ลิเวอร์พูล1-0เรอัล มาดริด:แบรดลีย์ เอาอยู่,อลอนโซ่ หงอยซ้ำ! 5 ประเด็นหงส์คืนฟอร์มคว่ำราชันเกม UCL

1. หงส์ส่ง เวียร์ตซ์ สตาร์ทแทน กัคโป

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือทีม ลิเวอร์พูล ตัดสินใจส่ง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ กลับมาเป็นตัวจริงในเกมดวลกับ ชาบี อลอนโซ่ เจ้านายเก่าในทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

เทียบจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านคว่ำ แอสตัน วิลล่า 2-0 เมื่อวันเสาร์ นายใหญ่ดัตช์ปรับทัพรายเดียวโดยสตาร์ทีมชาติ เยอรมนี เขี่ย โคดี้ กัคโป ไปนั่งข้างสนามโดยอดีตขุนพลทีม ห้างยา ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในถ้วยหูใหญ่ให้ เร้ด แมชีน ครบทั้งสี่นัด

พร้อมกันนี้ สล็อต ยืนยันด้วยว่า เวียร์ตซ์ จะเล่นเป็นปีกซ้ายในเกมนี้แทนดาวเตะทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ขณะที่ โม ซาลาห์ ซึ่งยิงประตูได้ในเกมชนะ สิงห์ผงาด ลงบู๊ที่ แอนฟิลด์ ครบ 200 นัดภายใต้สีเสื้อของ หงส์แดง

และที่สำคัญ เกมนี้สร้างสถิติใหม่ใน แอนฟิลด์ ด้วยการมีผู้ชมมากที่สุดในเกมยุโรป 59,916 ชีวิต

2. ราชันจับ เทรนต์ สำรองตามคาด

ชาบี อลอนโซ่ โค้ชทีม เรอัล มาดริด วางหมากด้วยการใส่ชื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล เป็นตัวสำรองตามความคาดหมาย พร้อมใช้งาน เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ กองกลางทีมชาติ อุรุกวัย เล่นเป็นแบ็คขวาต่ออีกเกม

รวมแล้ว จ่าฝูง ลา ลีกา ปรับทัพตำแหน่งเดียวเช่นกันจากเกมลีกนัดเฝ้าบ้านถล่ม บาเลนเซีย 4-0 เมื่อวันเสาร์โดย เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า เสียบแทน ฟรังโก้ มาสตานตูโอโน่ ที่มีปัญหาเจ็บขาหนีบ และไม่ได้เดินทางมากับทีม

สำหรับ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ครบ 50 นัดพอดี และในวัย 22 ปี 128 วัน เขากลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นถ้วยนี้ผ่านมาถึงครึ่งร้อยนัด

3. แบรดลีย์ สอบผ่านฉลุย

ซีซั่นก่อน คอเนอร์ แบรดลีย์ แบ็คขวา ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบ ลีก เฟส ที่ หงส์แดง เปิดบ้านต้อนรับ เรอัล มาดริด

คราวนั้น ดาวเตะทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ มีหน้าที่ต้องตามประกบ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และเขาเล่นได้อย่างแข็งแกร่งกระทั่งมีส่วนช่วยให้ เร้ด แมชีน กำชัย 2-0

สำหรับเกมนี้ เด็กปั้นของ ลิเวอร์พูล ต้องตามคุม วินิซิอุส จูเนียร์ ที่นัดก่อนพลาดการลงเล่นเนื่องจากบาดเจ็บ และเขาใส่กุญแจมือดาวเตะทีมชาติ บราซิล ได้อย่างเหนียวแน่น

เท่านั้นไม่พอ แบรดลีย์ กล้าเติมเกมรุกในทุกจังหวะอีกต่างหาก และส่งผลให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ต้องไล่กวดไปทำฟาวล์พร้อมรับใบเหลืองตามระเบียบ

นอกจาก แบรดลีย์ ซึ่งจัดการกับดาวดังแซมบ้าได้อย่างไร้ปัญหาตลอด 90 นาทีแล้ว เกมรุกของทีมเจ้าบ้านมี โดมินิค โซโบซไล เล่นได้อย่างอันตราย และหาโอกาสส่องไกลได้อย่างน่าหวาดเสียวหลายหน แต่น่าเสียดายที่ไม่ผ่านมือ ติโบ กูร์กตัวส์ ซึ่งงัดฟอร์มหนึบช่วยเซฟ ราชันชุดขาว ได้สำเร็จจนทำให้สกอร์ใน 45 นาทีแรกยังนิ่งที่ 0-0

