คืนอันแสนหวานของ แรชฟอร์ด

บาร์ซ่า เก็บ 3 แต้มแรกใน แชมเปี้ยนส์ลีก สำเร็จ ประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด สำคัญอย่างยิ่ง

ทั้ง 2 ประตูของ แรชฟอร์ด ทำให้เงื่อนไขในการเล่นของ บาร์ซ่า ง่ายขึ้น สร้างความแตกต่างให้กับเกมที่ใกล้เคียงกัน เพิ่มความมั่นใจในการเล่นต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่นที่ปลุกเร้าทีมของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง 

กระนั้น จุดเริ่มต้นทั้งหมดจนนำไปสู่ชัยชนะ ก็ต้องยกเครดิตให้กับการทำงานของทีม นักเตะทุกๆคนที่ลงสนาม เกมแพลนจึงออกมาอย่างที่วางไว้

นัดนี้ ฮันซี่ ฟลิค ทำได้เยี่ยมทั้งเกมแพลนและการเลือกตัวผู้เล่นลงสนาม 

เขาอ่านว่า นิวคาสเซิ่ล จะเดินเกมดุดันตั้งแต่เสียงนกหวีดเเรก ขึ้นมาเพรสสูง มาร์กตัวแบบ man to man ซึ่งแท็คติกนี้ เอ๊ดดี้ ฮาว ใช้ได้ผลมาแล้วหลายครั้งเวลาเล่นเกมใหญ่ ตัวอย่างเช่นนัดชิงคาราบาวคัพที่พวกเขาล้ม ลิเวอร์พูล เมื่อซีซั่นที่แล้ว 

ฟลิค สั่งการว่า ไม่ว่าอย่างไร 15 นาทีแรก ต้องต้านให้อยู่ ห้ามเสียประตู ไม่งั้นจะเข้าทาง นิวคาสเซิ่ล

รูปเกมออกมาอย่างที่คาด 'สาลิกาดง' บู๊เข้าใส่ สู้ทุกบอล เล่นด้วยความเข้มข้น บอลสปีดบอลรวดเร็ว

ช่วงต้นเกมกุญแจสู่ชัยชนะดอกแรกคือเซฟของ โจน การ์เซีย ในนาทีที่ 23 

บรูโน่ กิมาไรซ์ โชว์ความเก๋าด้วยการดึงจังหวะหลอกจนไลน์เช็คล้ำหน้า บาร์ซ่า รวน ก่อนสะกิดบอลให้ แอนโธนี่ เอลังก้า ที่ควบมาจากด้านหลังพาบอลทะลุขึ้นไปทางขวาด้วยความเร็ว 

เป็นเพลย์ที่ นิวคาสเซิ่ล เล่นได้ยอดเยี่ยม ก่อนที่จังหวะจบ เอลังก้า จะจ่ายให้ตัวที่ล้ำในทีแรก(แต่ไม่ได้เล่น) อย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้ซัดเต็มๆ แต่ การ์เซีย โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันเอาไว้ได้ 

หลังจากเกมผ่านไป 25 นาที บาร์ซ่า ก็เริ่มตั้งลำได้ ทีมเอาตัวรอดจากการเพรสซิ่งของ นิวคาสเซิ่ล ด้วยความยอดเยี่ยมของคู่ pivot อย่าง เดยอง และ เปดรี 

บาร์ซ่า เริ่มคุมเกม ครอบครองบอลอย่างต่อเนื่องซึ่งสำคัญมาก

เพราะแม้จะนำไปสู่การทำประตูไม่ได้ แต่การที่บอลอยู่กับพวกเขาเป็นส่วนใหญ่ คิดเป็น 64 % (ช่วงเวลานั้น) คือการเบรกโมเมนตั้มของฝั่ง นิวคาสเซิ่ล ที่กำลังมา 

หลักคิดง่ายๆ เมื่อบอลอยู่กับ บาร์ซ่า, นิวคาสเซิ่ล ก็ไม่ได้อยู่ในเกมของพวกเขา

สกอร์ 0-0 ใน 45 นาทีแรก ถือว่าน่าพอใจสำหรับ บาร์ซ่า ในวันที่ไร้ ลามีน ยามาล ตัวทำลายโซนเบอร์หนึ่งของทีมที่บาดเจ็บ 

เข้าสู่ครึ่งหลัง แม้ บาร์ซ่า จะครองบอลและควบคุมจังหวะการเล่นได้มากกว่า (possession 39%-61%) แต่ นิวคาสเซิ่ล ไม่เคยทำให้เกมง่าย นอกจากความเข้มข้นในการเล่นที่ใส่ลงไปแล้ว ในแง่แท็คติก ลูกเซตพีซก็ยังอันตรายมากๆ

