ลิเวอร์พูล ไม่มีเวลามากนักที่จะเสียใจกับความพ่ายแพ้ในเกม "แดงเดือด" เพราะพวกเขามีโปรแกรมต้องบุกเยือน ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ ลีก เฟส วันพุธที่ 22 ตุลาคมนี้ และดูเหมือน อาร์เน่อ สล็อต กุนซือชาวดัตช์ อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในทีม
ระบบการเล่นและแท็กติกของ "หงส์แดง" ในฤดูกาลนี้ไม่เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะเรื่องการหา 11 ตัวจริงที่ลงตัวที่สุด เพราะตอนนี้ทีมยังไม่สามารถจับผู้เล่นที่เหมาะสมกับแผนการเล่นที่โค้ชอาร์เน่อต้องการได้เลย
โค้ชอาร์เน่อจำเป็นต้องหาความสมดุลให้กับทีมของเขา และเลิกเปลี่ยนตำแหน่งผู้เล่นระหว่างเกม (เช่นกรณีของ โดมินิค โซโบซไล) เพื่อช่วยลดความสับสนว่าใครอยู่ตรงไหนในสนาม และทำให้ทีมสามารถยึดระบบการเล่นให้เหมาะสมให้ได้
แฟรงค์เฟิร์ต เป็นทีมที่อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนักเพราะพวกเขาเสียประตูง่าย โดยโดนไป 18 ลูกใน 5 เกมหลังสุด แต่กระนั้นพวกเขาก็มีเกมรุกที่อันตราย ซึ่ง "เดอะ เร้ดส์" ไม่สามารถประมาททัพ "อินทรีแดงดำ" ได้เลย
ก่อนเกมนี้ กุนซือหัวใสชาวดัตช์ คงมีการปรับตัวผู้เล่นอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้สูงที่ 6 ผู้เล่นนี้จะได้รับโอกาสลงเล่นตัวจริงในแมตช์ปะทะ แฟร้งค์เฟิร์ต กลางสัปดาห์นี้
1. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
ไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่สาวก "เดอะ ค็อป" เรียกร้องให้ โค้ชอาร์เน่อ ใช้งาน โรเบิร์ตสัน เป็นตัวจริงอีกครั้ง เพราะประสบการณ์และศักยภาพของนักเตะสามารถที่จะช่วยกอบกู้สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของทีมได้
เหตุผลสำคัญที่ต้องใช้ "ร็อบโบ้" ก็คือนักเตะกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เล่นร่วมกันมานาน ทำให้มีการสื่อสารที่เข้าใจกันมากกว่า นอกจากนี้เขายังสามารถประสานงานกับ โกดี้ คักโป้ ได้ดีกว่า มิลอส เคอร์เคซ อย่างเห็นได้ชัด
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ ฉะน้นการคืนตำแหน่งให้กับแบ็กซ้ายรองกัปตันทีมก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ที่สำคัญด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เคอร์เคซ ยังไม่พร้อมที่จะเป็นตัวหลักของทีม และหากฝืนทำแบบนั้นต่อไปนักเตะมีสิทธิ์ขาดความมั่นใจจนฟอร์มเตลิดยิ่งกว่านี้
2. อูโก้ เอกิติเก้
ต้องยอมรับว่านี่คือนักเตะที่ลิเวอร์พูลเซ็นสัญญามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้และฟอร์มโดดเด่นมากๆ ดังนั้น ณ ตอนนี้เขาไม่ควรที่จะต้องนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง เพียงเพราะจำเป็นต้องหลีกทางให้ อเล็กซานเดอร์ อีซัค กองหน้าค่าตัวแพงสุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
สิ่งที่ทำให้แฟนบอล "หงส์แดง" งงก็คือ เอกิติเก้ ไม่ได้เป็นตัวจริงให้กับทีมในเกมปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์ ทั้งๆ ที่ฟอร์มและความฟิตของนักเตะเหนือกว่า อีซัค ยิ่งไปกว่านั้นพอเจ้าตัวลงสนามในช่วงครึ่งหลักสามารถปั่นปวนแนวรับ "ผีแดง" ได้ตลอด และมีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง
การที่ ลิเวอร์พูล ไม่ได้มีข้อตกลงพิเศษว่าห้าม เอกิติเก้ ลงสนามสู้กับต้นสังกัดเก่า ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสดีที่ โค้ชอาร์เน่อ จะตัดสินใจใช้งานเขาเป็นตัวจริงอีกครั้ง เพราะตอนนี้นักเตะน่าจะฟอร์มมากกว่า อีซัค
3. เจเรมี่ ฟริมปง
สาวก "เดอะ ค็อป" คงถกเถียงกันว่า ฟริมปง ควรจะลงเล่นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวา หรือปีกขวาดี แต่ด้วยผลงานของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเวลานี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาสมควรจะได้ใช้ศักยภาพของตัวเองเล่นแทนตำแหน่ง "บังโม"
จริงๆ แล้ว ฟริมปง เคยเล่นตำแหน่งปีกขวาให้กับ ลิเวอร์พูล มาแล้วตอนที่ลงตัวจริงเกมปะทะ แอตเลติโก มาดริด ขณะที่แมตช์ล่าสุดดวล แมนฯ ยูไนเต็ด เขาก็โดนส่งลงมาแทน ซาลาห์ ในช่วงท้ายครึ่งหลังและฟอร์มก็น่าสนใจมากๆ
ตอนนี้ ฟริมปง ยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งเหมือนตอนที่เล่นให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้เลย แต่นั่นอาจเป็นเพราะเขายังไม่ได้ถูกจับลงไปยืนในตำแหน่งที่เหมาะสม ดังนั้นนี่เป็งการบ้านที่ โค้ชอาร์เน่อ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน
4. ฟลอเรียน เวียร์ตซ์
เวียร์ตซ์ ไม่ได้ถูกดึงตัวมาร่วมทีมเพื่อนั่งเป็นตัวสำรอง ดังนั้น ลิเวอร์พูล ต้องส่งเขาลงเล่นเพื่อให้เกิดความคุ้นชินกับสไตล์ของ "หงส์แดง" แม้ว่าฟอร์มของเขาจะไม่ได้เปรี้ยงปร้าง แต่ทุกครั้งที่นักเตะที่ครองบอล สามารถสร้างผลกระทบกับทีมได้ตลอด
สตาร์ทีมชาติเยอรมนี ถูกเซ็นมาร่วมทีมเพื่อเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 โดย ลิเวอร์พูล มีการปรับระบบให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของเขา แต่ระบบใหม่นี้จะไม่มีทางคุ้นเคยได้เลย หากเจ้าตัวไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง
เวียร์ตซ์ ค่อนข้างโชคไม่ดีเนื่องจาเพื่อนร่วมทีมไม่สามารถจบสกอร์จากโอกาสที่เขาสร้างสรรค์ให้ หนทางเดียวที่จะสร้างและพัฒนาความเข้าใจในเกมกับเพื่อนร่วมทีมให้แข็งแกร่งขึ้น คือการให้นักเตะได้ลงเล่น
5. เคอร์ติส โจนส์
เนื่องจาก ไรอัน กราเฟนแบร์ก กองกลางชาวดัตช์ มีความเป็นไปได้ที่จะพลาดลงสนามในเกมพบ แฟร้งค์เฟิร์ต เนื่องจากข้อเท้าบิด นั่นจึงมีโอกาสที่ โจนส์ จะได้ลงเล่นตัวจริงซึ่งเป็นครั้งที่สี่ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้
กองกลางชาวอังกฤษ สามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีเมื่อถูกลงสนามในช่วงครึ่งหลัง และนักเตะสามารถที่จะเล่นได้อย่างเข้าขากับ โดมินิค โซโบซไล ในแผงมิดฟิลด์ ถ้าหาก กราเฟนแบร์ก ไม่สามารถผ่านความฟิต
โจนส์ เป็นนักเตะที่เล่นด้วยระเบียบวินัยโดยเฉพาะเกมรับ ดังนั้นในช่วงที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ฟอร์มตก และ กราเฟนแบร์ก (อาจ) ไม่ฟิต การเลือกเขาลงสนามจึงเป็นออปชั่นที่ชัดเจนหากต้องการหยุดความย่ำแย่ของทีม
6. เฟเดริโก้ เคียซ่า
การมีส่วนเกี่ยวกับข้องประตูถึง 5 ลูกทั้งๆ ที่ลงสนามเพียง 171 นาที แฟนบอลหงส์แดงลงมติเป็นเสียงเดียวกันว่า เคียซ่า เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะได้รับโอกาสลงตัวจริง แล้วทำไม โค้ชอาร์เน่อ ถึงไม่ใส่ชื่อเขาอยู่ในไลน์อัพของทีมล่ะ ?
ทุกคนคงเห็นกันแล้วว่า สตาร์ชาวอิตาเลียน ยังไม่ได้รับความไว้วางใจจาก นายใหญ่จากดินแดนทิวลิป เต็มที่ แม้ว่าเขาจะเล่นด้วยความมุ่งมั่น, วิ่งแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ตลอดก็ตาม
ในช่วงเวลานี้นักเตะในแนวรุกคนอื่นไม่สามารถทำผลงานได้ดีเท่ากับเขา แต่ทว่าแข้งชาวอิตาเลียนกลับมีโอกาสออกสตาร์ตเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นั่นคือแมตช์พบ เซาธ์แฮมป์ตัน ในศึกคาราบาว คัพ ดังนั้นสิ่งที่ โค้ชอาร์เน่อ ต้องทำก็คือกล้าเสี่ยงใช้งานเขาให้มากกว่านี้
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