กาลาตาซาราย พบ ลิเวอร์พูล 5 ประเด็นเด่นก่อนเกม UCL นัดสอง

1. ต้องยกระดับผลงาน

ลิเวอร์พูล ลงสนามในฤดูกาลนี้ไปแล้ว 9 เกมในทุกรายการ (รวมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วย) แต่ฟอร์มของพวกเขายังไม่โดดเด่น บางแมตช์ต้องอาศัยช่วงทดเจ็บเพื่อคว้าชัยชนะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทีมยังขาดความคงเส้นคงวา

บางแมตช์ "หงส์แดง" สร้างผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงต้นเกมและยิงประตูขึ้นนำ แต่หลังจากนั้นฟอร์มก็แผ่วลงไปดื้อ หรือบางแมตช์อย่างเช่นเกมกับ คริสตัล พาเลซ จะเห็นได้ชัดว่า ลิเวอร์พูล แพ้ทั้งสกอร์และรูปเกม 

สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ โค้ชอาร์เน่อ สล็อต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขเป็นการด่วน เพราะหาก "เดอะ เร้ดส์" ยังเล่นด้วยฟอร์มกระท่อนกระแท่น และไม่มีความเสถียรทั้งเกมรุกและเกมรับ งานนี้สาวก "เดอะ ค็อป" คงต้องเชียร์ด้วยใจระทึกอีกแน่นอน 

อย่าลืมว่าการไปเยือน กาลาตาซาราย ไม่ใช่เกมง่ายๆ  เพราะทีมจากตุรกีขึ้นชื่อลือชาเรื่องการเล่นที่ดุดันในถิ่นตัวเอง ดังนั้นหากไม่ปรับจูนทีมให้ดีขึ้น โอกาสที่จะเห็น ลิเวอร์พูล แพ้ 2 เกมติดต่อกันก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ 

2. วางแท็คติกให้เหมาะกับทีม 

แมตช์ล่าสุดที่โดน พาเลซ ลูบคม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า โค้ชอาร์เน่อ ค่อนข้างคิดมากในการวางแท็กติค เพราะพยายามที่จะหาตำแหน่งให้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เล่น แต่สุดท้ายกลายเป็นทีมฟอร์มหลุด

การใส่ชื่อ เวียร์ตซ์ ลงเล่นแทน โคดี้ กัคโป ดูเหมือนว่าเขาจะยืนเป็นแนวรุกฝั่งซ้าย แต่พอเริ่มเกมกลายเป็นว่า จอมทัพทีมชาติเยอรมนี หุบเข้าไปเล่นตรงกลาง ทำให้ฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ มิลอส เคอร์เคซ ที่ต้องดันเกมสูงเพื่อขึ้นมาเล่นเกมรุก ซึ่งก็ทำได้ไม่ดีอีกต่างหาก

บางทีการพยายามวางแท็กติดแบบนั้นเพื่อจะให้ เวียร์ตซ์ ได้ลงสนามอาจทำให้ "หงส์แดง" เสียระบบการเล่นและสมดุลในทีม  ดังนั้นสิ่งที่ โค้ชอาร์เน่อ จำเป็นต้องกลับมาทบทวนก็คือการเลือกระบบที่เหมาะกับทีม และทำให้ เวียร์ตซ์ ได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่น่าจะเป็นออปชั่นที่ดีกว่า 

การเลือกดร็อป เวียร์ตซ์ ในเกมกับ กาลาตาซาราย อาจเป็นอีกทางเลือกที่โค้ชอาร์เน่อ จะนำมาใช้ แต่ในขณะเดียวกันหากต้องดรอปแดนกลางสักคนเชื่อว่าตอนนี้หวยอาจจะไปออกที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งสภาพความฟิตยังไม่ค่อยเต็มร้อย

3. อย่าประมาทฟอร์ม กาลาตาซาราย 

แม้ผลงานในเกมแรก รอบ ลีก เฟส ของ กาลาตาซาราย จะย่ำแย่ โดยพวกเขาแพ้ยับไม่นับญาติในแมตช์ดวล ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต สกอร์ 1-5 แต่ทีมของกุนซือโอคาน บูรุค กลับออกสตาร์ทในลีกแดนไก่งวงได้อย่างยอดเยี่ยม

เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กาลาตาซาราย เฉือนชนะ อลันยาสปอร์ 1-0 ซึ่งเป็นการเก็บชัยชนะในเกมซูเปอร์ลีกติดต่อกันเป็นนัดที่ 7 และยังคงรักษาสถิติไร้พ่ายในลีกได้อย่างสมบูรณ์แบบ

จุดเด่นของ กาลาตาซาราย ก็คือพวกเขาแข็งแกร่งในบ้านตัวเอง โดยแพ้แค่เกมเดียวจาก 19 เกมหลังสุดในรังเหย้า แต่ถึงแม้จะคว้าแชมป์ลีกตุรกีมา 3 ฤดูกาลติดต่อกัน แต่สิ่งนั้นไม่ได้แปรเปลี่ยนเป็นความสำเร็จในฟุตบอลถ้วยยุโป 

กาลาตาซาราย ไม่ชนะในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป 7 นัดหลังสุด (เสมอ 4 แพ้ 3)  และเก็บชัยชนะได้เพียง 1 นัดจาก 18 เกมหลังสุดในรอบแบ่งกลุ่ม/รอบลีก เฟส ของ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยเสมอ 5 นัด และแพ้ถึง 12 นัด

4. ลิเวอร์พูล ดวล กาลาตาซาราย ไม่ใช่งานง่าย

กาลาตาซาราย เป็นหนึ่งในสามสโมสรจากประเทศตุรกีที่เคยดวลกับ ลิเวอร์พูล ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป โดยก่อนหน้านี้ก็มี แทร็บซอนสปอร์ และ เบซิคตัส ที่ปะทะแข้งกับ "หงส์แดง" มาแล้ว

"เดอะ เร้ดส์" เคยบุกชนะทีมจากตุรกีในแดนไก่งวงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยบุกชนะ แทร็บซอนสปอร์ 2-1 ในศึกยูโรปา ลีก รอบเพลย์ ออฟ เมื่อฤดูกาล 2010/11 ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือรอย ฮ็อดจ์สัน แถมไม่เคยเก็บคลีนชีตได้เลยเมื่อยกพลเยือนตุรกี 

ที่สำคัญ บูรุค ซึ่งเข้ามารับงานกุมบังเหียน กาลาตาซาราย เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2022 เคยลงเล่นให้สโมสรปะทะกับ ลิเวอร์พูล มาแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2006 โดยทีมจากแดนไก่งวงชนะ "หงส์แดง" 3-2  

5. เกมสำคัญดวล เชลซี ก่อน ฟีฟ่า เดย์

สำหรับเกมนี้ถือว่ามีความสำคัญในเรื่องขวัญกำลังใจของ ลิเวอร์พูล อย่างมาก เพราะพวกเขามีโปรแกรมใหญ่ในการบุกเยือน เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันที่ 4 ตุลาคมนี้

โค้ชอาร์เน่อ แอนด์ โค. ต้องการชัยชนะในเกมเยือน กาลาตาซาราย อย่างมาก หลังจากฟอร์มหลุดอย่างน่าใจหายในแมตช์ที่ออกไปแพ้แบบ คริสตัล พาเลซ ทั้งรูปเกมและสกอร์ 

ดังนั้นการเก็บชัยชนะในแมตช์พบ กาลาตาซาราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ กุนซือชาวดัตช์ ได้ดวลกับทีมจากตุรกี มีความสำคัญมากๆ เพราะจะเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กับทีมก่อนเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม"

สำหรับเกมพบ เชลซี พวกเขาไม่สามารถทำแต้มหลุดมือได้เลย เพราะถ้าหาก อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะได้ และ "หงส์แดง" ไม่ชนะ ตำแหน่งจ่าฝูงลีกจะเปลี่ยนมือทันทีก่อนช่วงฟีฟ่า เดย์ !!