รู้จักกับคู่แข่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมลเบิร์น ซิตี้ (ออสเตรเลีย)

รู้จักกับคู่แข่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด - เมลเบิร์น ซิตี้ (ออสเตรเลีย)
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต เดินทางมาถึงนัดที่ 3 ในรอบ ลีก สเตจ - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวจากสยามประเทศมีคิวบุกเยือน เมลเบิร์น ซิตี้ ทีมแกร่งของออสเตรเลีย ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอพาคุณไปรู้จักกับ ซิตี้ บลูส์ ให้มากกว่าเดิม!!

เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต รอบ ลีก สเตจ เมลเบิร์น ซิตี้ พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2025 เวลา 14:45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ เมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง Youtube BG SPORTS

[ 1 ] ความสำเร็จของสโมสร 

จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นสโมสรที่ก่อตั้งได้ไม่นานนัก โดยชื่อเดิมคือ เมลเบิร์น ฮาร์ต ที่ส่งทีมแข่งขันในประเทศเป็นหนแรกในปี 2009

กระทั่งหลังสิ้นสุดฤดูกาล 2013-14 ที่ได้กลุ่มทุน ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป (CFG) เข้ามาเทกโอเวอร์ ก่อนจะควบรวมกิจการในปี 2015 ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น เมลเบิร์น ซิตี้ พร้อมกับก้าวสู่การเป็นหนึ่งในทีมใหญ่ของออสเตรเลีย 

พวกเขาได้แชมป์ เอ-ลีก แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัย, แชมป์ เอ-ลีก พรีเมียร์ชิพ 3 สมัย และ ออสเตรเลียน คัพ อีก 1 สมัย

-------------------------------------------

[ 2 ] ผลงานในถ้วยเอเชีย

หลังจากสถาปนาขึ้นเป็นทีมใหญ่ของแดนจิงโจ้ - เมลเบิร์น ซิตี้ ก็กลายเป็นขาประจำในถ้วยเอเชีย โดยซีซั่น 2025-26 ถือเป็นหนที่ 3 ที่พวกเขามีส่วนร่วมกับ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต (รวมในชื่อเดิมคือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก) 

อย่างไรก็ตาม ซิตี้ บลูส์ กลับไม่เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้เลยสักครั้ง แม้จะจบอันดับ 2 ก็ตาม ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป

สิ่งที่น่าสนใจคือก่อนหน้าทั้ง 2 ครั้งในถ้วยใหญ่เอเชีย พวกเขาเผชิญหน้ากับสโมสรไทย ทั้ง 2 หน เลยเช่นกัน โดยในซีซั่น 2022 เจอกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด โดยเสมอกันไป 0-0 และ 1-1

ขณะที่ฤดูกาล 2023-24 เมลเบิร์น ซิตี้ พบ บุรีรัมย์ โดยแบ่งเป็นชนะที่ ช้าง อารีน่า 2-0 ก่อนจะกลับมาแพ้ปราสาทสายฟ้าในบ้านตัวเอง 0-1

-------------------------------------------

[ 3 ] ผลงานปัจจุบัน

เอ-ลีก เพิ่งเปิดฤดูกาล 2025-26 ไปเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าพวกเขาบุกไปเสมอ เวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอเรอร์ส 1-1

แม้จะยังไม่สามารถเก็บสามแต้มเต็มจากแมตช์แรกของซีซั่นได้ แต่ผลงานโดยรวมถือว่าน่าพอใจและมีสัญญาณเชิงบวกหลายอย่าง

หลังเสียประตูตั้งแต่ต้นเกม เมลเบิร์น ซิตี้ ก็ไล่ตีเสมอได้ทันควันจากลูกชิพสุดเฉียบของ แม็กซ์ คาปูโต ที่ยิงข้ามหัว ลอว์เรนซ์ โธมัส หลังได้รับบอลยาวสุดสวยจาก อังเดรอัส คเวิน

