แฟร้งค์เฟิร์ต 1-5 ลิเวอร์พูล: เวียร์ตซ์ ประเดิมแอสซิสต์! 5 ข้อหงส์ระบายคลั่งจิกอินทรีแดงดำเละ

1. ซาลาห์สำรองสองเกมติดถ้วยชปล.หนแรก

อาร์เน่อ สล็อต กุนซือทีม ลิเวอร์พูล ปรับโผนักเตะตัวจริงรวมห้าตำแหน่งหลังจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ซึ่งทำให้พวกเขาปราชัยสี่นัดรวดในทุกรายการ

เป็นไปตามคาดที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ได้ออกสตาร์ตเนื่องจากสตาร์ทีมชาติ เยอรมนี คุ้นเคยกับฟุตบอลในบ้านเกิดเป็นอย่างดี ขณะที่ อูโก้ เอกิติเก้ หัวหอกเลือดน้ำหอมได้ดวลกับทีมเก่า

สำหรับ โม ซาลาห์ โดนดร็อปไปนั่งข้างสนามซึ่งเป็นครั้งแรกที่กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ ตกเป็นตัวสำรองในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก สองนัดติดต่อกันนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ หงส์แดง ในปี 2017

นอกจากนี้ เคอร์ติส โจนส์ ถูกส่งลงบู๊เนื่องจาก ไรอัน กราเฟนแบร์ก บาดเจ็บจากเกมแดงเดือด

2. หงส์โดนสอยตาข่ายก่อนตามเคย

จากรูปเกมที่ปรากฏในช่วงต้น ลิเวอร์พูล ยังรื้อฟื้นฟอร์มที่แข็งแกร่งไม่สำเร็จ และเป็นอีกนัดที่พวกเขาโดนคู่แข่งสอยตาข่ายก่อนในนาทีที่ 26 จากจังหวะที่ เวียร์ตซ์ ดื้อดึงครองบอลนานเกินเหตุกระทั่งถูกแย่งจนโดนเจ้าบ้านโต้กลับ และเป็น ราสมุส คริสเตนเซ่น แบ็คขวาทีมชาติ เดนมาร์ค อดีตกองหลัง ลีดส์ เติมไปซัดบอลตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาด

จากสกอร์ดังกล่าว หมายความว่า เร้ด แมชีน ตาข่ายขาดก่อนอีกตามเคยเป็นเกมที่ห้าติดต่อกันแล้วโดยก่อนหน้านี้สี่นัด ทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์เป็นฝ่ายปราชัยทั้งหมด

อย่างไรก็ดี หลังขึ้นนำ อินทรีแดงดำ เกิดอาการย่ามใจ และเดินหน้าหมายทำประตูเพิ่มก่อนโดนทีมเยือนโต้กลับซึ่งส่งผลให้ เอกิติเก้ เจ้าของค่าตัว 69 ล้านปอนด์ได้ลูกจ่ายจาก แอนดี้ โรเบิร์ตสัน หลุดเดี่ยวไปยิงประตูทีมเก่าให้ เร้ด แมชีน ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 35

เท่านั้นแหละ สกอร์ก็ไหลมาเทมา แต่เป็นทีมเยือนฝ่ายเดียวที่ได้เฮ จวบจนหมดเวลา ลิเวอร์พูล คว้าชัยไปแบบขาดลอย 5-1 ซึ่งเป็นเกมแรกในห้านัดหลังที่พวกเขากำชัยได้แม้จะโดนทะลวงประตูก่อน แถมสร้างสถิติที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ด้วยโดยพวกเขาได้โอกาสยิงประตูรวม 18 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบได้มากถึง 14 ครั้งซึ่งอาจเป็นนิมิตรหมายบ่งชี้ให้เห็นว่า เครื่องจักรสีแดง กำลังจะเรียกฟอร์มเก่งหลับคืนมาได้แล้ว

3. ฟาน ไดค์ โขกดุดันไม่จกตา

หลังสกอร์พลิกเป็น 1-1 ลิเวอร์พูล เล่นได้อย่างเชื่อมั่นมากขึ้น และในที่สุดพวกเขาก็พลิกสถานการณ์ได้สำเร็จจากการแซงนำเป็น 2-1 ในนาทีที่ 39 ด้วยลูกเตะมุมที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกไม่เหลือ และทั้งห้าประตูในรายการนี้ของสตาร์ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ล้วนได้มาจากการโขกลูกเตะมุมทั้งสิ้น

รวมทุกรายการในการลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล กองหลังร่างยักษ์คลำเป้าได้ 30 เม็ดแล้วโดยในจำนวนนี้ 26 เม็ดเกิดจากการโขกบอลปะทะตาข่าย และนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับรั้ว แอนฟิลด์ เมื่อเดือนม.ค.2018 มีนักเตะใน พรีเมียร์ลีก คนเดียวที่โขกพังประตูได้มากกว่า ฟาน ไดค์ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมนี้คือ แฮร์รี่ เคน อดีตหัวหอก สเปอร์ส ซึ่งขวิดได้ทั้งหมด 34 ประตู

และเหมือนยังไม่สาแก่ใจ นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก อิบราฮิมา โกนาเต้ ไม่ยอมน้อยหน้าโหม่งลูกเตะมุมจาก โดมินิค โซโบซไล ปะทะตาข่ายได้เช่นกันอันทำให้ทีมแชมป์ พรีเมียร์ลีก หนีห่างเป็น 3-1 ในครึ่งแรก และเป็นเกมแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2024 ด้วยที่ เร้ด แมชีน ยิงได้สามตุงใน 45 นาทีแรก

4. เวียร์ตซ์ ยกภูเขาออกจากอก

แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ทีมเสียประตูก่อน แต่ในเมื่ออินทรีแดงดำ ไม่ใช่คู่ต่อกรของ หงส์แดง ในที่สุดการกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดก็กลายเป็นเกมที่ดีที่สุดของ เวียร์ตซ์ นับตั้งแต่เขาย้ายมาค้าแข้งกับ เร้ด แมชีน เลยก็ว่าได้

แน่นอนว่าสตาร์ด๊อยทช์ยังไม่ได้โชว์ฟอร์มที่วิเศษวิโสออกมาเหมือนสมัยที่เขาเป็นขุนพลทีม เลเวอร์คูเซ่น แต่อย่างน้อยเจ้าตัวก็น่าจะยกภูเขาออกจากอกได้แล้วหลังไม่มีทั้งประตู และแอสซิสต์ในสีเสื้อของ หงส์แดง

ถึงขณะนี้ เวียร์ตซ์ ยังคลำเป้าไม่ได้ก็จริงเนื่องจากลูกฟรีคิกของเขาโดนนายทวารเจ้าบ้านปัดพ้นคาน แต่ในที่สุด สตาร์สัญชาติไส้กรอกก็จัดแอสซิสต์แรกให้ ลิเวอร์พูล ได้แล้ว แถมเกมนี้เจ้าตัวเหมาสองแอสซิสต์ในเวลาแค่สี่นาทีด้วยจากการผ่านบอลให้ โคดี้ กัคโป และ โซโบซไล เข่นให้ทีมเยือนนำห่าง 4-1 และ 5-1

5. บังโมต้องยอมรับสภาพ

หลังจาก สล็อต ลดความกดดันได้ด้วยการพาทีมชนะเป็นเกมแรกหลังแพ้สี่นัดติด มันอาจสื่อให้เห็นว่าบางที ซาลาห์ อาจต้องประเมินสถานการณ์ของตัวเองแล้วว่าซีซั่นนี้เขาไม่ใช่คีย์แมนเบอร์หนึ่งของทีมอีกต่อไปแล้ว

แม้ซีซั่นก่อน กองหน้าทีมชาติ อียิปต์ จะคว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก แต่ซีซั่นนี้เห็นได้ชัดว่าฝีเท้าของเขาตกลงไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เจ้าตัวจึงจำเป็นต้องทำใจเอาไว้ว่าไม่ใช่ทุกเกมที่เขาจะได้เล่นเป็นตัวจริง

อย่างไรเสีย ใช่ว่า สล็อต จะทิ้งขว้างพ่อค้าแข้งไอยคุปต์แบบไม่ใยดีดังจะเห็นว่าหลังจาก ลิเวอร์พูล นำห่าง นายใหญ่ชาวเมืองกังหันลมส่ง บังโม ลงเล่นหมายให้เขายิงประตูเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมาซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งตัวนักเตะเองและสโมสร

หลังได้ลงบู๊แทน กัคโป ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ซาลาห์ มีโอกาสทำสกอร์ในเกมนี้เช่นกันเนื่องจากแผงหลัง แฟร้งค์เฟิร์ต ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรดังจะเห็นว่าซีซั่นนี้พวกเขาเสียประตูเป็นเข่งโดยเฉพาะเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก สามนัดที่ผ่านมา อินทรีแดงดำ ชนะหนึ่งเกม และแพ้สองเกมด้วยสกอร์ 5-1 ทั้งสิ้น

แต่อาจเป็นเพราะกำลังอยู่ในช่วงสูญเสียความมั่นใจ ซาลาห์ จึงไม่สามารถเบิกสกอร์ได้แม้จะมีจังหวะหลุดเดี่ยวสองหน แต่ก็ไม่สามารถส่งบอลผ่านนายทวารเจ้าบ้านได้

ฉะนั้นแล้ว การย้ายมาของทั้ง เอกิติเก้ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัก กำลังทำให้ ซาลาห์ ตกอยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่ออย่างแท้จริง และยิ่งหากเขายังกลับมาสอยตาข่ายให้ทีมอย่างเป็นกอบเป็นกำดังเดิมโดยเร็วไม่ได้ ดาวเตะมัมมี่ก็หนีไม่พ้นต้องเป็นตัวเลือกอันดับรองลงไปของเจ้านายชาวดัตช์