เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 จะประเดิมฟาดแข้งกันในวันพุธที่ 17 กันยายน โดยสยามประเทศมี 3 ตัวแทนส่งเข้าประกวดคือ แบงค็อก ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี ซึ่งซีซั่นที่ผ่านมา สโมสร ไทยลีก ทะลุรอบน็อก-เอาต์ได้ทั้งหมด ดังนั้นมาลุ้นกันว่าฤดูกาลปัจจุบันจะรักษามาตรฐานได้หรือไม่ ทว่าวันนี้ 'SIAMSPORT' ขอนำเสนอ 10 เรื่องน่ารู้ก่อนชมทัวร์นาเมนต์!!
*** ขอขอบคุณข้อมูลจาก the-afc,outlookindia และ transfermarkt ***
โปรแกรมของสโมสร ไทยลีก ใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2
พุธที่ 17 กันยายน 2025 I นัม ดินห์ (เวียดนาม) พบ ราชบุรี เอฟซี I 19:15 น.
พุธที่ 17 กันยายน 2025 I บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ โปฮัง สตีเลอร์ส (เกาหลีใต้) I 19:30 น.
พฤหัสบดีที่ 18 กันยายน 2025 I เซลังงอร์ (มาเลเซีย) พบ แบงค็อก ยูไนเต็ด I 17:00 น.
ทุกคู่ถ่ายทอดสดทาง PPTV (ช่อง 36) และ BG SPORTS (Youtube)
1. ความแตกต่างมหาศาล
อัล นาสเซอร์ ตัวแทนจากซาอุดีอาระเบีย ต้นสังกัดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือสโมสรที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 กับตัวเลข 144.14 ล้านยูโร (ประมาณ 5,393 ล้านบาท)
ส่วนทีมที่มีมูลค่าต่ำที่สุดเป็น อาฮาล เอฟเค จากเติร์กเมนิสถาน ที่ถูกระบุพร้อมตัวเลข 375,000 ยูโรป หรือ ประมาณ 14.03 ล้านบาท เท่านั้น
เท่ากับว่าทั้งสองสโมสรมีมูลค่าต่างกันถึง 385.2 เท่า เลยทีเดียว แล้วก็มีโอกาสเจอกันซะด้วย หากว่าทั้งคู่ทะลุถึงรอบน็อก-เอาต์ได้สำเร็จ
2. 10 นักเตะมูลค่าสูงที่สุดของทัวร์นาเมนต์
คิงส์เลย์ โกมัน แนวรุกของ อัล นาสเซอร์ คือนักเตะที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 กับราคาประเมินคือ 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,122 ล้านบาท) แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นเป็นเรื่องของเพื่อนร่วมทีมของปีกทีมชาติฝรั่งเศส ตบเท้าเข้ามาอยู่ในชาร์ต 10 อันดับแรก มากถึง 8 ราย
อันดับ 2 โมฮาเหม็ด ซิมากาน I อัล นาสเซอร์ I 23 ล้านยูโร (ประมาณ 860 ล้านบาท)
อันดับ 3 ชูเอา เฟลิกซ์ I อัล นาสเซอร์ I 20 ล้านยูโร (ประมาณ 748 ล้านบาท)
อันดับ 4 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ I อัล นาสเซอร์ I 12 ล้านยูโร (ประมาณ 448 ล้านบาท)
อันดับ 5 เบนโต้ I อัล นาสเซอร์ I 11 ล้านยูโร (ประมาณ 411 ล้านบาท)
อันดับ 6 เมร์เซโล่ โบรโซวิช I อัล นาสเซอร์ I 10 ล้านยูโร (ประมาณ 374 ล้านบาท)
อันดับ 7 อันเกโล่ I อัล นาสเซอร์ I 8 ล้านยูโร (ประมาณ 299 ล้านบาท)
อันดับ 8 ซาดิโอ มาเน่ I อัล นาสเซอร์ I 8 ล้านยูโร (ประมาณ 299 ล้านบาท)
อันดับ 9 ฟาบิโอ ลิม่า I อัล วาเซิล I 6.5 ล้านยูโร (ประมาณ 243 ล้านบาท)
อันดับ 10 เปโดร มานเญโร่ I อัล วาเซิล I 6 ล้านยูโร (ประมาณ 224 ล้านบาท)
3. น้องใหม่ 14 สโมสร
เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 หรือในชื่อเดิมคือ เอเอฟซี คัพ นั้นเริ่มทัวร์นาเมนต์มาตั้งแต่ปี 2004 ดังนั้นในฤดูกาล 2025-26 จึงเข้าสู่ปีที่ 21 ของการจัดการแข่งขัน
อย่างไรก็ตาม ที่น่าประหลาดใจคือการที่ซีซั่นปัจจุบันที่มี 32 สโมสร เข้าร่วมโม่แข้ง แต่กลับมีสมาชิกใหม่มากถึง 13 ทีม เลยทีเดียว
โดยทีมที่เพิ่งเข้ามาแข่งขันเป็นครั้งแรกได้แก่...
1. อัล นาสเซอร์ (ซาอุดีอาระเบีย)
2. อัล วาสเซิล (ยูเออี)
3. อัล อาห์ลี (กาตาร์)
4. เอสเตกัล (อิหร่าน)
5. อันดิยอน (อุซเบกิสถาน)
6. อาร์คาดัก (เติร์กเมนิสถาน)
7. เอฟซี กัว (อินเดีย)
8. กัมบะ โอซากะ (ญี่ปุ่น)
9. โปฮัง สตีเลอร์ส (เกาหลีใต้)
10. ปักกิ่ง กั๋วอัน (จีน)
11. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (ไทย)
12. ราชบุรี เอฟซี (ไทย)
13. กง อันห์ ฮา นอย (เวียดนาม)
4. แชมป์ลีกในประเทศเข้าแข่งขันเพียบ
จากรายชื่อสมาชิกใหม่ของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 จะพบว่ามีหลายๆ สโมสรเป็นทีมเบอร์ต้นของทวีป ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาเองต่างก็ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ในประเทศมาแล้ว ซึ่งจะแบ่งได้ดังนี้
1. เซปาฮาน - อดีตแชมป์ลีกอิหร่าน 5 สมัย
2. เอสเตกัล - อดีตแชมป์ลีกอิหร่าน 9 สมัย
3. อัล นาาเซอร์ - อดีตแชมป์ลีกซาอุดีอาระเบีย 9 สมัย
4. อัล-วาสเซิล - อดีตแชมป์ลีกยูเออี 8 สมัย
5. อัล-ซาวราอา - อดีตแชมป์ลีกอิรัก 14 สมัย
6. อัล-เวห์ดาต - อดีตแชมป์ลีกจอร์แดน 17 สมัย
7. อัล-ฮุสเซน - อดีตแชมป์ลีกจอร์แดน 2 สมัย
8. อัล-มูฮาร์รัค - อดีตแชมป์ลีกบาห์เรน 35 สมัย
9. อัล คัลดิญา - อดีตแชมป์ลีกบาห์เรน 2 สมัย
10. โมหุน บากัน - อดีตแชมป์ลีกอินเดีย 7 สมัย
11. เอฟซี กัว - อดีตแชมป์ลีกอินเดีย 1 สมัย
12. อาร์คาดัก - อดีตแชมป์ลีกเติร์กเมนิสถาน 2 สมัย
13. กัมบะ โอซากะ - อดีตแชมป์ลีกญี่ปุ่น 2 สมัย
14. โปฮัง สตีเลอร์ส - อดีตแชมป์ลีกเกาหลีใต้ 5 สมัย
15. ปักกิ่ง กั๋วอัน - อดีตแชมป์ลีกจีน 1 สมัย
16. บีจี ปทุม ยูไนเต็ด - อดีตแชมป์ลีกไทย 1 สมัย
17. เซลังงอร์ - อดีตแชมป์ลีกมาเลเซีย 2 สมัย
18. นัม ดินห์ - อดีตแชมป์ลีกเวียดนาม 2 สมัย
19. กง อันห์ ฮา นอย - อดีตแชมป์ลีกเวียดนาม 1 สมัย
20. ไท่ โป เอฟซี - อดีตแชมป์ลีกฮ่องกง 2 สมัย
21. อีสเทิร์น - อดีตแชมป์ลีกฮ่องกง 1 สมัย
22. ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส - อดีตแชมป์ลีกสิงคโปร์ 1 สมัย
23. แทมปิเนส โรเวอร์ส - อดีตแชมป์ลีกสิงคโปร์ 5 สมัย
24. คาญา โยอิโล่ - อดีตแชมป์ลีกฟิลิปปินส์ 3 สมัย
25. เปอร์ซิบ - อดีตแชมป์ลีกอินโดนีเซีย 3 สมัย
5. อดีตแชมป์ถ้วยเอเชีย ก็มาอีกเยอะ
นอกจากโทรฟี่ในประเทศ บรรดาสมาชิก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ฤดูกาลปัจจุบัน หลายๆ สโมสรก็เคยคว้าถ้วยเอเชีย มาประดับบารมีกันพอสมควร โดยไล่ตั้งแต่...