จบครึ่งแรก เรอัล มาดริด ครองบอลได้มากกว่าถึง 60.6%:39.4% แต่เป็น ลิเวอร์พูล ที่หาช่องส่องประตูได้มากกว่า 9:5 ครั้ง รวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 4:2 ครั้ง

4. ชุดขาวลองของจนได้เรื่อง

แม้จะรอดพ้นจากการเสียประตูอยู่นานสองนาน แต่ในที่สุด เรอัล มาดริด ก็ตาข่ายขาดจนได้ในนาทีที่ 61 จากจังหวะที เบลลิ่งแฮม ทำฟาวล์ ไรอัน กราเฟนแบร์ก หน้าเขตโทษจนเสียลูกฟรีคิก พร้อมซิวใบเหลือง

จากจังหวะดังกล่าว โซโบซไล ซึ่งน่าจะสอยตาข่ายได้หลายหนในครึ่งแรกสาดบอลไปหน้าประตูให้ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ โขกผ่านแสกหน้า กูร์กตัวส์ ได้สำเร็จพา เร้ด แมชีน นำ 1-0

จากที่เห็น ก่อนที่เจ้าบ้านจะได้ประตู ราชันชุดขาว ออกลูกดาวยั่วหลายหนด้วยการทำฟาวล์หน้าเขตโทษอย่างไม่ลดละจนเสี่ยงที่จะเสียประตูหลายครั้งหลายครา ดีที่ว่าได้นายทวารทีมชาติ เบลเยี่ยม ปัดป้องได้ตลอด แต่สุดท้าย กูร์กตัวส์ ซึ่งโดนทดสอบความหนึบหลายหนก็ช่วยทีมไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง

สำหรับประตูดังกล่าวถือเป็นประตูแรกในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ของดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า  และเป็นประตูแรกที่เขาทำได้ต่อจากการสอยตาข่าย เรอัล มาดริด เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2024 ในรอบ ลีก เฟส ซีซั่นก่อน รวมแล้วสตาร์ละตินยิงได้สามประตูในรายการนี้

นอกจากนี้ ประตูนำของ หงส์แดง ทำให้พวกเขาคลำเป้าในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ครบ 300 เม็ดพอดี

หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด ได้ด้วยสกอร์ 1-0 ลิเวอร์พูล ยังครองบอลเป็นรอง 38.8%:61.2% แต่ได้ยิงมากถึง 17:8 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบเหนือกว่า 9:2 ครั้ง

5. อลอนโซ่ หงอยซ้ำสอง

เป็นอันว่า อลอนโซ่ ประสบกับความปราชัยต่อ ลิเวอร์พูล สองเกมติดต่อกันแล้วจากการคุมทีมทั้งสองสโมสร

ในรอบ ลีก เฟส ซีซั่นก่อน กุนซือสแปนิช พาทีม เลเวอร์คูเซ่น บุกมาเยือน แอนฟิลด์ และแพ้ไปอย่างย่อยยับ 4-0 ในเกมเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2024

มาคราวนี้ อลอนโซ่ ได้บู๊กับ สล็อต อีกหนหลังผ่านมาหนึ่งปี และเขามีอันต้องแพ้ ลิเวอร์พูล อีกตามเคยด้วยสกอร์ 1-0 ชนิดที่หากไม่ได้ กูร์กตัวส์ ช่วยลดบาดแผล เรอัล มาดริด น่าจะโดนถลุงไม่ต่างอะไรกับทีม ห้างยา

ขณะเดียวกัน หลังกำชัยได้ 1-0 ลิเวอร์พูล สานต่อสถิติน่าตะลึงโดยพวกเขาไม่เสมอในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก และ รอบ ลีก เฟส นานถึง 30 นัดติดต่อกันแล้วโดยหนสุดท้ายพวกเขาบุกไปเจ๊ากับ มิดทิลแลนด์ ด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อเดือนธ.ค.2020 (ชนะ 25 แพ้ 5)