จากนั้น ซิตี้ บลูส์ ก็เริ่มคุมเกมได้มากขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งหลังที่ครองบอลและสร้างสรรค์โอกาสได้ต่อเนื่อง แต่ไม่อาจทำสกอร์เพิ่มได้เท่านั้นเอง

ส่วนในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ที่แข่งไปแล้ว 2 เกมแรก ปรากฏว่าพวกเขาแพ้ต่อสองทีมจากญี่ปุ่น อย่าง ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ 0-2 (เหย้า) และ วิสเซิ่ล โกเบ 0-1 (เยือน)

-------------------------------------------

[ 4] เฮดโค้ช

ออเรลิโอ วิดมาร์ ชื่อนี้เป็นที่คุ้นกันดีสำหรับแฟนฟุตบอลชาวไทย เพราะเขาเคยมาเป็นกุนซือให้สองทีมใหญ่อย่าง บางกอกกลาส เอฟซี (2016-2017) รวมไปถึงตอนเปลี่ยนชื่อเป็น บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (2021) กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด (2022) ก่อนจะย้ายกลับบ้านเกิดไปคุมทัพ เมลเบิร์น ซิตี้ ในปี 2023

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรเลียถือเป็นเทรนเนอร์ที่โปรไฟล์ดีในการทำงาน โดยเฉพาะการนำ อาดิเลด ยูไนเต็ด ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008 ก่อนจะพ่ายต่อ กัมบะ โอซากะ (ญี่ปุ่น) ไปนั่นเอง

สไตล์การทำทีมของ วิดมาร์ ค่อนข้างชัดเจน คือเป็นกุนซือที่เน้นผลการแข่งขันเป็นสิ่งแรก ดังนั้นแท็กติกของเขาจึงค่อนข้างยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ของการแข่งขัน รวมไปถึงคู่ต่อสู้นั่นเอง

-------------------------------------------

[ 5 ] โควตาต่างชาติ

กฎเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทะเบียนผู้เล่นของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ซีซั่น 2025-26  มีดังนี้

  • ลงทะเบียนนักเตะ 35 คน
  • วันแข่งขันส่งรายชื่อ 23 คน
  • โควตาต่างชาติสามารถส่งรายชื่อได้ไม่อั้น
  • ในวันแข่งขันโควตาต่างชาติก็สามารถลงเล่นได้ไม่อั้นเช่นกัน

เมลเบิร์น ซิตี้ ส่งรายชื่อแข้งต่างชาติมา 5 คน ได้แก่...

ทาเคชิ คานาโมริ (ญี่ปุ่น) - แนวรุกผู้ผ่านประสบการณ์ใน เจลีก เกินกว่า 250 นัด ร่วมกับ อาวิสปา ฟูกูโอกะ, คาชิมะ แอนท์เลอร์ส และ ซากัน โตสึ ก่อนจะย้ายมาอยู่กับ เมลเบิร์น ซิตี้ ในซีซั่นนี้นี่เอง

เอลบาซาน ราชานี่ (โคโซโว) - ปีกซ้ายทีมชาติโคโซโว เพิ่งย้ายมาในฤดูกาล  2025-26 ก่อนหน้านี้เล่นในยุโรป มาตลอดชีวิต ทั้งในลีกนอร์เวย์, เดนมาร์ก, ตุรกี, ฝรั่งเศส และสเปน โดยทั้งหมดคือลีกสูงสุดซะด้วย

แกร์มัน แฟร์เรย์ร่า (อาร์เจนติน่า) - กองหลังสารพัดประโยชน์ เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรับ แม้รูปร่างจะไม่สูงนัก แต่หมอนี่มีจุดเด่นที่การอ่านเกมอันเฉียบขาด รวมทั้งสามารถยืนซ้อนเพื่อนได้ดีมากๆ 

ซามูเอล ซูปราเยน (ฝรั่งเศส) - เซนเตอร์ฮาล์ฟเชื้อสายมาลากาซี เป็นอีกรายที่ประสบการณ์ในลีกยุโรป โชกโชน ก่อนจะมาปักหลักหากินในออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี  2023

