โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ระเบิดฟอร์มสุดคลาสสิค จัด 2 แอสซิสต์พา อัล อาห์ลี ซิวแชมป์เอเชียสมัยแรก ก่อนเปิดใจซาบซึ้งถึงแฟนบอล พร้อมกล่าวถึง ลิเวอร์พูล อดีตต้นสังกัดแบบอบอุ่นหัวใจ
เส้นทางชีวิตที่ ซาอุดีอาระเบีย ของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล ไม่ได้สวยงามนัก เมื่อเขาถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมลีกตอนเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม บนเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก เจ้าตัวได้กลายเป็นฮีโร่ของทีมในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่เจอ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ตัวแทนจาก เจลีก ญี่ปุ่น เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟีร์มีโน่ ถวายพานให้ กาเลโน่ ยิงออกนำตอนนาที 35 ก่อนที่แข้งแซมบ้า เบิ้ลแอสซิสต์โยนบอลเข้าหัว ฟร้องค์ เกสซีเร์ โขกปิดกล่องให้ อัล อาห์ลี เอาชนะไป 2-0 พร้อมคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยแรก
หลังจบเกม ฟีร์มีโน่ วัย 33 ปีที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม พร้อมกับเป็นคนที่ได้ชูโทรฟี่ใบนี้ได้กล่าวผ่าน CBS Sports ด้วยข้อความสุดซาบซึ้งถึงแฟนบอล
"ไม่มีคำใดจะอธิบายสิ่งที่ผมรู้สึกอยู่ในใจได้ พวกเขาตัดผมออกจากทีมในลีก แต่ยังใส่ชื่อผมไว้ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และผมไม่ยอมแพ้ ผมไม่มีวันยอมแพ้"
"ผมทราบดีว่าใครพาผมมาที่นี่ และผมอยากมอบทุกสิ่งอย่างกลับคืนทั้งหมดแด่พระเจ้า เพราะพระองค์ทรงรู้แผนที่มีไว้เพื่อเรา มันเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้"
นอกจากนี้ ฟีร์มิโน่ ยังบอกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากอีกด้วยว่า "ผมต้องอยู่ข้างสนามเป็นเดือน ๆ โดยไม่ได้ลงเล่น มันยากมากจริง ๆ แต่คุณต้องเชื่อ ต้องสู้"
ทั้งนี้ "บ็อบบี้" ทำผลงานใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีลิท ได้ดีเอามาก ๆ โดยทำประตูกับแอสซิสต์รวมกัน 13 ลูก(6 ประตู 7 แอสซิสต์) จากการลงเล่น 10 นัด และคว้า MVP ประจำทัวร์นาเมนต์ไปครอบครอง