เรอัล มาดริด ทำสถิติสุดย่ำแย่เมื่อยิงตรงกรอบได้เพียง 1 ครั้งในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่แพ้ แมนซิตี้ 1-2 คารังเบร์นาเบว แม้ครองบอลมากกว่า โดย ชาบี อลอนโซ่ ย้ำไม่โทษลูกทีมและโฟกัสแค่นัดต่อไปเท่านั้น
เรอัล มาดริด มีจังหวะยิงตรงกรอบแค่ 1 ครั้งในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 คารัง เบร์นาเบว จนทำให้นี่เป็นการเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้าน นัดที่พวกเขามีชอตยิงตรงกรอบน้อยที่สุดนับตั้งแต่ที่ อ็อปต้า เริ่มบันทึกสถิติตั้งแต่ฤดูกาล 2003-004 เป็นต้นมา
เกมนี้ มาดริด มีจังหวะยิงรวม 16 ครั้ง มากกว่า แมนซิตี้ ที่ทำไป 12 หน แถมเจ้าบ้านยังมีเปอร์เซ็นต์ครองบอล 52 เปอร์เซ็นต์ ขะที่ทีมเยือนทำได้ 48 เปอร์เซ็นต์ด้วย
อย่างไรก็ตาม ความแม่นยำในการยิงมันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเพราะ "ราชันชุดขาว" ยิงตรงกรอบแค่หนเดียว ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" มีชอตแบบนั้นถึง 8 หน ซึ่งมันก็ทำให้ค่าจำนวนประตูที่น่าจะทำได้ (Expected goals) ของ มาดริด อยู่ที่เพียง 1.44 ลูกเท่านั้น ส่วนของ แมนซิตี้ สูงถึง 2.54 ลูก
นี่ยังถือเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของ มาดริด กับการเล่น ยูโรเปี้ยน คัพ/แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย ที่พวกเขานำคู่แข่งไปก่อนแต่พอถึงช่วงพักครึ่งกลับเป็นฝ่ายตามหลัง โดยครั้งแรกคือเกมกับ สปาร์ตัก มอสโก เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ปี 1991 ซึ่งครั้งนั้นเป็นเกมรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง โดยที่ มาดริด ตามหลัง 1-2 ตอนจบครึ่งแรก ก่อนจะแพ้ 1-3 และตกรอบด้วยสกอร์รวมดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาบี อลอนโซ่ เทรนเนอร์ มาดริด กล่าวว่าไม่คิดจะโทษลูกทีมแต่อย่างใด พร้อมบอกว่าไม่ได้คิดถึงอนาคตของตัวเองด้วย "วันนี้เราเริ่มเกมได้ดีมากๆ แต่แล้วมันก็มีช่วงที่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรก็เล่นงานเราได้ พวกเขาแซงนำเราภายในช่วงเวลาแค่ 10 นาทีเท่านั้น เราคุมสถานการณ์ได้ไม่ดี แต่ในครึ่งหลังเราคุมเกมได้จนจบ เราแค่ขาดทักษะบางอย่างเท่านั้น ผมไม่โทษลูกทีมของผมเลยสำหรับสิ่งที่เกิดข้นในวันนี้"
"อนาคตของผมมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม ตอนนี้ผมสนใจแค่การนำทีมลงเล่นนัดต่อไป (เกมลีกกับ เดปอร์ติโบ อลาเบส) เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรอัล มาดริด ไม่ใช่ผม"