พลังแฝงนาทีท้าย! เกร็ดหลังเกม ลิเวอร์พูล เฉือน แอต.มาดริด ศึก ชปล.

ยังรักษาสถิติชนะ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มในฤดูกาล 2025-26 เอาไว้ได้ สำหรับ ลิเวอร์พูล หลังจากล่าสุดเปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ไปได้ 3-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีก ซึ่งผลการแข่งขันและสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้ก็ทำให้เกิดเกร็ดกับสถิติบางอย่างด้วย

- สล็อต ไทม์

ลิเวอร์พูล ชุดฤดูกาล 2025-26 ทำประตูรวมในทุกรายการไปแล้ว 14 ลูก โดยในจำนวนนั้นมี 4 ประตูที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 90 ขึ้นไป หรือก็คือคิดเป็นถึง 29 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประตูทั้งหมดที่ทำได้ 

- เปิดหัวในบ้านเชื่อใจได้

นี่คือครั้งที่ 12 ที่ ลิเวอร์พูล ได้ลงเล่นแมตช์เดย์แรกประจำเกม ยูโรเปี้ยน คัพ/แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนั้นๆ ที่บ้านของตัวเอง ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่เคยต้องออกจากสนามในฐานะผู้เลย แบ่งเป็นการชนะ 10 เกมกับเสมอ 2 หน

- ผู้พิชิตหมี

ลิเวอร์พูล คือทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว่ำ แอต. มาดริด ในเกมระดับ ยูโรเปี้ยน คัพ/แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ถึง 3 นัดติดต่อกัน เพราะในฤดูกาล 2021-22 พวกเขาก็เคยดับ "ตราหมี" ด้วยสกอร์ 3-2 กับ 2-0 มาแล้ว

- รัวเร็ว

นี่คือเกมรายการระดับเมเจอร์ในถ้วยยุโรปที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ 2 ลูกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร หลังจากพวกเขาขึ้นนำ 2-0 ตอนที่เตะไปเพียง 6 นาทีเท่านั้น

ในทางตรงกันข้าม มันก็ถือเป็นครั้งแรกที่ แอต. มาดริด เสียถึง 2 ประตูภายในช่วง 6 นาทีแรกของเกมนับตั้งแต่ที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เข้ามาคุมทีมเช่นกัน หากนับเฉพาะเกมแบบเป็นทางการ

- นำแล้วไม่พลาด

ลิเวอร์พูล ไม่แพ้เกมอย่างเป็นทางการคา แอนฟิลด์ ในกรณีที่เป็นฝ่ายนำตอนเข้าสู่ช่วงพักครึ่งมา 69 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้ว โดยครั้งล่าสุดที่พวกเขาแพ้คาบ้านทั้งที่นำไปก่อนเกิดจากน้ำมือของ แอต. มาดริดเมื่อเดือนมีนาคม 2020 ที่แพ้ไป 2-3

- ไร้แข้งเจ้าถิ่นออกสตาร์ต

เกมนี้ 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ไม่มีนักเตะที่เป็นชาวอังกฤษแม้แต่คนเดียว ทำให้มันถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ "หงส์แดง" ที่พวกเขาจัดตัวจริงลงเล่นเกมระดับเมเจอร์ของถ้วยยุโรปโดยที่ไม่มีนักเตะชาวอังกฤษ

- ฟาน ไดค์ จ้าวเวหา

จนถึงตอนนี้เท่ากับว่า ฟาน ไดค์ โหม่งทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ไปถึง 25 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการแล้ว ซึ่งหากนับตั้งแต่วันที่เขาประเดิมสนามให้ทีมเมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี 2018 เป็นต้นมาแล้วล่ะก็ เขาก็ถือเป็นกองหลังที่ทำประตูจากลูกโขกได้มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรปเลยทีเดียว

- ซาลาห์ สร้างประวัติศาสตร์

เกมนี้ ซาลาห์ ผ่านบอลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทำประตูขึ้นนำให้กับทีมไปก่อนในนาทีที่ 4 ก่อนจะใส่สกอร์เองในอีก 2 นาทีให้หลัง ซึ่งมันก็ทำให้ ซาลาห์ เป็นนักเตะคนแรกหากนับเฉพาะสโมสรจากประเทศอังกฤษที่ทำได้ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ภายในช่วง 6 นาทีแรกของเกมระดับ แชมเปี้ยนส์ ลีก เลยทีเดียว

- ยอเรนเต้ ตัวอันตราย

แม้ว่า แอต. มาดริด จะกลับบ้านแบบมือเปล่า แต่ มาร์กอส ยอเรนเต้ ก็แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขาเป็นตัวอันตรายต่อ ลิเวอร์พูล เพราะเขามีส่วนร่วมกับประตูรวมแล้ว 5 ลูกจาก 2 เกมที่มาเล่นใน แอนฟิลด์ ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก แบ่งเป็น 4 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ทำให้เขาทาบสถิติการเป็นนักเตะจากทีมคู่แข่งที่บุกมาเจาะตาข่าย ลิเวอร์พูล รวมถึงมีส่วนร่วมกับประตูเยอะที่สุด โดยเป็นการครองบัลลังก์ร่วมกับ คาริม เบนเซม่า ที่ทำได้ 4 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ เช่นกัน

- เด็กเกร็ดบอล -