1. เอสเตกัล (อิหร่าน) - อดีตแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ในปัจจุบัน) 2 สมัย (1970 และ 1990-91)
2. กัมบะ โอซากะ (ญี่ปุ่น) - อดีตแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ในปัจจุบัน) 1 สมัย (2008)
3. โปฮัง สตีเลอร์ส (เกาหลีใต้) - อดีตแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ในปัจจุบัน) 3 สมัย (1996-97, 1997-98 และ 2009)
4. อัล-มูฮาร์รัค (บาห์เรน) - อดีตแชมป์ เอเอฟซี คัพ ((เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ในปัจจุบัน) 2 สมัย (2008 และ 2021)
5. อาร์คาดัก (เติร์กเมนิสถาน) - อดีตแชมป์ เอเอฟซี คัพ ชาลเลนจ์ คัพ 1 สมัย (2024-25)
6. ค่าเฉลี่ยอายุผู้เล่น
อัล-คัลดิญา จากบาห์เรน คือทีมที่มีค่าเฉลี่ยผู้เล่น 'สูง' ที่สุดของทัวร์นาเมนต์ที่ตัวเลข 29.7 ปี เฉือนอันดับ 2 อย่าง คาญา โยอิโล่ (ฟิลิปปินส์) กับ ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส (สิงคโปร์) ไปเพียง 0.1 เท่านั้น
โดยสิ่งที่ทำให้พวกเขาครองสถิตินี้ก็มาจากการที่ในทีมมีผู้เล่นอายุแตะหลัก 30 มากถึง 14 ราย ซึ่งคนที่อายุมากที่สุดคือ อิสมาอิล อับดุลลาติฟ ในวัย 39 ปี นั่นเอง
ส่วนสโมสรที่ค่าเฉลี่ยผู้เล่น 'น้อย' ที่สุดของทัวร์นาเมนต์คือ อันดิยอน จากอุซเบกิสถาน นั่นเอง กับตัวเลข 25.2 ปี
โดย เดอะ อีเกิ้ลส์ (ฉายา อันดิยอน) มีนักเตะอายุแตะ 30 ขึ้นไปเพียง 4 ราย เท่านั้น แถมบรรดาแข้งไม่เกิน 23 ปี นั้นก็มีมากกว่า 13 คน เลยทีเดียว
7. เงินรางวัลเพิ่มขึ้นแน่ แต่ยังไม่ยืนยันตัวเลข
จากข้อมูลของเว็บไซต์ www.outlookindia.com ได้ระบุว่า 'เงินรางวัล' ของ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ในฤดูกาล 2025-26 จะเพิ่มขึ้นจากซีซั่นที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เพราะเป็นนโยบายสำคัญของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่มุ่งเน้นการพัฒนาในวงกว้าง ดังนั้นเรื่องของตัวเลขจึงจะสูงกว่าเก่า เพื่อเพิ่มความเข้มข้นการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลดีในระยะยาว
ในปีที่ผ่านมาเงินรางวัลรวมอยู่ที่ 14.07 ล้านยูโร (ประมาณ 526 ล้านบาท) โดยทีมแชมป์รับไป 2.1 ล้านยูโร (ประมาณ 79 ล้านบาท)
ส่วนทีมที่เข้ารอบแบ่งกลุ่มได้ขั้นต่ำ รับเงินแน่ๆ 254,027 ยูโร (ประมาณ 9.5 ล้านบาท)
ตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในฤดูกาล 2025-26
8. เต็งแชมป์
แน่นอนว่า อัล นาสเซอร์ ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย่อมเป็น 'เต็งหนึ่ง' ที่จะคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากศักยภาพตัวผู้เล่นที่แทบจะแบ่งออกได้เป็น 2 ทีม แถมแต่ละรายก็พกดีกรีทีมชาติ ทั้งยังโลดแล่นในยุโรป มาเพียบ
ส่วนรองๆ ลงมาคือ อัล วาสเซิล จากยูเออี ที่ก็มีนักเตะต่างชาติจากอเมริกาใต้ เป็นคีย์แมนที่พอจะพลิกสถานการณ์การแข่งขันได้ทุกวินาที
นอกจากนี้คงจะเป็นสองตัวแทนจากอิหร่าน อย่าง เอสเตกัล กับ เซปาฮาน ที่ปกติจะเล่นถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิต ซึ่งประสบการณ์ตรงนี้น่าจะนำไปช่วยในรอบลึกๆ ได้แน่
ขณะที่ฝั่งตะวันออก คงจะมีเพียง กัมบะ โอซากะ และ โปฮัง สตีเลอร์ส เท่านั้นที่พอจะมีลุ้น เนื่องจากมาตรฐานของลีกญี่ปุ่น รวมทั้งเกาหลีใต้ สามารถวัดกับพวกเอเชียตะวันตกได้เสมอ
9. เรื่องของเฮดโค้ช
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือการที่มีถึง 17 สโมสร ที่ใช้เฮดโค้ชคุมทีมยังไม่ถึงปีนำทัพมาสู้ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2
กุนซือชาวไทย อย่าง วรวุฒิ ศรีมะฆะ กับ ศุภชัย คมศิลป์ ก็เป็นอยู่ในข่าย โดยรายแรกอยู่กับ ราชบุรี เอฟซี มาเกือบ 10 เดือน ขณะที่คนหลังนั้นกำกับ บีจ ปีทุม ยูไนเต็ด ได้ 5 เดือนกว่าๆ
แต่ที่ใหม่สุดคือ นอห์ ระห์มาน เทรนเนอร์ชาวสิงคโปร์ ที่เพิ่งถูก แทมปิเนส โรเวอร์ส แต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งเท่ากับว่าเขาจะประเดิมคุมทีมในถ้วยเอเชีย เลยทันที
ส่วนสัญชาติของเฮดโค้ชที่นำมาอันดับหนึ่งเป็นโปรตุเกส กับจำนวน 5 คน รองลงมาคือสเปน ที่ 4 ราย และตามด้วยไทย, ญี่ปุ่น และเติร์กเมนิสถาน ที่ประเทศละ 2 คน
นอกจากนี้ 23 กุนซือ จาก 32 ทีม นั้นเคยเป็นอดีตนักเตะมาก่อน ซึ่งตัวแทนจากไทย ก็เป็นแข้งทีมชาติทั้งนั้น ทั้ง วรวุฒิ, ศุภชัย และ ธชตวัน ศรีปาน
10. 3 ตัวแทนจากไทย และความท้าทายที่รออยู่
แบงค็อก ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี คือ 3 ความภาคภูมิที่สยามประเทศส่งเข้าประกวด ทว่าแต่ละทีมนั้นต้องเผชิญหน้ากับความยาก-ง่ายแตกต่างกันไป
ราชบุรี ที่ได้สิทธิ์แข่งขันแทนที่สโมสรเกาหลีเหนือ นั้นต้องเจอศึกหนักพอสมควร เมื่ออยู่ร่วมกลุ่มกับ กัมบะ โอซากะ และ นัม ดินห์ ซึ่งน่าจะต้องวัดอันดับสองกับทีมจากเวียดนาม แต่ก็ห้ามประมาท อีสเทิร์น เช่นกัน
แบงค็อก นี่ถือว่าสัหัสที่สุด เพราะมีทั้ง ไลอ้อน ซิตี้ เซเลอร์ส, เซลังงอร์ และ เปอร์ซิบ ซึ่งแม้จะเป็นอาเซียน ด้วยกันทั้งหมด แต่ทุกทีมต่างก็แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะบียู โดยเฉพาะแชมป์ลีกสิงคโปร์ ที่เอาชัยเหนือสโมสรไทย อย่าง การท่าเรือ เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้แบบไป-กลับ เมื่อฤดูกาล 2024-25
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ดูจะเบากว่าเพื่อน แต่ก็มี โปฮัง สตีเลอร์ส ที่มาตรฐานสูงกว่าแน่นอน ดังนั้นจึงต้องวัดกับ คาญา โยอิโล่ และ แทมปิเนส โรเวอร์ส เพื่อทะลุรอบน็อก-เอาต์ให้สำเร็จ