วยพลังใจของผู้ไม่ยอมแพ้
พลอยไทยเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 เป็นพี่สาวฝาแฝดของ ด.ช.เพชรแท้ รื่นฤทธิ์ หรือ “ไดมอนด์” เติบโตในจังหวัดกาญจนบุรี ท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น พ่อคือ นายเฮนรี่ ชุกุ วาดีเค ชาวไนจีเรีย และแม่คือ นางสาวศุษมา รื่นฤทธิ์ ทั้งครอบครัวอยู่รวมกันอย่างมีความสุข โดยมีคุณตาและคุณยายช่วยดูแลหลาน ๆ อย่างใกล้ชิด
แต่แล้วชีวิตของเด็กทั้งสองก็พลิกผัน เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 แม่ของพวกเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ขณะพลอยไทยอายุเพียง 6 ขวบ ส่วนคุณพ่อจำเป็นต้องกลับประเทศไนจีเรีย โดยไม่มีใครรู้ว่าจะได้กลับมาหาลูกหรือไม่
ตั้งแต่นั้นมา เด็กฝาแฝดต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างกาย อาศัยอยู่กับคุณตาและคุณยายวัยกว่า 70 ปี ที่กลายมาเป็นผู้ดูแลหลัก พลอยไทยไม่เคยแสดงความดื้อหรือต่อต้าน เธอเป็นเด็กเรียบร้อย ขยัน อดทน และที่สำคัญ คือเธอรักในกีฬาฟุตบอลอย่างลึกซึ้ง
ในแต่ละวัน คุณตาจะให้เงินไปโรงเรียนวันละ 40 บาท แต่พลอยไทยจะหยิบแค่ 10 บาท ส่วนอีก 30 บาทเก็บไว้กับคุณยายอย่างมีวินัย เธอยังหารายได้เสริมด้วยการรับขนมไปขายที่โรงเรียนเป็นประจำ เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว
ตลอดช่วงประถม พลอยไทยฝึกซ้อมฟุตบอลอย่างตั้งใจ ใช้สนามท้องถิ่นเป็นห้องเรียน ใช้ความพยายามเป็นครู และเมื่อจบชั้น ป.6 เธอตัดสินใจขอใช้เงินเก็บของตัวเองนั่งรถจากกาญจนบุรีเข้ากรุงเทพมหานคร เพื่อไปทดสอบฝีเท้าที่โรงเรียนวัดทองสัมฤทธิ์ หรือโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ด้วยตัวเอง
ความตั้งใจและความกล้าหาญในวัยเพียง 12 ปีของเธอ กลายเป็นประตูบานแรกที่เปิดสู่เส้นทางนักฟุตบอลหญิงอย่างเต็มตัว พลอยไทยสอบผ่านการทดสอบ ได้เข้าเรียนชั้น ม.1 และกลายเป็นหนึ่งในนักเรียนฟุตบอลหญิงของโรงเรียนกีฬาอย่างภาคภูมิ
ข้อมูลจาก “โค้ชมิ้ม” ธิดารัตน์ วิวาสุขุ อดีตแนวรับทีมชาติไทย และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ระบุว่า เธอเห็นแววของเด็กคนนี้ และเชื่อว่าหากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง พลอยไทยจะกลายเป็นอีกหนึ่งอนาคตสำคัญของฟุตบอลหญิงไทยในวันข้างหน้า
วันนี้ พลอยไทยมีบัตรประชาชนไทย มีสถานะนักเรียนในโรงเรียนที่เธอฝันถึง และยังมีหัวใจที่เต็มไปด้วยความกตัญญู เธอไม่เคยลืมว่าทุกก้าวที่เดินมาถึงวันนี้ได้ เพราะคุณตาและคุณยายวัยชราเป็นคนพาเธอไปสนามบอลตั้งแต่วันแรก
เรื่องราวของเด็กหญิงคนนี้อาจเริ่มจากความสูญเสีย แต่เธอกลับเปลี่ยนบาดแผลในใจให้กลายเป็นแรงผลักดัน ความฝันของเธอไม่ได้ไกลเกินเอื้อม และนั่นเป็นบทพิสูจน์ว่า เด็กที่เริ่มจากศูนย์ ก็สามารถก้าวไกลได้เช่นกัน
เราทุกคนมีฝัน... และถ้าเราเชื่อในฝันมากพอ มันจะพาเราไปถึงที่ที่เราต้องการในสักวันหนึ่ง
เรียบเรียงจากข้อมูลโดย: "อ๊อฟ...อ๊อฟ"