อังเดรอัส คเวิน (ออสเตรีย) - มิดฟิลด์ชาวออสเตรีย ที่เล่นในลีกสูงสุดของบ้านเกิดเกินกว่า 10 ปี ก่อนจะลัดฟ้าสู่ออสเตรเลีย เมื่อปี 2024 แล้วก็ปักหลักเป็นกองกลางตัวหลักให้ เมลเบิร์น ซิตี้ ถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ในรายของ แมทธิว เบเกอร์ ซึ่งเป็นกองหลังเชื้อสายอินโดนีเซีย นั้นถือพาสปอร์ตออสเตรเลีย จึงถูกลงทะเบียนในฐานะผู้เล่นออสเตรเลีย

-------------------------------------------

[ 6 ] นักเตะเด่น

อาซิซ เบฮิช แบ็กซ้ายเชื้อสายตุรกี-ไซปรัส แต่มาเกิดที่ออสเตรเลีย แถมยังเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ไปมากกว่า 73 เกม ทั้งยังเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ ซอคเกอร์รูส์ ชนะญี่ปุ่น  1-0 ในเกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย ซึ่งเป็นทีมเดียวที่ชนะ เดอะ บลู ซามูไร ได้ในรอบนี้

ปัจจุบันเขาคือกัปตัน เมลเบิร์น ซิตี้ โดยฤดูกาล 2024-25 พี่แกเป็นนักเตะเอาต์ฟิลด์ที่ลงเล่นมากที่สุดของสโมสร ด้วยตัวเลข 2,430 นาที พร้อมทำไป 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์

-------------------------------------------

[ 7 ] นักเตะน่าจับตามอง

พาทริก บีช ผู้รักษาประตูที่ถูกยกย่องว่ามีพรสวรรค์สูงลิ่ว กับวัยเพียง 22 ปี แต่กลับอาจหาญขึ้นมาเป็นมือหนึ่งให้ เมลเบิร์น ซิตี้ ในฤดูกาล 2025-26

จอมหนึบดีกรีทีมชาติออสเตรเลีย ชุดยู-23  มาพร้อมสัดส่วน 1.89 เมตร แต่ปราดเปรียวมากๆ โดยเฉพาะเรื่องของปฏิกิริยาที่มักจะมีช็อตเซฟมหัศจรรย์ให้เห็นอยู่พอสมควร อีกทั้งยังยืนตำแหน่งได้ดีมาก จนคาดการณ์กันว่าอนาคตข้างหน้า เขาน่าจะได้ย้ายไปเฝ้าในยุโรป แน่นอน

-------------------------------------------

[ 8 ] เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

  • เคอร์ติส กู๊ด อดีตกองหลังขวัญใจแฟนๆ เมลเบิร์น ซิตี้ จะได้กลับมาเล่นในบ้านอีกครั้ง หลังอำลาทีมไปในปี 2024 - เขาลงเล่นให้ ซิตี้ บลูส์ ไปกว่า 180 นัด ตลอดสองช่วงเวลากับทีม ซึ่งพี่แกมีส่วนสำคัญในยุครุ่งเรืองที่คว้า 3 แชมป์ พรีเมียร์ชิพ ติดต่อกัน รวมไปถึงแชมป์ เอ-ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
  • นอกจากนี้ บุรีรัมย์ ยังมีส่วนเกี่ยวโยงกับ เอ-ลีก เนื่องจาก มาร์ค แจ็กสัน กุนซือป้ายแดงของปราสาทสายฟ้า ก็เคยทำงานที่ออสเตรเลีย ระหว่างปี 2023-2025 กับการคุม เซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส นั่นเอง
  • บุรีรัมย์ เคยมีเฮดโค้ชเป็นชาวออสเตรเลีย มาแล้วหนนึง นั่นคือ อาร์เธอร์ ปาปาส ที่คุมทีมระหว่างปี 2023-2024
  • บุรีรัมย์ เคยเผชิญหน้าสโมสรจากออสเตรเลีย ในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 4 ครั้ง ปรากฏว่าพวกเขาชนะ 3 และแพ้เพียงนัดเดียวเท่านั้น


ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport