ซน ฮึง-มิน ซัดชัย! เกาหลีใต้ ต่อเวลาฯอัด ออสเตรเลีย ทะลุตัดเชือกจอร์แดน เอเชียน คัพ

โสมขาวทะลุตัดเชือก! ซน ฮึง-มิน งัดฟอร์มโหดเรียกจุดโทษให้ ฮวาง อี-ชาน ไล่เจ๊า 1-1 ในเวลาปกติ ก่อนสวมบทฮีโร่ซัดฟรีคิกงามหยดพา เกาหลีใต้ แซงเอาชนะ ออสเตรเลีย ที่เหลือ 10 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ รองชนะเลิศ เอเชียน คัพ 2023 พบกับ จอร์แดน ในวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ฟุตบอล เอเชียน คัพ 2023 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ออสเตรเลีย พบกับ เกาหลีใต้ 

แกรม อาร์โนลด์ นายใหญ่ "ซอคเก้อร์รูส์" ผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแบบไม่ยากหลังไล่อัด อินโดนีเซีย 4-0 เกมนี้ปรับแนวรุกจากเกมล่าสุดด้วยการจัดสามประสานเป็น มาร์ติน บอยล์, มิตเชลล์ ดุุ๊ค และ เคร็ก กู๊ดวิน 

ขณะที่ "โสมขาว" ของ เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ ในรอบที่แล้วโกงตายหลังได้ โช กิว-ซุง ฮีโรโขกไล่เจ๊า ซาอุดีอาระเบีย 1-1 ช่วงทดเจ็บ นาที 90+9 ก่อนที่ยืดเยื้อมาถึงการดวลจุดโทษซึ่ง เกาหลีใต้ ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไป 4-2 ผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งเกมนี้จัด โช กิว-ซุง ดาวยิงจาก มิดทิลแลนด์ เป็นหน้าเป้า โดยมีตัวรุกสนับสนุนทั้ง อี คัง-อิน, ซน ฮึง-มิน และ ฮวาง อี-ชาน  

ครึ่งแรก ช่วง 20 นาทีแรก แม้ทัพ "โสมขาว" จะครองบอลได้มากกว่าแต่จังหวะได้ลุ้นเป็นทัพออสซี่ที่จบได้มากกว่า นาที 19 เคร็ก กู๊ดวิน ได้โอกาสซัดด้วยซ้ายแต่ยังไม่ผ่านมือ โจ ฮยอน-วู นายด่านเกาหลีใต้ 

นาที 31 แฟนโสมขาวต้องเฮเก้อ หลัง ฮวาง อี-ชาน ส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้วแต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ โซล ยัง-วู ที่ออกตัวนำล้ำไปนิดเดียวก่อนที่จะปาดมาหน้าประตูให้ดาวยิงจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ยิงเข้าไป สกอร์ยัง 0-0 เหมือนเดิม

นาที 42 กลายเป็นทัพ "ซอคเก้อร์รูส์" ที่มาชิงขึ้นนำไปก่อนจากความผิดพลาดของ ปาร์ค ยอง-วู ที่จ่ายบอลพลาดหน้าบ้านตัวเองก่อนโดน เคร็ก กู๊ดวิน ตัดไปก่อนไหลเข้ากลางสุดท้ายถึง มาร์ติน บอยล์ ตัดบอลย้อนมาเสาไกลให้ เคร็ก กู๊ดวิน หวดจังหวะเดียวไม่จับบอลพุ่งเข้าไปอย่างสวยงามให้ ออสเตรเลีย ขึ้นนำ เกาหลีใต้ 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง นาที 49 โสมขาว เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง โซล ยัง-วู ครอสมาให้ อี คัง-อิน ซัดด้วยซ้ายแต่ไปเข้ามือ แม็ทธิว ไรอัน

