โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ทีมแชมป์เจลีก 5 สมัย ทำผลงานสุดตกต่ำในฤดูกาล 2025 เก็บได้แค่ 8 แต้มจาก 13 นัด จมบ๊วยตาราง เสี่ยงตกชั้นครั้งแรกในรอบ 32 ปี แม้แต่งตั้ง แพทริค คริสนอร์โบ ยังหยุดวิกฤตไม่อยู่
ฟุตบอลลีกสูงสุดของญี่ปุ่น เจลีก 1 ฤดูกาล 2025 เดินหน้าทำการแข่งขันเข้าสู่แมตซ์ที่ 16 ของฤดูกาล สโมสรที่ดูอาการจะหนักหนาสาหัสชนิดกู่ไม่กลับเห็นจะหนีไม่พ้น โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยอดทีมที่คว้าแชมป์เจลีก 5 สมัย ณ ปัจจุบันจมบ๊วยของตารางคะแนน ลงเล่น 13 เกม เก็บได้เพียง 8 แต้ม จากผลงาน ชนะ 1 เสมอ 5 แพ้ 7 แม้ว่าจะเตะน้อยกว่าโปรแกรมปกติแต่สิ่งที่เกิดขึ้นดูน่าใจหายสุดๆ
1 ใน 2 ทีมที่เล่นเจลีก 1 ครบทุกฤดูกาล
โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส คือ 1 ใน 2 ทีม ยุทธจักรลูกหนังเจลีก ที่ลงเล่นบนลีกสูงสุดครบทุกฤดูกาล เช่นเดียวกับ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ที่ยืนระยะมาตั้งแต่ฤดูกาล 1993 จนถึงปัจจุบัน
ผลงานที่ย่ำแย่สุดๆของสโมสรก่อนหน้านี้ตั้งแต่ลงทำการแข่งขันเจลีก 1 คือฤดูกาล 2001 พวกเขาจบอันดับ 13 จาก 16 ทีม แต่ปีนั้นยังดีที่มีแชมป์ลีก คัพ ติดมือ
32 ฤดูกาลที่ผ่านมา มารินอส หลุดไปจบอันดับเลขคู่เพียงแค่ 4 ครั้ง 2001,2009,2016,2018 ที่เหลือเลขตัวเดียวทั้งหมดแถมเป็นแชมป์ 5 ครั้ง รองแชมป์ 5 ครั้ง จบท็อปไฟว์ 17 ครั้ง
บริวาร แอนจ์ ปอสเตโคกลู เติบโตลำพังไม่ได้
แอนจ์ ปอสเตโคกลู หรือ อังเก้ กุนซือชาวออสเตรเลียเข้ามาบริหารทีมในปี 2018 พร้อมกับการปูระบบการเล่นใหม่ให้สนุกเร้าใจ ผลงานปีแรกอาจจะดูไม่เด็ดดวงนักพาทีมจบอันดับ 12 แต่รากฐานที่เริ่มออกดอกผลทันทีในช่วงคุมทัพ พาทีมคว้าแชมป์เจลีก 2019 พร้อมกับยุทธวิธีที่แข็งแกร่งยืนระยะต่อเนื่อง
แน่นอนว่าการเติบโตของบริวารข้างกายก็ได้ซึมซับแนวทางไปด้วย ทั้ง ปีเตอร์ ชคัลมอฟกี้, อาเธอร์ ปาปาส,จอห์น ฮัตชินสัน หรือแม้กระทั่งคนอื่นๆ ที่สุดแล้วการเติบโตของบรรดาสต๊าฟเหล่านี้เมื่อต้องเป็นหัวเรือเองยังไปได้ไม่สุด
ระบบการเล่นที่แข็งแกร่งเพรสซิ่งเร็วเกมรุกดุดันทำให้มารินอสเติบโตไม่หยุด เพียงแต่ว่าการโบกมือลาของ แอนจ์ กุนซือชาวออสเตรเลีย เริ่มทำให้ทีมคลายตัวในแง่ของคุณภาพ มีเพียง เควิน มัสแคต กุนซือตัวเลือกที่ แอนจ์ เลือกมาให้สโมสรดูจะมีแพสชั่นการเล่นใกล้เคียงกันทำให้ความสำเร็จยังเกิดต่อไปด้วยการคว้าแชมป์เจลีก 2022
แต่การแต่งตั้งกุนซือหลังจากนั้นผ่านแนวทางของทีมที่วางระบบมาอย่างยาวนานเริ่มผลิดอกออกผลทางลบมากกว่าบวกตั้งแต่การคว้าตัว แฮร์รี่ คีเวล เข้ามาทำงาน อยู่ไม่ครบเทอม หลังจากนั้น ฤดูกาลนี้เลือกตัว สตีฟ ฮอลแลนด์ เข้ามาทำทีมยิ่งทำให้ยุทธวิธีการเล่นของมารินอสไม่เสถียรสุดท้ายต้องโบกมือลา ก่อนที่จะแต่งตั้ง แพทริค คริสนอร์โบ คุมทัพแต่ผลงานยังดูสาหัสเพราะ 4 เกมพ่ายรวด
8 แต้มในมือ กับสถานการณ์สุดวิกฤต
นอกจากเรื่องของแนวทางการเล่นของทีมที่ลดคุณภาพลงแล้ว ตัวผู้เล่นแกนหลักเริ่มโรยรารวมไปถึงย้ายทีมออกไป แต่เมื่อวิกฤตเกิดปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขเพื่อให้ทีมอยู่รอดและกลับมาสู่การไล่ล่าเลขตัวเดียวในช่วงโปรแกรมที่เหลืออยู่ก่อนกลายเป็นเรื่องสำคัญภายใต้การคุมทัพของ แพทริค คริสนอร์โบ
สิ่งที่ดูแล้วไม่ง่ายคือเรื่องของโปรแกรมการแข่งในลีกที่วางอยู่ 5 เกมหน้าถือว่าหินสุดๆ
14 พ.ค.68 พบ คาชิว่า เรย์โซล (อันดับ 2/ เหย้า)
17 พ.ค.68 พบ เกียวโต ซังงะ (อันดับ 3/เหย้า)
21 พ.ค.68 พบ วิสเซล โกเบ (อันดับ 9/เหย้า)
25 พ.ค.68 พบ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส (อันดับ1/เหย้า)
31 พ.ค.68 พบ มาชิดะ เซลเวีย (อันดับ 10/เยือน)