มูรินโญ่ เยือนถิ่นเก่า, ลิเวอร์พูล เจองานหิน! เกร็ดน่ารู้ 7 เกมน่าดู UCL แมตช์เดย์ที่ 2

วันอังคารที่ 30 กันยายน 

- ไครัต อัลมาตี (คาซัคสถาน) พบ เรอัล มาดริด (สเปน)

นี่คือการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองทีมในเวทียุโรป เท่านั้นยังไม่พอ นี่คือครั้งแรกที่ เรอัล มาดริด เจอกับสโมสรจาก คาซัคสถาน อีกด้วย โดย "ราชันชุดขาว" เก็บชัยชนะ 13 จาก 16 เกมหลังสุดในรอบแบ่งกลุ่ม / รอบลีก เฟส ของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (แพ้ 3) แต่ถึงกระนั้น พวกเขาเก็บคลีนชีตได้แค่นัดเดียวเท่านั้น จาก 15 เกมล่าสุดในถ้วยนี้ 

- กาลาตาซาราย (ตุรกี) พบ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)

กาลาตาซาราย แกร่งสุดๆ ในบ้านตัวเอง โดยแพ้เพียง 1 จาก 8 เกมหลังสุดในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปที่เล่นในบ้านพบกับทีมจากอังกฤษ (ชนะ 4, เสมอ 3) และแพ้เพียง 3 จาก 18 เกมเหย้าหลังสุดในเวทียุโรป (ชนะ 10, เสมอ 5) ขณะที่ "หงส์แดง" คว้าชัยได้เพียง 1 จาก 6 เกมเยือนในยุโรปที่พบทีมตุรกี (เสมอ 1, แพ้ 4) ซึ่งชัยชนะหนึ่งเดียวนั้น คือการบุกเชือด แทร็บซอนสปอร์ 2-1 ในเกมเพลย์ออฟ ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2010/11 นัดสอง

- โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) พบ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์)

มาร์กเซย ไม่แพ้เลย จาก 5 เกมที่เจอกับ อาแจ็กซ์ ในถ้วยยุโรป (ชนะ 3, เสมอ 2) แต่ถึงกระนั้น อาแจ็กซ์ แพ้แค่ 2 จาก 10 เกมหลังสุดในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม / ลีก เฟส ยามเจอกับทีมจากฝรั่งเศส (ชนะ 5, เสมอ 3) และอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ เกมนี้ เคโรนีโม รุลลี ผู้รักษาประตู มาร์กเซย ได้เจอทีมเก่าตัวเอง โดยเจ้าตัวย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2024 

- เชลซี (อังกฤษ) พบ เบนฟิก้า (โปรตุเกส)

โชเซ่ มูรินโญ่ เฮดโค้ช เบนฟิก้า กลับมาเยือนถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของทีมที่เจ้าตัวเคยพาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 3 สมัย และนี่คือเกมยุโรปนัดแรกของเจ้าตัวในการคุมทัพ "เหยี่ยวลิสบอน" รอบสองด้วย โดยที่ผ่านมา สองทีมนี้เจอกันในเวทียุโรปมาแล้ว 3 หน ซึ่งเป็นฝั่ง เชลซี ได้เฮทุกครั้ง รวมถึงเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบชิงฯ เมื่อฤดูกาล 2012/13 (เชลซี ชนะ 2-1) นอกจากนี้ "สิงห์บลูส์" ยังมีสถิติชนะทั้ง 6 เกมที่เจอกับทีมจากโปรตุเกสในบ้าน อย่างไรก็ตาม เบนฟิก้า แพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น ใน 6 เกมเยือนหลังสุดถ้วยยุโรป (ชนะ 4, เสมอ 1) 

วันพุธที่ 1 ตุลาคม 

- บาร์เซโลน่า (สเปน) พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)

ถือเป็นบิ๊กแมตช์ประจำการแข่งขันนัดที่สองเลยก็ว่าได้ โดย บาร์เซโลน่า เหนือกว่า เปแอสเช เล็กน้อย จากการเจอกันทั้งหมด 15 นัดในเวทียุโรป (ชนะ 6, เสมอ 4, แพ้ 5) อย่างไรก็ตาม สองเกมล่าสุดที่เจอกันที่บ้าน บาร์ซ่า ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น กลับกลายเป็น เปแอสเช ได้เฮด้วยสกอร์ 4-1 ทั้งสองนัด ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2020/21 และ รอบก่อนรองฯ ฤดูกาล 2023/24 และอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ เปแอสเช ซึ่งเป็นแชมป์เก่า เล่นครบ 100 นัดติดต่อกันใน แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยที่ไม่เสมอ 0-0 นับตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นตอนเจอ เรอัล มาดริด ในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2015/16

- อาร์เซน่อล (อังกฤษ) พบ โอลิมเปียกอส (กรีซ)

อาร์เซน่อล อาจเจองานไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะ 12 เกมที่เจอกับ โอลิมเปียกอส ในเวทียุโรปนั้น ชนะ-แพ้เท่ากันที่ 6 นัด อย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่จากกรีซแพ้รวด 10 เกมเยือนหลังสุดในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม / ลีก เฟส ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่าเป็นห่วงสำหรับพวกเขา ก่อนเยือนถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 

- อาแอส โมนาโก (ฝรั่งเศส) พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ)

ทั้งสองทีมเคยสร้างแมตช์แห่งความทรงจำเมื่อฤดูกาล 2016/17 โดยครั้งนั้นเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่ง โมนาโก เป็นฝ่ายได้เฮ ด้วยกฎประตูทีมเยือน (นัดแรกแพ้ 3-5 ที่อังกฤษ ก่อนเปิดบ้านทุบ ซิตี้ 3-1 นัดสอง) โดยขณะนั้น แบร์นาร์โด ซิลวา ดาวเตะ "เรือใบสีฟ้า" ลงเล่นทั้งสองนัด แต่เป็นการเล่นให้กับทางฝั่ง โมนาโก ส่วนสถิติที่น่าสนใจคือ โมนาโก แพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น จากเกมยุโรป 9 นัดหลังสุดที่เจอกับทีมอังกฤษในบ้าน แถมชนะรวดใน 3 นัดล่าสุดด้วย และยิ่งไปกว่านั้น "เรือใบสีฟ้า" แพ้รวดใน 4 เกมหลังสุดที่เตะนอกบ้านถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก  

Subinho