นาที 53 ออสเตรเลีย เกือบมาได้เม็ดที่สองนำห่าง เคร็ก กู๊ดวิน ครอสจากซ้ายมาให้ มาร์ติน บอยส์ โขกเน้นๆ แต่ไปติดเซฟ โจ ฮยอน-วู บอลทะลักมาเข้าทางปืน บอยส์ อีกหนแต่ยังซัดไปติดเซฟนายด่านโสมขาวที่ออกมาขวางอย่างเร็ว ก่อนจังหวะสุดท้าย มิตเชลล์ ดุุ๊ค จะหวดซ้ำเหินคานออกไป

ครบหนึ่งชั่วโมง ลูกทีมของ คลิ้นส์มันน์ ยังบี้อย่างหนักแต่ยังไม่สามารถตามตีเสมอได้ นาที 60 ได้ลุ้นจาก ฮวาง อี-ชาน แต่ยังไปติดเซฟของ แม็ทธิว ไรอัน

ท้ายเกม นาที 83 แฟนออสซี่เกือบได้เฮอีกรอบหลัง แจ็คสัน เออร์ไวน์ เปิดมาเสาไกลให้ มิตเชลล์ ดุุ๊ค พุ่งโขก แต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างได้เสียว

ช่วงทดเวลาเจ็บ ทัพโสมขาวมาได้ลูกที่จุดโทษ ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วยืนยันตามเดิม ก่อนเป็น ฮวาง อี-ชาน รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ เกาหลีใต้ ไล่ตีเสมอ ออสเตรเลีย 1-1 ซึ่งสถานการณ์ซ้ำรอยเหมือนรอบที่แล้ว ก่อนจบการแข่งขันต้องไปลุ้นกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งหากยังไม่มีผู้ชนะต่อตัดสินด้วยการดวลลูกที่จุดโทษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษ ทัพ "โสมขาว" ไล่กดดันอย่างหนัก นาที 95 เกือบพลิกแซงขึ้นนำหลัง ฮวาง อี-ชาน ซัดเต็มแรงด้วยขวาแต่โดน แม็ทธิว ไรอัน เซฟออกมา อี คิง-อิน ตามโขกซ้ำมุมแคบแต่ยังไม่ผ่านมือ ไรอัน ที่ป้องกันได้อีกครั้ง

จนแล้วจนรอด นาที 104 เกาหลีใต้ มาแซงขึ้นนำ ออสเตรเลีย 2-1 จากจังหวะที่ได้ฟรีคิกบนเส้น 18 หลา เยื้องทางซ้าย ก่อนที่ ซน ฮึง-มิน กัปตันโสมขาวจะปั่นข้ามกำแพงบอลโค้งเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม

ช่วงทดเจ็บของการต่อเวลาพิเศษช่วงครึ่งแรก นาที 105+4 ออสเตรเลีย ต้องมาเหลือแค่ 10 คน หลัง ไอเด้น โอนีล ตัวสำรองที่ตอนแรกโดนใบเหลืองหลังไปฟาวล์ใส่ ฮวาง อี-ชาน อย่างน่าเกลียด แต่หลังผู้ตัดสินเช็ก วีเออาร์ แล้วยกเลิกใบเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นแจก ใบแดง ไล่ออกจากสนามไป

จบการแข่งขัน เกาหลีใต้ แซงเอาชนะ ออสเตรเลีย 2-1 หลังเสมอในเวลาปกติ 1-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ พบกับ จอร์แดน ในวันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 22.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นทั้งสองทีม

ออสเตรเลีย (4-3-3) : แม็ทธิว ไรอัน - เนธาเนียล แอ็ตกินสัน, แฮร์รี่ ซูตทาร์, คาย โรว์ลส์, อาซิซ เบฮิช - คอนเนอร์ เม็ตคาลฟ์, คีนู บัคคุส, แจ็คสัน เออร์ไวน์ - มาร์ติน บอยล์, มิตเชลล์ ดุุ๊ค, เคร็ก กู๊ดวิน

เกาหลีใต้ (3-4-2-1) : โจ ฮยอน-วู - คิม แท-ฮวัน, คิม มิน-แจ, คิม ยัง-กวอน, โซล ยัง-วู - ปาร์ค ยอง-วู, ฮวัง อิน-บอม - อี คัง-อิน, ซน ฮึง-มิน, ฮวาง อี-ชาน - โช กิว-ซุง







ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport