แอธบิลเบา0-2อาร์เซน่อล : สองซูเปอร์ซับพา อาร์เตต้า สร้างสถิติ! 5 ประเด็นปืนใหญ่ประเดิมเฮศึก UCL

1. เจ้าบ้านสลับโผสี่รายไร้ วิลเลี่ยมส์ ผู้น้อง

แอธเลติก บิลเบา เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงรวมสี่รายจากเกม ลา ลีกา นัดเฝ้าบ้านพ่ายต่อ อลาเบส 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นความปราชัยเกมลีกนัดแรกในซีซั่นของสโมสรหลังจากพวกเขากำชัยได้ตลอดสามเกมแรก

ในจำนวนนี้ สองฟูลแบ็ค อันเดร์ โกโรซาเบล และ อดาม่า โบอิโร่ ได้ออกสตาร์ตเช่นเดียวกับ มิเกล เวสก้า กองกลาง และ โรเบิร์ต นาบาร์โร่ ปีกคนสำคัญ

กระนั้นก็ดี เจ้าบ้านปราศจาก นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ปีกทีมชาติ สเปน ที่เจ็บมาจากการรับใช้ชาติก่อนแล้ว แต่ อินญากี้ พี่ชายได้ประเดิมสนามในรายการดังกล่าวเป็นเกมแรกในอาชีพพ่อค้าแข้ง

จากโผรายชื่อนักเตะ 11 คนแรกทำให้ แอธเลติก บิลเบา เป็นทีมแรกจาก ลา ลีกา ที่ใช้งานทีมตัวจริงทั้งหมดที่ไม่เคยเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก มาก่อนถัดจากที่ เรอัล มาดริด เคยจัดทัพแบบเดียวกันนี้ในเดือน ก.ย.1995

2. ปืนใหญ่ปรับรายเดียว,โยเคเรส ลุยต่อ

อาร์เซน่อล ปรับทีมจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านยำใหญ่ ฟอเรสต์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแค่รายเดียวโดย เดแคลน ไรซ์ ที่ได้พักจากนัดดังกล่าวกลับมาลงเล่นแทน มาร์ติน โอเดอการ์ด ที่พลาดเกมนี้เนื่องจากบาดเจ็บ

ด้าน วิคตอร์ โยเคเรส กองหน้าทีมชาติ สวีเดน ซึ่งกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เปรยว่าอาจพักเอาไว้ลงบู๊เกมลีกนัดฉะกับ แมนฯ ซิตี้ ยังได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงต่อ

ขณะเดียวกัน ทีม ปืนใหญ่ ได้ วิลเลี่ยม ซาลิบา กองหลังฟิตกลับมานั่งข้างสนามร่วมกับ แม็กซ์ ดาวแมน มิดฟิลด์วัยรุ่น

สำหรับ คริสเตียน มอสเกร่า กองหลังคนใหม่ของ เดอะ กันเนอร์ส ได้ลงเล่นเกมประเดิมสนามในถ้วยยุโรปของตัวเองเช่นเดียวกับ โนนี่ มาดูเอเก้ และ เอเบเรชี่  เอเซ่ ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม ปืนโต เช่นกัน

3. เช็กฟอร์มหอกสวีดิช

ปฏิเสธไม่ได้ว่า โยเคเรส เป็นนักเตะ อาร์เซน่อล ที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเกมนี้หรือแทบทุกเกมของ อาร์เซน่อล เลยก็ว่าได้เนื่องจากเขาถูกมองว่าจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญพาทีม ปืนใหญ่ ซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก หรืออาจรวมถึง แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย

แม้จะสอยตาข่ายให้ อาร์เซน่อล ได้แล้วสามประตูในลีกซึ่งถือเป็นการลดความกดดันได้สำเร็จ แต่สำหรับเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดแรกในสีเสื้อของ เดอะ กันเนอร์ส สตาร์ทีมชาติ สวีเดน ได้อยู่ในสนาม 65 นาทีก่อนโดนเปลี่ยนออกให้ ทรอสซาร์ ลงเล่นแทน

จากการลงเล่นในรายการนี้ให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซีซั่นก่อน โยเคเรส ยิงประตูในถ้วยหูใหญ่ให้สโมสรจากลีกฝอยทองได้หกลูก แต่เขายังนับหนึ่งกับทีม ปืนโต ไม่ได้จากผลงานดังนี้

สัมผัสบอล 18

ผ่านบอล 7

พยายามยิงประตู 4

ซัดบอลเข้ากรอบ 1

4. สองซูเปอร์ซับแผลงฤทธิ์

จากฟอร์มในครึ่งแรกของ อาร์เซน่อล ต้องยอมรับว่าทีมของ อาร์เตต้า เล่นกันได้อย่างย่ำแย่ และต้องเป็นฝ่ายตั้งรับการบุกของ แอธเลติก บิลเบา ซะมากกว่า ดีที่ว่าแผงหลังของพวกเขายังแข็งแกร่งมากพอ

กระทั่งเข้าครึ่งหลัง สโมสรจาก พรีเมียร์ลีก เน้นเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง และเริ่มสร้างปัญหาให้กับทีมเจ้าถิ่นได้ดีขึ้นเป็นลำดับกระทั่ง อาร์เตต้า ตัดสินใจส่ง มาร์ติเนลลี่ ลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกรายโดยปีกทีมชาติ บราซิล ใช้เวลาแค่ 36 วินาทีก็ทะลุไปสอยตาข่ายผ่าน อูไน ซิมอน ให้ทีมเยือนสตาร์ตนำ 1-0 ในนาทีที่ 72

และเพื่อความอุ่นใจในการตอกย้ำชัยชนะ ทรอสซาร์ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าเมื่อได้จังหวะสับไกให้ทีมกำชัยในที่สุด 2-0 ก่อนหมดเวลาสามนาทีซึ่งเท่ากับว่าสองตัวสำรองของทีม ปืนใหญ่ ควงกันสวมบทซูเปอร์ซับคู่พาทีมบุกมาเก็บสามแต้มได้สำเร็จ

สำหรับ มาร์ติเนลลี่ ถึงตอนนี้เขาเช็กบิลเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ห้าประตูแล้วโดยสามประตูเกิดขึ้นในเกมที่แดนกระทิงดุทั้งแมตช์บู๊กับ เซบีย่า วันที่ 24 ต.ค.2023 ตามด้วยเกมฟัดกับ เรอัล มาดริด วันที่ 16 เม.ย.2025 ก่อนมาตบท้ายด้วยประตูล่าสุดนัดบู๊กับ แอธเลติก บิลเบา วันที่ 16 ก.ย.2025

5. อาร์เตต้า สร้างสถิติน่าทึ่ง

เป็นอันว่า อาร์เตต้า ประกาศศักดาสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเองได้สำเร็จกับการเป็นกุนซือคนแรกที่คุมทีมชนะสโมสรจาก ลา ลีกา ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้หกนัดติดต่อกันหลังพาทีมบุกมาคว้าชัยได้ถึงแคว้นบาสก์

แม้จะเคยพาทีมสยบ แอธเลติก บิลเบา 3-0 ในช่วงซัมเมอร์ของรายการ เอมิเรตส์ คัพ แต่เกมที่มีความหมายนัดนี้แตกต่างไปอย่างลิบลับเนื่องจากเจ้าบ้านเล่นกันได้อย่างแข็งแกร่งกระทั่งทั้งสองทีมแทบไม่มีจังหวะทำเสียวกันสักเท่าไหร่ในช่วง 45 นาทีแรก

กระทั่งท้ายที่สุดนาทีที่ 72 มาร์ติเนลลี่ ตัวสำรองสวมบทซูเปอร์ซับทะลุหลุดเดี่ยวไปซัดบอลตุงตาข่ายให้ทีมจากลอนดอนออกนำ  จวบจนนาทีที่ 87 ทรอสซาร์ ซึ่งลุกจากม้านั่งข้างสนามไปก่อนแล้วก็ซัดลูกตอกฝาโลงให้ทีมกำราบ แอธเลติก บิลเบา 2-0 ซึ่งทำให้ อาร์เตต้า มีชัยเหนือสโมสรจากลีกสแปนิชหกนัดติดต่อกันในรายการนี้

24 ต.ค.2023 : ชนะ เซบีย่า 2-1 (เยือน)

8 พ.ย.2023 : ชนะ เซบีย่า 2-0 (เหย้า)

29 ม.ค.2025 : ชนะ จีโรน่า 2-1 (เยือน)

8 เม.ย.2025 : ชนะ เรอัล มาดริด 3-0 (เหย้า)

16 เม.ย.2025 : ชนะ เรอัล มาดริด 2-1 (เยือน)

16 ก.ย.2025 :ชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 (เยือน)