โปรไลเซ่นส์เปิดโลกใหม่.."น้าเทิด"

โปรไลเซ่นส์เปิดโลกใหม่.."น้าเทิด"
ตำแหน่งใหม่ กับการผจญภัยในเขมร

    จากนักเตะระดับตัวพ่อของวงการฟุตบอลไทยในอดีตที่ผ่านมา "เจ้าเทิด"เทิดศักดิ์ ใจมั่น เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งที่ใช้ฝีเท้าเป็นใบเบิกทางในการไปเล่นฟุตบอลอาชีพในอาเซี่ยนทั้งสิงคโปร์ และเวียดนาม เมื่อรวมในไทยด้วย ทำให้เจ้าตัวเป็นนักเตะที่ผ่านการเล่นในชาติอาเซี่ยนมาแล้ว 3 ชาติ

    ขณะที่บทบาทใหม่หลังแขวนสตั๊ดคือการเป็นโค้ช การไต่เต้าด้วยการเรียนอัพเลเวลไลเซ่นส์ของ "น้าเทิด"จึงมาถึงจุดสูงสุดของการเรียนในอาชีพโค้ช นั่นก็คือ โปรไลเซ่นส์ ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งจะผ่านการดูงานสโมสรอาชีพในญี่ปุ่นอย่าง โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และเอฟซี โตเกียว มาเมื่อไม่นาน และเหลืออีกเพียงแค่โมดูลสุดท้ายก็จะสำเร็จวิทยายุทธ์ขั้นสูงสุดอย่างเต็มภาคภูมิ

    ขณะที่อาชีพโค้ชก็ถือว่าไปได้สวยไม่แพ้ตอนเป็นนักเตะ เทิดศักดิ์ กับทีมล่าสุดคือ ระยอง เอฟซี ผลงานไปกันได้ดีรั้งอันดับ 4 ของไทยลีก 2 แต่ที่สุดต้องแยกทางเมื่อสโมสรมีปัญหา แม้จะยังอยากให้ทำ แต่เพื่อปากท้องเจ้าตัวต้องเดินหน้าต่อ โดยสถานีต่อไปเป็นดินแดนที่เขาไม่เคยคิดฝันอยากจะไปทำ แถมไปในตำแหน่งที่ไม่เคยทำ นั่นก็คือ การไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ของสโมสรอาชีพในลีกสูงสุดกัมพูชา นั่นก็คือ นากาเวิลด์ นั่นเอง

    "จริง ๆ ก่อนหน้านี้ทางผู้บริหารของสโมสรนากาเวิลด์ ก็ติดต่อผมมาหลายหนแล้ว แต่ตอนนั้นยังอยากทำงานในประเทศไทยอยู่ใกล้ครอบครัว แต่ตอนนี้คิดว่าถึงเวลาแล้ว ลูกก็โตแล้ว เราออกไปหาความท้าทายใหม่ ๆ ในดินแดนใหม่ ๆ และที่สำคัญรายได้ดีด้วย"

    1 สัปดาห์ที่ได้ไปเริ่มงานกับสโมสรนากา เวิลด์ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะสตาฟฟ์โค้ชที่นั่นให้การยอมรับในตัวของ “เจ้าเทิด”เหตุเพราะเล่นบอลทันในยุคเดียวกัน นักเตะเองก็ติดตามข่าวสารของฟุตบอลไทยก็รู้จักและเคารพนับถือกันเป็นอย่างดี

    "ตอนนี้ผมพร้อมทุกอย่าง การได้เรียนโปรไลเซ่นส์ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทั้งเรื่องการบริหารจัดการตัวผู้เล่น การบริหารทีม ได้เรียนรู้การทำงานของโค้ชที่ต้องตัดต่อวีดิโอทั้งการฝึกซ้อมและเกมเอง แล้วเอามาวิเคราะห์ เอามาบอกผู้เล่น มันเป็นรูปแบบการทำงานที่ถือว่าได้ผล 5 แสนที่เรียนถือว่าคุ้มค่ากับความรู้ใหม่ ๆ ที่เราได้มา และผมก็เอามาปรับใช้ในการให้คำแนะนำกับโค้ชทีมนากาเวิลด์ด้วย"

    เมื่อถูกถามถึงฟุตบอลลีกของกัมพูชา "น้าเทิด"บอกว่า เพิ่งมาถึงแค่สัปดาห์เดียวกำลังอยู่ในระหว่างการเรียนรู้ แต่ลีกของกัมพูชากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ได้ฮอนดะ มาคุมทีมชาติ แต่ตอนนี้ต้องดูว่าไม่มีฮอนดะแล้ว การพัฒนาจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือไม่

    "ถ้าพูดถึงลีก พวกเขามี 12 ทีม หลาย ๆ ทีมเป็นของหน่วยงานองค์กรราชการ แต่อีกหลายทีมก็ได้สปอนเซอร์ที่มาทำธุรกิจในกัมพูชา รวมถึงคาสิโนที่ถูกกฎหมายก็มาให้การสนับสนุนทีม เรื่องของเงินงบประมาณในการทำทีมจึงไม่มีปัญหา แต่ก็ยังเทียบกับไทยไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป"

    ส่วนอนาคตของนักเตะไทยที่จะมีโอกาสไปเล่นที่เขมรหรือไม่ อดีตกองกลางสมองใส ก็บอกว่า เป็นไปได้ เพราะค่าตอบแทนที่กัมพูชาก็ไม่ได้ต่ำจนเทียบไม่ได้กับไทยลีก หากนักเตะไทยคนไหนสนใจจะมา ก็ต้องดูกันที่ฝีเท้าและความทุ่มเท รวมถึงเรื่องของรายได้ที่เรียกไป หากไม่เว่อร์จนเกินไป ก็มีสิทธิ์ที่กัมพูชาจะเป็นอีกตลาดของนักเตะไทยไปค้าแข้ง เนื่องจากตอนนี้ลีกกัมพูชาค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องนักเตะต่างชาติ

    "หากจะมา ก็ต้องมาแบบทุ่มเทเต็มที่ ไม่เรียกค่าเหนื่อยเว่อร์เกินไป ใครอยากได้ความท้าทายใหม่ ๆ ก็มีสิทธิ์มายื่นข้อเสนอได้กับทุกทีม ที่สำคัญกัมพูชา นั่งเครื่องมาแค่ 1 ชั่วโมง ใกล้กว่าบินในประเทศบ้านเราบางเส้นทางซะอีก เรื่องโฮมซิกจึงไม่น่าจะใช่ปัญหา" เจ้าเทิดตบท้าย


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport