มาโน่ โพลกิ้ง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ชี้นักเตะเวียดนามยังไม่กล้าเสี่ยงออกนอกประเทศ ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดด พร้อมยกตัวอย่างนักเตะบราซิลที่ยอมลำบากเพื่อโอกาสและความสำเร็จในต่างแดน
มาโน่ ตอบสื่อเวียดนาม แนะนักเตะเวียดนามต้องกล้าออกจากคอมฟอร์ตโซน หากหวังยกระดับสู่เวทีโลก
มาโน่ โพลกิ้ง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบันรับงานคุมทีม คอง อันห์ ฮานอย เอฟซี ในศึกวีลีกของเวียดนาม ออกมาแสดงความเห็นถึงประเด็นสำคัญที่ฉุดรั้งพัฒนาการนักเตะเวียดนาม โดยเฉพาะเรื่องการไม่กล้าไปค้าแข้งในต่างแดน
มาโน่ กล่าวว่า “จริง ๆ แล้วผู้เล่นเวียดนามไม่ได้ด้อยกว่าผู้เล่นจากไทย มาเลเซีย หรืออินโดนีเซียเลย แต่สิ่งที่ยังขาดคือกรอบความคิดที่พร้อมจะก้าวออกจาก คอมฟอร์ตโซน ของตัวเอง”
เจ้าตัวยังยกตัวอย่างนักเตะบราซิลว่า “พวกเขาไม่ลังเลที่จะเดินทางไปเล่นต่างแดน แม้ต้องแลกมากับความยากลำบากหรือความไม่มั่นคงในช่วงเริ่มต้น แต่เพราะมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างอาชีพ นักเตะเหล่านี้จึงพร้อมพิสูจน์ตัวเอง”
“บราซิลเป็นประเทศที่ส่งออกนักฟุตบอลมากที่สุดในโลก พวกเขายอมไปเล่นในทุกที่หากมีโอกาสได้แข่งขัน เพราะรู้ดีว่า ถ้าไม่ย้ายออกไป พวกเขาอาจไม่มีพื้นที่ในระบบฟุตบอลของประเทศตัวเอง”
มาโน่ ยังวิเคราะห์ว่า “นักเตะเวียดนามจำนวนมากยังอยู่ในความสะดวกสบาย ได้รับเงินเดือนมั่นคง มีชื่อเสียง และความรักจากแฟนบอล จึงไม่เกิดแรงผลักดันในการลองเส้นทางใหม่ การไปเล่นต่างแดนจึงกลายเป็นการ ‘เสี่ยง’ ซึ่งหลายคนไม่กล้าเดิมพัน”
อดีตกุนซือช้างศึกยังพูดถึง นักเตะบราซิลในวีลีก ว่า แม้มาจากชาติฟุตบอลยักษ์ใหญ่ แต่เพราะการแข่งขันในประเทศสูง หลายคนเลือกมาลีกเล็กเพื่อพิสูจน์ตัวเอง เช่นเดียวกับกรณีของ เหงียน ซวน เซิน นักเตะเชื้อสายบราซิลที่ได้รับสัญชาติเวียดนามและติดทีมชาติชุดใหญ่
ท้ายที่สุด มาโน่สรุปว่า
“การค้าแข้งต่างแดนไม่ใช่การันตีความสำเร็จ แต่คือโอกาสในการค้นหาขีดจำกัดของตัวเอง ถ้าไม่ลอง ก็ไม่มีวันรู้ และถ้านักเตะเวียดนามยังคิดแค่การเป็นดาวดังในประเทศ ฝันเรื่องฟุตบอลระดับโลกก็จะเป็นแค่สโลแกน”