การดวลลูกกลางอากาศกับผู้เล่นอย่าง แชร์,เบิร์น หรือ โจลินตอน ไม่ใช่งานง่ายเลย และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเกมนี้คู่หูของ กูบาร์ซี่ จึงเป็น อาเราโฮ 

ปราการหลังอุรุกวัยมีจุดเด่นที่ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และลูกกลางอากาศ ซึ่งคือทุกอย่างที่ทีมต้องการในสนาม แต่จะอย่างไร มันก็เป็นเกมที่ยากอยู่ดี 

หลังเกม ฟลิค ถึงกับบอกเลยว่านี่คือเกมที่ยากมากๆ

1. เพราะนี่คือ แชมเปี้ยนส์ลีก 2. บรรยากาศในสนาม และ 3. ทีมนิวคาสเซิ่ล (คุณภาพ)

แต่อย่างที่จั่วหัวไว้ข้างต้น ที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค เมื่อคืนวันพฤหัสบดี แม้ นิวคาสเซิ่ล จะเล่นได้น่าประทับใจ แต่มันคือค่ำคืนอันแสนหวานของ แรชฟอร์ด 

ดาวยิงทีมชาติอังกฤษคือคนที่สร้างความแตกต่างและชี้ขาดผลแพ้-ชนะอย่างแท้จริง

จากความผิดพลาดของแนวรับ นิวคาสเซิ่ล เป็นส่วนประกอบ ทั้ง ฟาเบียน แชร์ ที่ประกบห่าง และ แดน เบิร์น สกัดมาเข้าทาง

กระนั้นคุณปฏิเสธความยอดเยี่ยมของ ดร.แรชฟอร์ด ไม่ได้เลย 

น.58 ประตู 0-1 โขกลูกเปิดของ กุงเด้ ได้สมบูรณ์แบบทั้งน้ำหนักและทิศทางเป๊ะ 

น.67 ประตู 0-2 พาบอลหนีไปหามุมยิง ก่อนจะตะบันด้วยขวา ลูกพุ่งแรงราวกระสุนปืนใหญ่ ทั้งเร็วและคม จน นิค โป๊ป เอาไม่อยู่ 

กับลูกนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นผลพวงมาจากประตูแรก เพราะจังหวะท่าทางการยิงของ แรชฟอร์ด ดูมั่นใจอย่างมาก 

บาร์ซ่า หนีห่าง 0-2 คือการกุมความได้เปรียบมหาศาล หลังจากนั้น ฟลิค ก็เริ่มเปลี่ยนตัว 

น.69 ถอด กูบาร์ซี่ เอา คริสเตนเซ่น ที่สดและถนัดเกมแบบอังกฤษลงไป

ถอด เลวานดอฟสกี้ ที่เล่นไม่ออกไปพัก ให้ ฉลาม ลงไปล่าเหยื่อ

นาที 81 ปรับอีก 2 ตำแหน่งถอด แรชฟอร์ด ออกให้ โอลโม่ ลง และ ส่ง เอริก การ์เซีย ลงไปแทน เคราร์ด มาร์ติน ที่โดน เอลังก้า เล่นงานจนเหนื่อยหอบ

บาร์ซ่า มีโอกาสมากขึ้น จากการเล่นทรานซิสชั่น ทั้งจาก ราฟินญ่า และ โอลโม่ แต่จบไม่ลง ก่อนที่นาที 89 จะเสียประตู 1-2 ลูกนี้ต้องให้เครดิต นิวคาสเซิ่ล และถือว่าปลุกผีขึ้นมาทันที 

แต่ช่วงทดเจ็บ 7 นาที บาร์ซ่า เล่นเกมรับได้ดี นักเตะนิ่งพอที่จะรับมือกับสถานการณ์กดดัน จนคว้า 3 แต้มในที่สุด 

แน่นอนว่า MVP นัดนี้ต้องยกให้ แรชฟอร์ด

ถือเป็นวันสำคัญของเขา หลังจากที่ 2 ซีซั่นมานี้ เจอกับคำวิจารณ์ในแง่ลบเสียส่วนใหญ่ และสำหรับกองหน้า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการยิงประตูในเกมสำคัญ ในช่วงเวลาที่ทีมต้องการ 

2 ประตูนี้นอกจากจะช่วยให้ แรชฟอร์ด หลับฝันดีแล้ว ยังช่วยให้ก้าวต่อไปมีความมั่นใจที่มากยิ่งขึ้น 

การปรับตัวจะยังคงดำเนินต่อไป แต่มันจะง่ายกว่าเดิม คืนนี้เขาได้เครดิตจากทีมเมต และเทรนเนอร์ไม่น้อย ทำให้สามารถมองถึงการแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีมได้จริงจังมากขึ้น

เป็นกำลังใจให้ แรช ครับ

#เจมส์ลาลีกา