อุราวะ เรดส์ และ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ผนึกกำลังสร้างโมเดลความร่วมมือกีฬา–ธุรกิจในเอเชีย ผ่านโครงการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนไทยและอาเซียน สร้างคุณค่าใหม่ทั้งต่อสโมสร แบรนด์ และสังคม
คอลัมน์พิเศษ: อุราวะ เรดส์ × มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์
แปลและเรียบเรียงโดย ทีมข่าว SIAMSPORT
อ้างอิงต้นฉบับโดย: 小山 恵 (เค โคยามะ)
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทีมกีฬาญี่ปุ่นเร่งขยายบทบาทในตลาดเอเชีย ท่ามกลางการแข่งขันระดับนานาชาติที่ดุเดือด การร่วมมือกันระหว่าง สโมสร และ ภาคธุรกิจ เพื่อสร้างมูลค่าร่วมในต่างแดนยังไม่ใช่เรื่องแพร่หลาย แต่ อุราวะ เรดส์ และ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสทรีส์ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บุกเบิก
อุราวะ เรดส์ คือสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย เจ้าของแชมป์ เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย โดยเฉพาะในประเทศไทย แฟนบอลรู้จักดีจากผลงานใน ACL และนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นที่เคยค้าแข้ง เด็กไทยจำนวนมากถึงกับตั้งความฝันว่า “อยากเล่นให้อุราวะ เรดส์” ในอนาคต
ด้าน มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ มีพนักงานกว่า 7,000 คนในไทย ดำเนินธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ เครื่องจักร ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐาน จุดแข็งคือรากฐานธุรกิจแข็งแกร่ง แต่ในแง่ “คุณค่าทางใจ” อย่างความผูกพันระหว่างพนักงานกับแบรนด์ ยังต้องการต่อยอด
ความร่วมมือเริ่มชัดเจนเมื่อ อุราวะ เรดส์ จับมือ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนนักเตะ–โค้ช และการสนับสนุนเยาวชน ขณะที่ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ ก็ก้าวเข้ามาเป็นสปอนเซอร์เมืองทอง ทำให้เกิดโครงการที่เชื่อมโยงทั้ง สโมสร–บริษัท–สังคม
ไฮไลต์คือการจัดทัวร์นาเมนต์ Mitsubishi Heavy Industries Diamond Cup U-14 Thailand ที่จัดมาแล้ว 4 ครั้ง และดึงทีมจากสิงคโปร์–ออสเตรเลียมาร่วมแข่งขัน ขณะที่อุราวะ เรดส์ U-14 ลงแข่งทุกปี การมีเวทีระดับนานาชาติในไทย ซึ่งยังขาดระบบเยาวชนที่แข็งแรง ถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่าของเด็กๆ
ทุกปี นักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์จะได้รับเชิญไปฝึกซ้อมกับ อะคาเดมีของอุราวะ เรดส์ ที่ญี่ปุ่น เปิดโลกทั้งด้านฟุตบอลและวัฒนธรรม หลายคนต่อยอดจนติดทีมชาติชุดเยาวชนแล้ว นี่จึงถูกมองว่าเป็น “บันไดสู่ความฝัน” ของเด็กไทย
ในขณะเดียวกัน มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ ยังจัดกิจกรรม Soccer Clinic ให้ครอบครัวพนักงานในไทย ได้รับการสอนจากโค้ชอุราวะ เรดส์โดยตรง เสริมความภูมิใจและความผูกพันกับองค์กร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่แข้ง U-14 เยือนโรงงานและเตะฟุตบอลกระชับมิตรกับพนักงานท้องถิ่น สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเชื่อมโยงกันแน่นแฟ้น
แตกต่างจากสโมสรยุโรปที่เข้ามาเอเชียเพื่อ “เก็บเกี่ยวรายได้” เช่น ทัวร์ปรีซีซั่น ขายนักเตะสตาร์ หรือขายของที่ระลึก อุราวะ เรดส์ และ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ เลือกเส้นทาง “สร้างตลาดร่วมกัน” ลงทุนระยะยาวเพื่อพัฒนารากฐานฟุตบอลและสังคมในภูมิภาค
ยาจิมะ ตัวแทนจากอุราวะ เรดส์ ชี้ชัดว่า สิ่งสำคัญคือ “ความต่อเนื่อง” เด็กที่เคยลงเล่น Diamond Cup เมื่อ 4 ปีก่อน กำลังเข้าสู่วัย 18 ปีและเตรียมเป็นนักเตะอาชีพแล้ว ซึ่งประสบการณ์ในวันนั้นอาจหล่อหลอมให้พวกเขาก้าวสู่ทีมชาติหรือสโมสรใหญ่ได้ในอนาคต
โมเดลนี้ไม่ได้จำกัดแค่ฟุตบอล เช่น โอซาก้า บลูเทออน ทีมวอลเลย์บอลใน SV ลีก ก็ร่วมมือกับ พานาโซนิก ทำกิจกรรมในไทยแบบเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าโมเดล “สโมสร–บริษัท–สังคม” ของญี่ปุ่นสามารถต่อยอดได้กับหลายชนิดกีฬา
สำหรับ อุราวะ เรดส์ และ มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ เป้าหมายต่อไปคือการขยายไป เวียดนามและอินโดนีเซีย เพื่อสร้างฝันให้เยาวชนอาเซียน และยกระดับกีฬาเอเชียทั้งภูมิภาค
ความร่วมมือนี้ก่อให้เกิด สามฝ่ายได้ประโยชน์
สโมสร ได้ฐานแฟนใหม่ในต่างแดน
บริษัท ได้พนักงานและครอบครัวที่ผูกพันกับแบรนด์
สังคม ได้เวทีพัฒนาเยาวชนและวัฒนธรรมกีฬา
อุราวะ เรดส์ คือ “แรงบันดาลใจ” ส่วน มิตซูบิชิ เฮฟวี่ฯ คือ “ผู้ร่วมวิ่งเคียงข้าง” สองพลังนี้กำลังสร้างโมเดลใหม่ให้กีฬาและธุรกิจญี่ปุ่นก้าวไกลในเอเชีย