ฟีฟ่าประกาศปรับ "U17 ชิงแชมป์โลก" จัดแข่งทุกปี เริ่มปี 2025 พร้อมเพิ่มเป็น 48 ทีม! แม้โควตาเอเชียจะเพิ่มเป็น 8 ทีม แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้าง "ช่องว่าง" ระหว่างชาติที่ไปถึงรอบสุดท้ายกับชาติที่ทำไม่ได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (U17 World Cup) โดยจะจัดการแข่งขันใน ทุกปี เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนทีมในรอบสุดท้ายเป็น 48 ทีม เพื่อเพิ่มจำนวนเกมการแข่งขันจริงและสร้างความเข้มข้นให้กับเยาวชนในการพัฒนาสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างแข็งแกร่ง
กาตาร์จะรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพการแข่งขันนี้ต่อเนื่องถึง 5 ปี (2025-2029) ซึ่งแน่นอนว่าการเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายส่งผลให้โควตาของแต่ละทวีปเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะโควตาของทวีปเอเชียที่เพิ่มขึ้นเป็น 8 ทีม (ไม่รวมเจ้าภาพ)
รูปแบบคัดเลือกใหม่และความท้าทาย
อย่างไรก็ตาม การจัดแข่งในทุกปี ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ด้านการจัดการรอบคัดเลือกของแต่ละทวีป เนื่องจากอาจเกิดการคาบเกี่ยวของตารางการแข่งขัน
สำหรับทวีปเอเชียที่ได้โควตาสูงถึง 8 ทีม (ไม่รวมเจ้าภาพ) ได้มีการปรับวิธีการคัดเลือกให้กระชับขึ้น โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก U17 ในปีก่อนการแข่งขันครั้งถัดไป จะได้รับสิทธิ์ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ชิงแชมป์เอเชีย ทันที ซึ่งนี่คือสิ่งที่น่าจับตามองสำหรับทีมชาติที่ยังไม่สามารถก้าวไปถึงจุดนั้นได้
ความเสี่ยงและช่องว่างที่อาจเกิดขึ้น
แม้โควตาจะเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบในเชิงลบระยะยาวต่อชาติที่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย U17 ชิงแชมป์โลก ได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะจะเกิดความห่างชั้นของ "เกมระดับสูง" และประสบการณ์ระดับนานาชาติที่กลุ่มผู้เล่นเหล่านั้นจะได้รับ
1. ทีมการันตีเข้ารอบที่ยืนรออยู่แล้ว: ในรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย จะมีทีมที่ผ่านเข้ารอบโดยอัตโนมัติอย่างน้อย $8+1$ ทีม โดย 8 ทีมคือทีมที่ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก U17 ครั้งล่าสุด และอีก 1 ทีมคือเจ้าภาพ (กาตาร์ การันตี 5 ปี 2025-2029)
2. รอบคัดเลือกที่เข้มข้นขึ้น: เมื่อมีทีมที่การันตีเข้ารอบชิงแชมป์เอเชียอยู่แล้ว ทำให้รอบคัดเลือกที่เปิดให้ชาติอื่นชิงตั๋วเหลือเพียง 7 กลุ่มเท่านั้น และจะคัดเอาเพียง แชมป์กลุ่ม เข้ารอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย ทำให้รอบคัดเลือกดูเหมือนง่ายแต่กลับเป็นเส้นทางที่ยากกว่าเดิมมาก
3. ความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ: ในการจับสลากแบ่งสายรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย ทีมวางจะถูกจัดตามผลงานในรอบสุดท้ายเอเชีย 3 ครั้งหลังสุด หากทีมใดไม่สม่ำเสมอในการเข้าสู่รอบสุดท้ายเอเชีย อาจต้องเจอกับ "สายที่หิน" ตั้งแต่รอบแรก
4. เดิมพันสูงตั้งแต่รอบแรกเอเชีย: รอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียจะคัดเลือก 8 ทีมเพื่อไปฟุตบอลโลก (โควตาที่เพิ่มขึ้น) แต่ความเข้มข้นจะเริ่มต้นตั้งแต่นัดแรก เพราะ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม หากทีมใดจบอันดับ 1 หรือ 2 ของกลุ่ม จะได้ตั๋วไปฟุตบอลโลกทันที! โควตาที่ดูเหมือนง่ายอาจไม่ง่ายหากคุณภาพทีมและกลุ่มไม่เป็นใจ
5. ช่องว่างประสบการณ์ที่ขยายตัว: การไม่สามารถผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกได้ตามโควตาที่เพิ่มมานี้ หมายถึงการขาดหายไปของ "เกมระดับสูง" ที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี เมื่อผู้เล่นชุดนั้นเติบโตขึ้น ชาติที่ตามไม่ทันจะต้องลงเล่นรอบคัดเลือกซ้ำๆ ลุ้นเข้ารอบเอเชีย และลุ้นตั๋วฟุตบอลโลกอย่างหนักหน่วง ขณะที่ชาติที่ไปถึงรอบสุดท้ายจะได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่าอย่างต่อเนื่อง
การปรับรูปแบบการแข่งขันนี้ของฟีฟ่าจึงเป็นทั้งโอกาสครั้งใหญ่และสัญญาณเตือนให้ชาติที่หวังพัฒนาฟุตบอลเยาวชนต้องทำงานหนักขึ้น เพราะโควตาที่เยอะขึ้นไม่ได้แปลว่าเส้นทางจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เป็นการสร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นไปอีกในทุกๆ ปี