จากคำวิจารณ์สู่การสดุดี: บทพิสูจน์ที่แฟนบอลไทยต้องยอมรับ?

จากคำวิจารณ์สู่การสดุดี: บทพิสูจน์ที่แฟนบอลไทยต้องยอมรับ?
ประวัติศาสตร์ลูกหนังแห่งแดนอาทิตย์อุทัยได้ถูกจารึกไว้อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่! คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ยอดทีมที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งจังหวัดอิบารากิ ได้แสดงให้เห็นถึงความเกรียงไกรเหนือกาลเวลา ด้วยการผงาดคว้าแชมป์ศึก "เมจิ ยาสึดะ เจวัน ลีก" ฤดูกาล 2025 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี

การคว้าแชมป์ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชัยชนะธรรมดา แต่คือการตอกย้ำถึงการกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ของพลพรรค 'กวางเขาเหล็ก' ที่หายห่างจากโทรฟี่ลีกสูงสุดไปนานถึง 8 ปีเต็ม 

ส่งผลให้สถิติแชมป์ลีกสูงสุดของสโมสรพุ่งทะยานสู่ สมัยที่ 9 ทันที และทำให้ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ยังคงสถานะเป็น "ราชาแห่งเจลีก" ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศอย่างไม่มีใครเทียบเคียงได้

ย้อนกลับไปที่รากเหง้าสโมสร คาชิม่า แอนท์เลอร์ส มีจุดเริ่มต้นอันยาวนานตั้งแต่ปี 1947 ภายใต้ชื่อ "ซูมิโตโมะ เมทัล เอฟซี" และเมื่อประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวในปี 1993 พวกเขาก็เป็นหนึ่งใน 10 สโมสรผู้ร่วมก่อตั้ง "เจลีก" 

และนับแต่นั้นเป็นต้นมา "กวางเขาเหล็ก" ก็ไม่เคยหลุดจากวงโคจรของทีมชั้นนำ และได้สร้างตำนานความสำเร็จที่ไม่มีทีมใดทำได้เทียบเท่าจนถึงทุกวันนี้

ตลอดหน้าประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ของสโมสร มีเพียงสุดยอดกุนซือเพียง 4 ท่านเท่านั้น ที่เคยนำทัพกวางเขาเหล็กคว้าถ้วยแชมป์ "เจลีก 1" ได้สำเร็จ ก่อนที่ชื่อของคนล่าสุดจะถูกจารึกเพิ่มเข้าไป

  • ออสวัลโด้ เดอ โอลิเวร่า (ปี 2007, ปี 2008, ปี 2009)
  • โตนินโญ่ เซเรซโซ่ (ปี 2000, ปี 2001)
  • ชูเอา คาร์ลอส (ปี 1996, ปี 1998)
  • มาซาทาดะ อิชิอิ (ปี 2016)
  • และคนล่าสุด โทรุ โอนิกิ (ปี 2025)

หากจะกล่าวถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้ ชื่อของ "โทรุ โอนิกิ" เฮดโค้ชผู้มากประสบการณ์ ย่อมถูกกล่าวถึงเป็นคนแรก!

ก่อนจะเข้ามากุมบังเหียนทัพคาชิม่าในฤดูกาลนี้ โอนิกิเคยพา คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาแล้วถึง 4 สมัย การพา คาชิม่า แอนท์เลอร์ส กลับมาครองแชมป์เจลีกได้อีกครั้งในรอบ 9 ปี จึงถือเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็น สมัยที่ 5 ในชีวิตการเป็นกุนซือของเขา

ด้วยจำนวนแชมป์ที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คงไม่มีข้อกังขาใดๆ หากจะยกคำว่า "มิสเตอร์แชมเปียนส์" ให้กับชายผู้นี้อย่างสมบูรณ์แบบ!

แต่ความสำเร็จของโอนิกิยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น! การคว้าแชมป์กับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ยังทำให้เขากลายเป็นกุนซือคนแรกของ เจลีก ที่สามารถคว้าแชมป์ "เจลีก 1" ได้กับ 2 สโมสร (คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ และ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส)

นอกจากนี้ยังเป็นกุนซือคนที่ 2 ของวงการฟุตบอลเจลีก ต่อจาก มาซาทาดะ อิชิอิ ที่คว้าแชมป์ "เจลีก 1" ได้ทั้งในฐานะ กุนซือ และ ผู้เล่นของสโมสร! (โอนิกิเป็นแชมป์กับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส สมัยเป็นผู้เล่นปี 1996)

เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ แต่... โทรุ โอนิกิ คือคนเดียวกับที่เคยถูกแฟนบอลชาวไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงที่คุมทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ค่อยส่ง "เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงสนามมากนักในช่วงเวลานั้น

แต่ในวันนี้... บุรุษที่เคยตกอยู่ภายใต้กระแสวิจารณ์คนนี้ กลับกลายเป็นเฮดโค้ชผู้สร้างประวัติศาสตร์และถูกยกย่องจากแฟนบอลทั่วทั้งแดนอาทิตย์อุทัยอย่างกึกก้อง

นี่คือบทพิสูจน์ชั้นดีที่แสดงให้เห็นว่า ในโลกของฟุตบอลอาชีพนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผลลัพธ์ และ ความสำเร็จ ที่ถูกจารึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม

การกลับคืนสู่บัลลังก์ของ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ภายใต้การนำของ โทรุ โอนิกิ จึงไม่ใช่แค่การได้แชมป์ แต่คือการเริ่มต้นบทใหม่ของตำนานที่กำลังจะถูกเล่าขานไปอีกนานเท่านาน!

โทรุ โอนิกิ ได้ใช้ความสำเร็จเป็นเครื่องมือในการสยบทุกเสียงวิจารณ์ ทุกคำกังขาที่เคยมีต่อเขา สำหรับใครที่เคยตั้งคำถามในตัวเขา สำหรับใครที่เคยตัดสินเขาจากมุมมองอันจำกัดในช่วงเวลาหนึ่ง วันนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่า การตัดสินผู้คนจากแค่ชั่วขณะหรือจากเหตุการณ์เดียว เป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์

การกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ของกวางเขาเหล็ก นี่คือการกลับมาอย่างผู้ชนะที่แท้จริง! ความสำเร็จของโอนิกิได้ส่งเสียงดังกว่าคำพูดใดๆ และได้มอบบทเรียนอันล้ำค่าให้กับวงการฟุตบอลว่า... จงอย่าดูถูกศักยภาพของมืออาชีพ

เขาคือ "มิสเตอร์แชมเปียนส์" ตัวจริงเสียงจริง และนี่คือยุคสมัยใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือของเขา!

-กอล์ฟ เบนเทเก้-



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport